หลังจากที่ ราล์ฟ รังนิก ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้จัดการทีมคนใหม่ของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และได้รับวีซ่าทำงานเป็นที่เรียบร้อย ไมเคิล คาร์ริค ก็ตัดสินใจลาออกจากตำแหน่งโค้ชทีมชุดใหญ่ และออกจากสโมสร หลังสิ้นสุดการคุมทีมในฐานะผู้จัดการทีมชั่วคราวเป็นเวลา 3 นัดให้กับทีม
คาร์ริค ประกาศลาออกจากสโมสร หลังพาทีมชนะ อาร์เซนอล 3-2 เมื่อวันพฤหัสบดี โดย 2 นัดก่อนหน้านั้นเป็นการชนะ บียาร์เรอัล 2-0 และเสมอ เชลซี 1-1
เขาเข้าร่วมการเป็นสตาฟฟ์โค้ชทีมชุดใหญ่ เมื่อเขารีไทร์ในปี 2018 และทำหน้าที่ภายใต้การคุมทีมของ โชเซ มูรินโญ และ โอเล กุนนาร์ โซลชาร์
ซึ่งทางด้านของ ราล์ฟ รังนิค กุนซือชาวเยอรมนีจะเข้ามาคุมทีมต่อในเกมกับ คริสตัล พาเลซ วันที่ 5 ธันวาคม ในฐานะผู้จัดการทีมชั่วคราวจนจบฤดูกาล และนั่งตำแหน่งที่ปรึกษาในฤดูกาลถัดไปเป็นเวลา 2 ซีซั่น หลังจากได้รับเวิร์คเพอร์มิตเป็นที่เรียบร้อย และได้เข้ามาชมเกมที่ “ปีศาจแดง” ชนะ “ปืนใหญ่” ด้วย
คาร์ริค กล่าวว่า “เวลาของผมที่สโมสรที่ยิ่งใหญ่แห่งนี้จะเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดในอาชีพของผมเสมอ ตอนที่ผมเซ็นสัญญาครั้งแรกเมื่อกว่า 15 ปีที่แล้ว ผมไม่เคยจินตนาการว่าจะคว้าถ้วยรางวัลมากมายขนาดนี้ และผมจะไม่มีวันลืมความทรงจำอันน่าอัศจรรย์ทั้งในฐานะผู้เล่นและในฐานะสมาชิกของทีมโค้ชได้อย่างแน่นอน”
“อย่างไรก็ตาม หลังจากไตร่ตรองและพิจารณาอย่างถี่ถ้วน ผมได้ตัดสินใจว่าตอนนี้เป็นเวลาที่เหมาะสมสำหรับผมที่จะออกจากสโมสร ผมขอขอบคุณผู้เล่นทุกคน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ทีมงานเบื้องหลัง การทำงานเป็นเวลานานกับคนกลุ่มนี้เป็นเรื่องที่น่ายินดีจริงๆ และผมก็ได้มีมิตรภาพอันยาวนาน”
“ผมเป็นแฟนบอล แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และจะเป็นไปตลอด และจะมาดูทีมแข่งให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ผมขออวยพรให้ ราล์ฟ, สตาฟฟ์, ผู้เล่น และแฟนๆ พบเจอแต่สิ่งที่ดีที่สุดสำหรับอนาคต และผมก็ตั้งตารอที่จะได้อยู่บนอัฒจันทร์ และสนับสนุนนักเตะในฐานะแฟนบอลคนหนึ่ง”
ไมเคิล คาร์ริค ลงเล่นไป 464 เกม ให้กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ระหว่างปี 2006 ถึง 2018 ช่วยให้ทีมคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก 5 สมัย, ลีกคัพ 2 สมัย, เอฟเอคัพ, ยูฟา แชมเปียนส์ ลีก, ยูฟา ยูโรปา ลีก และ ฟีฟา คลับ เวิลด์ คัพ อย่างละสมัย
