sportpooltoday

เฮรวด 3 เกมติด! เรอัล มาดริด บุกถล่ม กรานาด้า 4-1 ยึดจ่าฝูงสำเร็จ


เฮรวด 3 เกมติด! เรอัล มาดริด บุกถล่ม กรานาด้า 4-1 ยึดจ่าฝูงสำเร็จ

การแข่งขัน ฟุตบอล ลา ลีกา สเปน คู่ระหว่าง กรานาด้า เปิดบ้านพบ “ราชันชุดขาว” เรอัล มาดริด ที่สนาม เอสตาดิโอ นวยโบ โลส การ์เมเนส เมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ 21 พฤศจิกายน 2564

เปิดเกมมา 19 นาที เรอัล มาดริด ทีมเยือนที่เหนือกว่ามาได้ประตูนำ 1-0 จากจังหวะที่ โทนี่ โครส แทงบอลให้ มาร์โก อเซนซิโอ้ หลุดเข้าไปซัดบอลผ่านตัว หลุยส์ มักซิมิเลียโน่ เข้าไปไม่เหลือ

นาทีที่ 25 ทีมเยือนมาได้ลูกเตะมุม  โทนี่ โครส เล่นสั้นกับ ลูก้า โมดริช ก่อนเปิดไปหน้าประตูถึง นาโช่ เฟร์นานเดซ ดีดเปลี่ยนทางเข้าประตูไป เรอัล มาดริด นำห่าง 2-0

นาทีที่ 34 เจ้าบ้านไม่ยอมง่ายๆ มอนชู เก็บบอลได้กลางสนามก่อนไหลให้ หลุยส์ ฆาเบียร์ ซัวเรซ กดจากหน้าเขตโทษบอลไปแฉลบแนวรับเปลี่ยนทางเข้าประตูไป กรานาด้า ไล่มา 1-2 พร้อมหมดครึ่งแรกด้วยสกอร์นี้

กลับมาเล่นครึ่งหลัง นาทีที่ 57 “ราชันชุดขาว” เดินหน้าต่อ คาริม เบนเซม่า พาบอลขึ้นหน้าก่อนจ่ายให้ ลูก้า โมดริช หลุดเข้าเขตโทษแล้วเปิดถึง วินิซิอุส จูเนียร์ส แปเข้าไปโล่งๆ เรอัล มาดริด หนี 3-1

นาทีที่ 67 สถานการณ์ของเจ้าบ้านหนักเข้าไปอีกเมื่อ มอนชู ไปเสียบหนักใส่ วินิซิอุส จูเนียร์ส ผู้ตัดสินไม่รีรอควักใบแดงไล่ออกจากสนามทันที ทำให้ กรานาด้า ต้องเหลือผู้เล่นแค่ 10 คน

นาทีที่ 76 เรอัล มาดริด หนีไปเป็น 4-1 จากจังหวะที่ กาเซมีโร่ จ่ายยาวจากกลางสนามให้ แฟร์กล็องด์ เมนดี้ หลุดเข้าเขตโทษก่อนยิงเร็วตุงตาข่ายไม่เหลือ

จบเกม “ราชันชุดขาว” เรอัล มาดริด บุกเอาชนะ กรานาด้า 4-1 เก็บสามแต้มล้ำค่า พร้อมทะยานนำเป็นจ่าฝูงลีกทันที

รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม
กรานาด้า (4-4-2) : หลุยส์ มักซิมิเลียโน่ – กีนี่, บิคตอร์ ดิอาซ (ราอูล ตอร์เรนต์ น.58), เคร์มัน ซานเชซ, การ์ลอส เนบา – อันโตนิโอ ป้วยร์ต้า (อังเกล มอนโตโร น.46), มอนชู, มักซิม โกนาล็องส์ (อิสม่า รูอิซ น.59), หลุยส์ ฆาเบียร์ ซัวเรซ – อัลแบร์โต้ โซโร, รูเบน โรชีน่า (ฆอร์เก้ โมลินา น.59)
เรอัล มาดริด (4-3-3) : ติโบลต์ กูร์กตัวส์ – ดานี่ การ์บาฆาล, นาโช่ เฟร์นานเดซ, ดาวิด อลาบา (เฆซุส บาเยโฆ น.83), แฟร์กล็องด์ เมนดี้ – ลูก้า โมดริช (เอดูอาร์โด้ กามาวินก้า น.80), เอ็นรีเก้ กาเซมีโร่, โทนี่ โครส (อิสโก้ น.80) – มาร์โก อเซนซิโอ้, คาริม เบนเซม่า (ลูก้า โยวิช น.80), วินิซิอุส จูเนียร์ส (โรดรีโก้ น.72)