การซื้อตัวนักเตะใหม่ก็ไม่ต่างนักจากการซื้อหวย ว่าถ้าตาดีก็ได้ ตาร้ายก็เสีย และไม่ใช่ทุกดีลที่จะประสบความสำเร็จดั่งใจหวัง แต่นี่คือ 10 ดีลที่เจ๋งเป้งที่สุดของ พรีเมียร์ลีก 2022/23 ซึ่งล้วนแต่เข้ามายกระดับและสร้างผลงานน่าประทับใจให้กับต้นสังกัดของแต่ละคนได้ทั้งสิ้น
10. โอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก้ : อาร์เซน่อล
- 30 ล้านปอนด์ จาก แมนฯ ซิตี้
27 นัด 1 ประตู 2 แอสซิสต์ 3 ใบเหลือง
เข้ามาสวมบทแบ็กซ้ายเบอร์ 1 ของ อาร์เซน่อล แบบที่ทุกฝ่าย รวมถึงแฟนบอลปืนโตเองให้การยอมรับนับถืออย่างเต็มที่ มีมาตรฐานการเล่นสูง สร้างประโยชน์ได้ทั้งรุกรับ และไม่เสียสมาธิแม้ประเทศบ้านเกิด ยูเครน จะอยู่ในภาวะสงครามก็ตาม
สำคัญสุดคือ ซินเชนโก้ (และ กาเบรียล เชซุส) ยังนำประสบการณ์ลุ้นแชมป์ร่วมกับ แมนฯ ซิตี้ ในปีก่อนๆ มาเผื่อแผ่เพื่อนร่วมทีมปืนใหญ่ด้วย แม้ในท้ายที่สุดจะทำไม่สำเร็จ ต้านแรงเสียดทานและความร้อนแรงของทัพเรือไม่อยู่ก็ตาม
9. มานูเอล อคานจี : แมนฯ ซิตี้
- 15 ล้านปอนด์ จาก ดอร์ทมุนด์
29 นัด 1 แอสซิสต์ 2 ใบเหลือง
ย้ายเข้ามาพร้อมภาพความเฟอะฟะ ตัวรั่วในแนวรับ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ และไม่มีใครคาดหวังว่าจะเล่นได้ดีกับ แมนฯ ซิตี้ โดยเฉพาะเมื่อมาในฐานะอะไหล่ ตอนที่ อายเมอริก ลาป๊อร์กต์ และ นาธาน อาเก้ บาดเจ็บ
แต่ทำไปทำมา ความแข็งแกร่งสูงใหญ่ ทางบอลดีของเซนเตอร์แบ็กสวิสส์ ก็กลับสอบผ่านฉลุยกับ พรีเมียร์ลีก ชนิดที่ เป๊ป สามารถสลับสับเปลี่ยนตัวเลือกหลังบ้านได้อย่างสบายใจ และมีส่วนสำคัญช่วยให้ แมนฯ ซิตี้ ครองแชมป์แบบเสียประตูแค่ 33 ลูก น้อยสุดในลีก (เท่า นิวคาสเซิ่ล)
นอกนั้น ด้วยสภาวะเงินเฟ้อ ค่าตัวหลายนักเตะพุ่งสูงอย่างเกินจริง ยิ่งทำให้ค่าตัวแค่ 15 ล้านปอนด์ของ อคานจี ถูกเหมือนได้เปล่า ว่าซั่น
8. ฮูเลียน อัลวาเรซ : แมนฯ ซิตี้
- 14 ล้านปอนด์ จาก ริเวอร์เพลท
31 นัด 9 ประตู 1 แอสซิสต์
ที่จริง อัลวาเรซ เซ็นสัญญากับ แมนฯ ซิตี้ ตั้งแต่ตลาดหน้าหนาว ต้นปี 2022 โน่นแล้ว แต่เพิ่งย้ายมาจริงในซีซั่นนี้ และทำได้ดีกว่าแข้งอเมริกาใต้รายอื่นๆ ที่ต้องเสียเวลาปรับตัวปรับใจกับฟุตบอลอังกฤษไม่น้อย จนการประเมินราคาตลาด ณ ตอนนี้ของหัวหอกอาร์เจนไตน์ พุ่งไปอยู่ที่ 50 ล้านปอนด์เป็นอย่างน้อย
เพียงเกมแรกที่ประเดิมสนามใน คอมมิวนิตี้ ชิลด์ หอกหนุ่มวัย 23 ก็เปิดสกอร์ใส่ ลิเวอร์พูล ได้แล้ว จากนั้นแม้ว่าจะตกเป็นสำรองถาวรของตัวแรงอย่าง เออร์ลิ่ง เบราท์ ฮาแลนด์ แต่เมื่อใดก็ตามที่ได้เล่น อัลวาเรซ ก็พร้อมจัดแจ่มๆ ให้ตามคำขอ จนในที่สุดมี 9 ประตูใน พรีเมียร์ลีก และมากถึง 17 ประตูเมื่อรวมทุกรายการ
