ด้วยวัยเพียง 18 ปี ผลกระทบที่ อีวาน เฟอร์กูสัน กองหน้าดาวรุ่งทีมชาติไอร์แลนด์ สร้างให้กับ ไบรท์ตัน ทีมในศึก พรีเมียร์ลีก ฤดูกาลนี้ มันมหาศาลอย่างมากทั้งในเรื่องเกมรุก และเกมรับ แค่นี้ก็เพียงพอแล้วที่จะบอกว่า เจ้าตัวสามารถก้าวไปเป็นนักเตะระดับค่าตัว 100 ล้านปอนด์ ได้ไม่ยาก
ในซีซัน 2022-23 เฟอร์กูสัน พัฒนาตัวเองจากผู้เล่นอายุน้อยที่ยังไม่มีใครรู้จัก กลายมาเป็นกำลังสำคัญในเกมรุกของ ไบรท์ตัน ภายใต้การนำทัพของเทรนเนอร์ โรแบร์โต้ เดอ แซร์บี้ อย่างเต็มตัว โดยลงสนามไปรวมทุกรายการ 28 เกม ซัดไป 10 ประตู
คาร์ล แลมบ์ พบ เฟอร์กูสัน ครั้งแรกเมื่ออายุเพียง 6 ขวบ ที่สโมสรฟุตบอล เซนต์ เควิน บอยส์ ในเมืองดับลิน เล่าว่า “ เขาบอกผมครั้งแรกตอนที่เจอกันว่า อยากเล่นใน พรีเมียร์ลีก และเขาพูดด้วยความมั่นใจจริงๆ”
“นับตั้งแต่นั้นมา เขามุ่งสู่ทุกเป้าหมายด้วยความมุ่งมั่น เหมือนกับว่าเขากำลังเดินทางเพื่อไปถึงจุดนั้น ในแผนที่ที่เขาวาดไว้ในหัว
นีล ฟ็อกซ์ ซึ่งเคยทำงานร่วมกับ เฟอร์กูสัน ที่ เซนต์ เควินส์ บอยส์ กล่าวเสริมว่า “ผมจำไม่ได้ว่านานแค่ไหนที่เราพูดว่า เขาพิเศษกว่าคนอื่น เขาเป็นสิ่งที่พิเศษจริงๆสำหรับเรา”
แลมบ์ อธิบายต่อว่า “เราเคยเล่นกับ บาร์เซโลนา ทั้งเหย้าและเยือน รวมถึงทีมระดับท็อปของยุโรปมากมาย ดังนั้น ในสนามฟุตบอลของโรงเรียนก็จะมีแมวมองจากหลายสโมสร มันจึงไม่เป็นความลับว่า เขามีศักยภาพที่ยอดเยี่ยมแค่ไหน”
“เราเคยเล่นกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่ แคร์ริงตัน และ อีวาน ทำ 2 ประตู ให้กับทีมยู-10 ของเรา แมนฯ ยูไนเต็ด กดดันเราเยอะมาก แต่เขายิงได้ 2 ประตู และผู้คนเริ่มสนใจเขาอย่างเต็มที่เมื่อเรากลับมาที่ดับลิน ซึ่งไม่กี่เดือนต่อมาแมวมองจากทีมใหญ่ในอังกฤษก็เข้ามาชมการแข่งขันของเราเป็นประจำ”
“แต่ตอนอายุ 14 ตอนที่เขายังอยู่ที่นี่ในฐานะเด็กนักเรียน โบฮีเมี่ยนส์ เรียกให้เขาไปเล่นในทีมชุดใหญ่ในการพบกับ เชลซี และนั่นคือช่วงเวลาที่มันเริ่มต้นขึ้นจริงๆ เขาลงสนาม และโชว์ฟอร์มได้ดี เขาเลี้ยงบอล หลอกกองหลังที่มีประสบการณ์ในพรีเมียร์ลีก”
