กลายเป็นเรื่องฉาวทันทีเมื่อมี แฟนบอลเลสเตอร์ ซิตี้ รายหนึ่งไม่พอใจที่ทีมรักตกเป็นฝ่ายตามหลัง นอตติ้งแฮม ฟอเรสต์ 0-3 ในการแข่งขันฟุตบอล เอฟเอคัพ รอบสี่ ก่อนกระโดดเข้าทำร้ายนักเตะคู่แข่งถึงในสนามเมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ 6 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา
โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในช่วงนาทีที่ 32 เมื่อ โจ วอร์รัลล์ ดาวเตะเจ้าถิ่นโหม่งทำประตูให้ นอตติ้งแฮม ฟอเรสต์ นำห่าง เลสเตอร์ ซิตี้ ออกไปเป็น 3-0 ซึ่งหลังยิงประตูได้บรรดานักเตะเจ้าบ้านก็วิ่งเฮฉลองกันเป็นการใหญ่ แต่แล้วก็มีแฟนบอลรายหนึ่งวิ่งตามไปในกลุ่มด้วย
ก่อนที่ชายคนดังกล่าวจะสาวหมัดใส่หน้าของ คีแนน เดวิส ผู้เล่นของเจ้าบ้านจนเกิดเหตุการณ์ชุลมุนในสนาม ท่ามกลางความงุนงงของแฟนบอล รวมถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เข้ารวบตัวได้ในเวลาอันรวดเร็ว ก่อนนำตัวไปสอบสวนยังสถานีตำรวจ
ด้าน สโมสรเลสเตอร์ ซิตี้ ได้ออกแถลงการณ์ขอโทษต่อ น็อตติงแฮม ฟอเรสต์ เกี่ยวกับเหตุการณ์นี้ พร้อมทั้งยืนยันว่าจะแบบแฟนบอลรายดังกล่าวห้ามเข้าชมเกมทั้งในบ้าน และนอกบ้านตลอดชีวิต “สโมสรรู้สึกตกใจกับพฤติกรรมดังกล่าวและขอแสดงความเสียใจต่อ น็อตติงแฮม ฟอเรสต์”
“เราขอชื่นชมการทำงานที่รวดเร็วของเจ้าหน้าที่สนาม ซิตี้ กราวน์ ในการจับกุมบุคคลที่เกี่ยวข้องซึ่งจะถูกแบนตลอดชีวิตจากการแข่งขันทั้งหมดของ เลสเตอร์ ซิตี้ ทั้งในบ้านและนอกบ้าน และเราจะให้การสนับสนุนทุกอย่างแก่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการดำเนินการที่เหมาะสมต่อไป”
สำหรับ “แชมป์เก่า” เลสเตอร์ ซิตี้ ต้องยุติเส้นทางในปีนี้เพียงแค่รอบ 4 ในรายการนี้ และหมดสิทธิ์ผ่านเข้าไปป้องกันแชมป์ หลังจากที่จบเกมตกเป็นฝ่ายแพ้ให้กับ นอตติ้งแฮม ฟอเรสต์ เจ้าบ้านไปแบบขาดลอย 1-4