คนเราเมื่อลงมือทำอะไรสักอย่างด้วยความรัก ย่อมมีพลังแฝงช่วยขับเคลื่อนให้ทำจนสุดความสามารถ แต่เมื่อความรักหรือแรงจูงใจหมดลงไปก็ยากที่จะกลับมาเหมือนเดิม เช่นเดียวกับ เดวี พร็อพเพอร์ อดีตนักเตะทีมชาติเนเธอร์แลนด์ วัย 30 ปี ที่ตัดสินใจอำลาวงการฟุตบอลก็เพราะว่าหมดรักในกีฬาชนิดนี้ไปแล้ว
พร็อพเพอร์ ที่เคยสร้างชื่อกับการมาเล่นบนเวทีพรีเมียร์ลีกกับ ไบรท์ตัน แอนด์ โฮฟ อัลเบียน ช่วงปี 2017-2021 รวมถึงเคยติดทีมชาติเนเธอร์แลนด์ตั้งแต่ปี 2015-2019 ทั้งสิ้น 19 นัด ยิงได้ 3 ประตู ได้ตัดสินใจย้ายกลับมาเล่นที่บ้านเกิดกับ พีเอสวี ไอนด์โฮเฟ่น เมื่อเดือนมิถุนายนปีที่ผ่านมา แต่ท้ายที่สุดแล้วเขาก็ประกาศแขวนสตั๊ดในวันที่ 4 มกราคม 2022 ทั้งที่ยังเหลือสัญญากับ พีเอสวี ถึงหนึ่งปีครึ่งก็ตาม ซึ่งเขาได้เผยสาเหตุแขวนสตั๊ดผ่านทางเว็บไซต์สโมสรว่า
“ผมตัดสินใจครั้งสุดท้ายที่จะบอกลาการเป็นนักฟุตบอลอาชีพก่อนคริสต์มาส มันทำให้ผมรู้สึกโล่งใจ นั่นเป็นเหตุผลที่ผมเลือกถูกแล้ว”
จากนั้นเขาจึงได้เผยถึงความยากลำบากตลอด 4 ปีที่เล่นในพรีเมียร์ลีกว่า “ตอนที่ผมอยู่ต่างประเทศ ผมค่อยๆสูญเสียความรักฟุตบอล มันยากสำหรับผมในการมีระเบียบวินัยเพื่อจะได้มีประสิทธิภาพการเล่นฟุตบอลให้ดีที่สุด ชีวิตของผมถูกครอบงำด้วยตารางฟุตบอลที่วุ่นวาย บวกกับวิกฤตการณ์โควิด ทำให้ไม่มีญาติและเพื่อนมาเยี่ยม มันไม่ได้ช่วยให้ชีวิตผมดีขึ้นเลย”
นอกจากนี้ เขาได้กล่าวถึงการกลับมาแขวนสตั๊ดกับ พีเอสวี ว่า “ผมรู้สึกขอบคุณที่สโมสรทำให้ผมรู้สึกเป็นที่ต้อนรับ ผมหวังว่าจะค้นพบความสุขในการเล่นฟุตบอลอีกครั้ง แต่มันไม่เป็นเช่นนั้น เพราะผมรู้สึกไม่สบายใจในโลกของฟุตบอล ผมไม่ต้องการที่จะเป็นส่วนหนึ่งของมันอีกต่อไป”
“ผมจะใช้เวลาค้นหาว่าตัวเองสนใจอะไรและจะทำอะไรต่อไป แน่นอนว่าผมมีช่วงเวลาที่สวยงามและจะจดจำมันตลอดไป เรามาดูกันว่าผมจะคิดถึงฟุตบอลไหม แต่ผมพร้อมจะโฟกัสกับสิ่งใหม่ๆ ผมอยากจะขอบคุณครอบครัว, ญาติ และเพื่อนๆ ที่ให้การสนับสนุนมาตลอด ตอนนี้ถึงเวลาที่จะออกไปลงทุนทำอะไรสักอย่างแล้ว” พร็อพเพอร์ กล่าวปิดท้าย
ด้าน จอห์น เดอ ยอง ผู้อำนวยการฝ่ายฟุตบอลของ พีเอสวี ได้ออกมากล่าวอำลา พร็อพเพอร์ หลังประกาศแขวนสตั๊ดครั้งนี้ว่า “เราหวังว่าเขาจะมีส่วนร่วมในความสำเร็จกับ พีเอสวี ในอนาคต แต่เราซาบซึ้งในความซื่อสัตย์ต่อตัวเองของ พร็อพเพอร์ และต่อสโมสร พวกเรารู้สึกขอบคุณสำหรับสิ่งที่เขาทำเพื่อสโมสรตลอดหลายปีที่ผ่านมา และสำหรับการคว้าแชมป์ลีกเนเธอร์แลนด์ในปี 2016”