“ผมคิดว่า เชลซี คงไม่รู้ว่า อีวาน อายุแค่ 14 ตอนที่เขาถูกส่งลงสนาม และพวกเขาจัดการกับเขาเหมือนนักเตะอาชีพทั่วไป”
จุดแข็งอย่างหนึ่งของ เฟอร์กูสัน คือ ความหลากหลายในการเล่น ซึ่งมันเกิดจากการเรียนรู้การเล่นตำแหน่งที่หลากลายในช่วงเริ่มต้นฝึกเล่นฟุตบอล โดยในช่วงแรกเขาเน้นไปที่การเล่นบทบาทกองกลางเป็นพิเศษ ก่อนจะขยับมายืนเป็นกองหน้าตัวเป้า
แลมบ์ เล่าต่อว่า “เราเคยแพ้ บาร์ซ่า 5-0 และในเกมนั้น ผมเคยให้เขาไปเล่นเป็นเซ็นเตอร์แบ็คเพื่อหยุดการทำประตู และเขาก็ทำ ผมจะบอกว่าตั้งแต่อายุ 12 ขวบ เขาเริ่มสนใจที่จะเป็นกองหน้าที่สามารถทำงานเป็นเพลย์เมกเกอร์ได้ด้วย”
เฟอร์กูสัน เป็นศูนย์หน้าที่ชอบมีส่วนร่วมกับเกมเสมอ และสามารถลงมาสร้างสรรค์เกมในแผงมิดฟิลด์ได้ด้วย ซึ่งเจ้าตัวก็ยอมรับว่า มี แฮร์รี่ เคน หัวหอกกัปตันทีม ท็อตแนม ฮฮตสเปอร์ เป็นต้นแบบในการเล่นฟุตบอล
ดาวยิงชาวไอร์แลนด์ กล่าวว่า “ผมคิดว่า การเคยเล่นในหลายตำแหน่งมาก่อนมันช่วยให้ผมเล่นได้อย่างเป็นธรรมชาติมากขึ้นในฐานะกองหน้ายุคใหม่ ตอนนี้คุณได้เห็นกองหน้าอย่าง แฮร์รี เคน ทำสิ่งที่ยอดเยี่ยมในสนาม
“ผมจะไม่แปลกใจเลยถ้าเขาแคยล่นกองกลางมาก่อนตั้งแต่ยังเป็นเด็ก ผมสามารถเข้าใจแนวทางของการวิ่งที่จะทำประตู หรือเวลาที่จะชะลอตัวเองเพื่อรอการจ่ายบอลจากเพื่อนร่วมทีม มันช่วยให้ผมสมบูรณ์แบบมากขึ้น”
ขณะเดียวกัน เดอ แซร์บี้ ก็ยอมรับว่า เฟอร์กูสัน ไม่เหมือนกับนักเตะอายุ 18 ปี คนอื่นๆ โดยระบุว่า “เขาเป็นนักเตะที่ยอดเยี่ยมอยู่แล้ว ผมคิดว่าเขาจะกลายเป็นหนึ่งในผู้เล่นที่ดีที่สุด และเป็นกองหน้าที่ดีที่สุดในพรีเมียร์ลีก”
แลมบ์ กล่าวว่า “เขาเป็นนักฟุตบอลที่ดี เขาค่อนข้างตัวใหญ่ สูงและแข็งแรง แต่เขาไม่ใช่คนเชื่องช้า หรือเป็นกองหน้าตัวเป้าแบบเดิมๆ มันแทบไม่มีอะไรขาดหายไปเลยในทางเทคนิคในเกมของเขา เขาสามารถเล่นในระดับสูงได้”
ศักยภาพ และคุณสมบัติทั้งหมดของ เฟอร์กูสัน ในวัยเพียง 18 ปี นั้น ทำให้เขามีโอกาสก้าวขึ้นมาเป็นดาวยิงระดับโลกได้ไม่ยาก และปฏิเสธไม่ได้เลยว่า ไบรท์ตัน กำลังมีเพชรเม็ดงามราคาเกือบ 100 ล้านปอนด์ อยู่ในมือแล้ว