อย่างที่แฟนๆ รู้กันเป็นอย่างดีว่าในโลกลูกหนังยุคปัจจุบันเกมฟุตบอลถือเป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่สามารถสร้างรายได้ให้กับสโมสรเป็นอย่างมาก ซึ่งนอกเหนือจากเรื่องค่าลิขสิทธิ์, ตั๋วเข้าชมเกม รวมถึงสินค้าของทีมด้วยแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่ถือเป็นการทำกำไรให้กับสโมสรเป็นอย่างมากก็คือเรื่องของการซื้อขายนักเตะในสโมสรนั่นเอง เราลองไปดู 10 ดีลที่สร้างกำไรมหาศาลในวงการฟุตบอลกัน
10. โธมาส์ เลอมาร์ Club Atletico de Madrid v RCD Mallorca – La Liga Santander / Angel Martinez/GettyImages
ตัวรุกชาวฝรั่งเศสที่ โมนาโก กระชากตัวมาจาก ก็อง ด้วยค่าตัว 3.6 ล้านปอนด์ ก่อนจะพัฒนาฝีเท้าขึ้นมาและประสบความสำเร็จกับทีมจนกระทั่งปี 2018 แอตเลติโก มาดริด ควัดเงิน 64.8 ล้านดึงตัวไปร่วมทีมทำให้ทีมดังจาก ลีกเอิง ทำกำไรจากแข้งรายนี้ได้ถึง 61.2 ล้านปอนด์เลยทีเดียว
9. เฟอร์กิล ฟาน ไดค์Real Madrid v Liverpool – UEFA Champions League Final / Mike Hewitt/GettyImages
ปราการหลังชาวฮอลแลนด์ที่ เซาแธมป์ตัน ดึงตัวมาจาก เซลติก ในปี 2015 ด้วยค่าตัว 14.1 ล้านปอนด์ ซึ่งก็อย่างที่ทราบกันว่าที่สุดแล้ว ลิเวอร์พูล ยอมทุ่มเงินกว่า 76.1 ล้านปอนด์คว้าตัวไปในปี 2018 ทำกำไรให้กับ นักบุญ มหาศาลถึง 62 ล้านปอรด์ด้วยกัน
8. แฮร์รี แมคไกวร์Manchester United v Newcastle United – Premier League / Ian MacNicol/GettyImages
เซ็นเตอร์แบ็คทีมชาติอังกฤษถูก เลสเตอร์ กระชากตัวมาจาก ฮัลล์ ซิตี้ ด้วยค่าตัวเพียง 12.3 ล้านปอนด์ในปี 2017 ก่อนจะถูก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ซื้อต่อไปในปี 2019 ด้วยค่าตัว 78.3 ล้านปอนด์ ทำให้ จิ้กจอกสยาม ฟันกำไรเหนาะ ๆ 66 ล้านปอนด์ในดีลนี้
7. คริสเตียโน โรนัลโด้Espanyol v Real Madrid – La Liga / Etsuo Hara/GettyImages
ซุเปอร์สตาร์ชาวโปรตุเกสที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ดึงตัวมาปลุกปั้นตั้งแต่ปี 2003 จาก สปอร์ติง ลิสบอน ด้วยค่าตัวราว 17.1 ล้านปอนด์ ก่อนจะระเบิดฟอร์มเทพจน เรอัล มาดริด ทุ่มเงิน 84.6 ล้านปอนด์คว้าตัวไปร่วมทีมเมื่อปี 2009 สร้างกำไรให้ ปีศาจแดง ราว 67.5 ล้านปอนด์เลยทีเดียว
6. เจดอน ซานโชManchester United v Crystal Palace – Premier League / Robbie Jay Barratt – AMA/GettyImages
