ในขณะนี้คงไม่มีบุคคลในวงการฟุตบอลคนไหนที่ถูกกล่าวถึงมากที่สุดเท่ากับ ราล์ฟ รังนิค ผู้จัดการทีมชาวเยอรมนีระดับปรมาจารย์ ผู้ขึ้นชื่อลือชาแผนการเล่นแบบ “เกเก้นเพรสซิ่ง” ที่กำลังตกเป็นข่าวอย่างหนักว่าได้ตกลงสัญญาชั่วคราวคุมทีม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ระยะ 6 เดือน พร้อมควบตำแหน่งที่ปรึกษาสโมสรต่อไปอีก 2 ปี
ด้วยผลงานในอดีตของ รังนิค ที่ผ่านการปั้นทีมเล็กๆให้ก้าวขึ้นมายิ่งใหญ่ เช่น ฮันโนเวอร์, ฮอฟเฟ่นไฮม์ และ ไลป์ซิก ทำให้แฟนบอล แมนฯ ยูไนเต็ด หลายคนต่างใจชื้นที่จะได้สุดยอดกุนซือเข้ามากู้วิกฤตทีมอย่างที่ รังนิค ถนัดทำ
แต่อย่างไรก็ดี ย้อนกลับไปสมัยที่เขาคุมทีม ไลป์ซิก ช่วงปี 2018-2019 รังนิค ได้นำวงล้อหมุนมาเขียนบทลงโทษเพื่อสุ่มให้กับนักเตะที่ทำผิดกฎสโมสร ซึ่งวงล้อนี้ได้ถูกเผยแพร่โดยนักข่าวชาวเยอรมนีนามว่า โทนี่ มาเบิร์ท เมื่อปี 2018 โดยบทลงโทษ 12 ข้อที่จะถูกสุ่มมีดังนี้
1. ช่วยสูบลมลูกบอล นำเพื่อนร่วมทีมซ้อม 30 นาทีต่อฐานฝึก และเก็บอุปกรณ์ซ้อมหลังซ้อมเสร็จ
2. ไปสอนเด็กในอะคาเดมี่ในวันที่ว่าง เป็นเวลาสี่ชั่วโมง
3. ไกด์ทัวร์สนามกีฬา แนะนำและให้ความรู้เกี่ยวกับสโมสรแก่แขกที่มาทัวร์สนาม เป็นเวลาหนึ่งชั่วโมง
4. โชคดี คุณไม่โดนลงโทษ
5. ตัดหญ้าและดูแลสนามฝึกซ้อม เป็นเวลา 4-6 ชั่วโมงภายในหนึ่งสัปดาห์การฝึก
6. สวมชุดสีชมพู หรือ ชุดเต้นบัลเล่ต์ตูตูลงฝึกซ้อมเป็นเวลาชั่วโมงครึ่ง
7. จัดเตรียมเครื่องดื่มก่อนฝึก และเติมน้ำดื่มให้ทีม 20 นาทีต่อฐานฝึก เป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์
8. ทำงานในร้านค้าสโมสร 3 ชั่วโมง
9. เสิร์ฟสลัดในโรงอาหารของทีม และทำความสะอาดโต๊ะอาหาร 30 นาทีต่อวัน เป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์
10. ช่วยพนักงานซักผ้าในสโมสร และช่วยทำความสะอาดรองเท้าเพื่อนร่วมทีม 30 นาทีต่อวัน เป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์
11. เป็นคนจัดกระเป๋าเดินทางบนรถบัสทีมในวันไปแข่งเป็นทีมเยือน
12. ซื้อของขวัญให้พนักงานของไลป์ซิก 60 คน
โดย รังนิค ได้เผยกับ Bild สื่อในเยอรมันถึงที่มาของการทำวงล้อหมุนบทลงโทษ ว่า “ค่าปรับมันไม่ได้ช่วยอะไรเลย เจ้าสิ่งนี้มันช่วยให้ผู้เล่นเจ็บปวดมากขึ้น เพราะมีเวลาว่างน้อยลง เช่น พวกเขาต้องไปทำงาน 3 ชั่วโมงในร้านค้าสโมสร”
ไม่แน่ว่า ถ้าหากรังนิคได้เข้ามาคุมทีม แมนฯ ยูไนเต็ด ตามที่ว่ากันจริงๆ เขาอาจจะได้นำเจ้าวงล้อนี้กลับมาใช้อีกครั้ง
