กลายเป็นประเด็นหลังเกมทันทีสำหรับความพ่ายแพ้ของ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ทีมดังในศึกลีกเอิง ฝรั่งเศส ที่มีต่อ “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 1-2 ในการแข่งขัน ฟุตบอล ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่ม เอ เมื่อคืนวันพุธที่ 24 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา
โดยเกิดกระแสดราม่าเล็กๆ ขึ้นเมื่อแฟนบอลของทีมมองว่า ลิโอเนล เมสซี่, คีลิยัน เอ็มบับเป้ และ เนย์มาร์ สามแนวรุกของทีมไม่ได้พยายามที่จะลงไปช่วยทีมเล่นในเกมรับเลย ทำให้การสวนกลับของคู่แข่งเป็นไปได้อย่างง่ายดาย
ขณะที่ Sports Illustrated สื่อกีฬายักษ์ใหญ่ ก็ถึงกับเขียนคอลัมน์เกี่ยวกับเกมนัดนี้ในชื่อว่า “The Problem With PSG” (ปัญหาของ เปแอสเช) โดยสื่อเจ้าดังชี้ว่าก่อนเกมทางฝั่งทีมเยือนก็ดูจะมีปัญหาในแผงกลางเนื่องจากทั้ง มาร์โก แวร์รัตติ และ จอร์จินิโอ ไวจ์นัลดุม มีชื่อเป็นเพียงแค่ตัวสำรอง
แถมทั้ง ลิโอเนล เมสซี่, คีลิยัน เอ็มบับเป้ และ เนย์มาร์ สามแนวรุกก็เพิ่งจะลงเล่นร่วมกันเป็นนัดที่ 7 เท่านั้น และทั้งหมดไม่ช่วยทีมในการไล่บอลแดนกลางเลย ทำให้ภาระหนักตกไปอยู่กับ อิดริสซ่า กาน่า เกย์, เลอันโดร เปเรเดส และ อังเดร เอร์เรร่า ที่ถูกปล่อยให้คู่แข่งพาบอลขึ้นมาจากช่องว่างระหว่างแดนกลางกับแดนหน้าที่มากเกินไป
จนทำให้ แมนฯ ซิตี้ เป็นฝ่ายครองเกมได้เกือบตลอดในช่วงครึ่งแรก แถมมาทำประตูแซงสองลูกรวดเอาชนะไปได้ 2-1 ในครึ่งเวลาหลัง มันคือปัญหาที่ใหญ่ที่สุดของ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ในตอนนี้ที่สามกองหน้าดูเหมือนจะได้รับสิทธิพิเศษที่จะไม่ต้องลงมาช่วยเกมรับ
มันคือความขัดแย้งที่มีสามกองหน้าที่ยอดเยี่ยม แต่ไม่ต้องเล่นฟุตบอลเกมรับ และชี้ให้เห็นถึงการให้ความสำคัญกับเหล่าสตาร์ดังมากกว่าการสร้างทีม ซึ่งมันไม่ใช่ฟุตบอลสไตล์ของ เมาริซิโอ โปเชตติโน่ ที่เคยทำสมัยคุมทีม เอสปันญ่อล, เซาธ์แฮมป์ตัน หรือที่ ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ ที่ซึ่งเขาให้ความสำคัญกับทีมมากกว่าผลงานของนักเตะส่วนบุคคล