ปีกชาวอังกฤษที่ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ กระชากตัวมาจาก แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ด้วยค่าตัวเพียง 7 ล้านปอนด์เมื่อปี 2017 จนกระทั่งหน้าร้อนปี 2021 ที่ผ่านมา แมนฯ ยูไนเต็ด ควักเงินกว่า 76.5 ล้านดึงตัวมาเสริมทัพ ซึ่งนั่นทำกำไรให้ เสือเหลือง ถึง 69.5 ล้านปอนด์
5. เอเดน อาซาร์Real Madrid v Paris Saint-Germain – UEFA Champions League / Anadolu Agency/GettyImages
ยอดตัวรุกชาวเบลเยียมที่ เชลซี ซื้อมาจาก ลีลล์ ในปี 2012 ด้วยค่าตัว 31.5 ล้านปอนด์ หลังจากแจ้งเกิดและประสบความสำเร็จกับ สิงโตน้ำเงินคราม ก็เป็น เรอัล มาดริด ที่ทุ่มเงิน 103.5 ล้านกระชากตัวไปเมื่อปี 2019 ทำกำไรให้ สิงห์บลู ถึง 72 ล้านปอนด์เลยทีเดียว
4. แกเร็ธ เบลChampions League – Borussia Dortmund v Real Madrid / VI-Images/GettyImages
ตัวรุกชาว เวลส์ ที่ ท็อตแนม ฮ็อตสเปอร์ คว้าตัวมาในปี 2007 จาก เซาแธมป์ตัน ด้วยค่าตัวเพียง 13.2 ล้านปอนด์ ก่อนจะพัฒนาฝีเท้าและการเป็นซุเปอร์สตาร์ของทีมได้สำเร็จ จนกระทั่งปี 2013 ราชันชุดขาว ยอมควักเงิน 90.9 ล้านแลกกับตัวแข้งรายนี้พร้อมทำกำไรกว่า 77.7 ล้านปอนด์ให้กับ ไก่เดือยทอง ในการซื้อขายครั้งนี้
3. อุสมาน เดมเบเลBarcelona v Villarreal – La Liga / Power Sport Images/GettyImages
ปีกชาวฝรั่งเศสที่ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ดึงตัวมาจาก แรนส์ ด้วยค่าตัว 31.5 ล้านปอนด์ในปี 2016 แต่หลังจากนั้นเพียง 1 ปี บาร์เซโลนา จัดการทุ่มเงินกว่า 121.5 ล้านปอนด์กระชากตัวไปแทนที่ เนย์มาร์ ซึ่งสร้างกำไรให้ เสือเหลือง ถึง 90 ล้านปอนด์ในระยะเวลาเพียง 1 ซีซั่นเท่านั้น
2. ฟิลิเป้ คูตินโญBarcelona v Espanyol – Spanish Copa del Rey / Power Sport Images/GettyImages
เพลย์เมคเกอร์ที่ ลิเวอร์พูล คว้าตัวมาจาก อินเตอร์ มิลาน ด้วยค่าตัวสุดถูกราว 11.7 ล้านปอนด์ในปี 2013 ก่อนจะก้าวขึ้นมาเป็นเดอะแบกของทีมกระทั่งปี 2018 เจ้าตัวสินใจย้ายไปอยู่กับ บาร์เซโลนา ด้วยค่าตัว 121.5 ล้านปอนด์ ทำกำไรให้ หงส์แดง กว่า 109.8 ล้านปอนด์เลยทีเดียว
1. เนย์มาร์AS Monaco v Paris Saint Germain – French League 1 / Soccrates Images/GettyImages
หัวหอกชาวบราซิลที่ บาร์เซโลนา ดึงตัวมาจาก ซานโตส ในปี 2013 ด้วยค่าตัว 79.2 ล้านปอนด์ ก่อนจะถูก ปารีส แซงต์ แชร์กแมง มาคว้าตัวไปในปี 2017 ด้วยค่าตัวสูงถึง 199.8 ล้านปอนด์ ซึ่งทำกำไรให้ เจ้าบุญทุ่ม มากถึง 120.6 ล้านปอนด์นั่นเอง