ราล์ฟ รังนิค ยืนยันว่าเขาจะใช้ระบบการเล่น 4-3-3 กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ต่อไป โดยเชื่อว่านี่คือระบบที่เหมาะกับผู้เล่นที่มีอยู่และยังทำให้ทีมทำผลงานได้น่าพอใจในช่วงหลัง ตามรายงานจาก แมนเชสเตอร์อิฟนิงนิวส์
กุนซือชาวเยอรมันนำระบบ 4-2-2-2 มาใช้ในการคุมทีมช่วงแรกที่เข้ามาคมทีม ก่อนที่จะเปลี่ยนเป็น 4-2-3-1 หลังจากที่แพ้ วูล์ฟแฮมป์ตัน เมื่อช่วงต้นเดือนมกราคม โดยใช้แผนนี้ในเกม เอฟเอคัพ ที่เอาชนะ แอสตัน วิลล่า ไปได้ในรอบ 3 และเปลี่ยนเป็นระบบ 4-3-3 ในการเจอกับทีม สิงห์ผยอง อีกครั้งในศึก พรีเมียร์ลีก ในอีก 5 วันต่อมา
รังนิค นำระบบดังกล่าวมาใช้กับทีมของเขาใน 5 เกมหลังสุด ซึ่งผลงานออกมาเป็นที่น่าพอใจ โดย แมนฯ ยูไนเต็ด ยังไม่แพ้ใครในช่วงเวลาปกติ และทำให้พวกเขาสามารถครองบอลและทำเกมรุกได้อันตรายมากขึ้น แม้ว่าจะยังไม่สมบูรณ์แบบก็ตาม ซึ่งนายใหญ่ชาวเยอรมันได้กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า
“การออกสตาร์ทด้วยแผนนี้ ถือว่าเป็นเรื่องที่สมเหตุสมผล ซึ่งเรามีความคุ้นเคยและทีมก็เคยเล่นแบบนี้มาก่อน อย่างที่คุณรู้ในเกมแรกที่เจอกับ คริสตัล พาเลซ เราเล่นด้วยระบบ 4-2-2-2 เช่นเดียวกับที่ เซาแธมป์ตัน ใช้อยู่ แต่เมื่อเรานึกถึงนักเตะที่เรามีอย่าง บรูโน เฟอร์นันเดส และ ปอล ป็อกบา มันน่าจะเป็นแผนการเล่นที่เหมาะกับจุดแข็งของพวกเขามากกว่าการที่จะเล่นในตำแหน่งหมายเลข 8 ที่เราเคยทำมาแล้ว”
“ผมคิดว่านี่เป็นแผนการที่เล่นที่เหมาะสมกับพวกเรา ซึ่งมันทำให้นักเตะส่วนใหญ่หรือทั้งหมดนั้นได้เล่นในตำแหน่งที่พวกเขาถนัดอีกด้วย” นายใหญ่ ปีศาจแดง กล่าว