ความโดดเด่นของ อัลวาเรซ ยังต่อยอดไปถึงทีมชาติอาร์เจนติน่า ที่เขามีส่วนสำคัญในการผงาดแชมป์โลกที่กาตาร์ เมื่อปลายปี 2022
ชัดเจนว่า อัลวาเรซ สามารถเป็นดาวยิงเบอร์ 1 ให้กับทีมไหนก็ได้ แต่กับการอยู่ที่ แมนฯ ซิตี้ ก็ควรถือว่าเขาคือ “อาวุธลับ” ของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ที่หวังผลได้เสมอเมื่อเรียกใช้
7. ลิซานโดร มาร์ติเนซ : แมนฯ ยูไนเต็ด
- 48.5 ล้านปอนด์ จาก อาแจ็กซ์
27 นัด 1 ประตู 6 ใบเหลือง
มาพร้อมเสียงปรามาสและคำครหา ต่อความสั้นแค่ 175 เซนติเมตร — เตี้ยกว่านักเตะทีมชาติไทยบางคนเสียอีก และโดยเฉพาะว่าเล่นตำแหน่งเซนเตอร์แบ็ก เจอบอลโยนบอมบ์ในพรีเมียร์ลีกเข้าไป มีหวังได้ร้องจ๊ากเป็นแน่
แต่ทานโทษ กูรูทั้งหลายที่สบประมาท ลิซานโดร ไว้ ต้องกลับคำออกมากล่าวขอโทษกันเป็นทิวแถว กับฟอร์มการเล่นติดเกรดที่เซนเตอร์แบ็กอาร์เจนไตน์งัดมาโชว์ในแต่ละนัด จนในที่สุดก็ไม่มีใครพูดถึงส่วนสูงของเจ้าตัวอีกต่อไป
6. เจา ปาลินญ่า : ฟูแล่ม
- 20 ล้านปอนด์ จาก สปอร์ติ้ง ลิสบอน
35 นัด 3 ประตู 14 ใบเหลือง
ขึ้นแท่นเป็นราชาขาโหด ครองแชมป์นักเตะโดนใบเหลืองสูงสุดของ พรีเมียร์ลีก ซีซั่นนี้ ที่ยังมาพร้อมความแปลกอย่างเรื่องที่ว่า ทั้งที่โดน 14 เหลือง ก็กลับไม่มีใบแดงแซมมาสักใบเดียว
ข้อเท็จจริงนี้คงหมายความว่า มิดฟิลด์ตัวรับชาวโปรตุเกส “หนักในเกม” เท่านั้น ไม่มีลูกตุกติกเล่นนอกเกมให้เป็นรอยตำหนิ เช่นเดียวกับมีส่วนสำคัญที่ช่วยให้ ฟูแล่ม รอดตายสบายๆ พร้อมทำอันดับดีถึงที่ 10
ซึ่งก็แน่นอนว่า จากราคาซื้อเข้า 20 ล้านปอนด์ ตอนนี้ถ้า ฟูแล่ม จะขาย ก็ต้องจ่ายมา 2 เท่าตัวเป็นอย่างน้อย
5. ไทโว่ อโวนิยี่ : ฟอเรสต์
- 17.5 ล้านปอนด์ จาก อูนิโอน เบอร์ลิน
27 นัด 10 ประตู 1 แอสซิสต์ 2 ใบเหลือง
กองหน้าไนจีเรีย อดีตเด็กปั้น ลิเวอร์พูล ที่แจ้งเกิดกับหงส์แดงไม่สำเร็จ ถูกส่งยืมที่นั่นที่นี่ 7-8 รอบ ไปสร้างผลงานกับ อูนิโอน เบอร์ลิน แบบที่ยิง 20 ลูกในซีซั่นที่แล้ว ซึ่งก็เข้าตา น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ ที่ตัดสินใจดึงมาด้วยราคาสถิติสโมสร 17.5 ล้านปอนด์
ที่สุดแล้ว 17 ล้านปอนด์กว่านั่น ได้ผลตอบแทนกลับมาเป็นมูลค่านับสิบๆ เท่า กับการที่ ฟอเรสต์ รอดตกชั้นในท้ายที่สุด โดยมี 10 ประตูของ อโวนิยี่ เป็นส่วนสำคัญ — สิบลูกจากทั้งหมด 38 ประตู เท่ากับกองหน้านักกล้ามกดไป 27% จากที่ทั้งทีมทำได้ทีเดียว
4. สเวน บ็อตมัน : นิวคาสเซิ่ล
- 32 ล้านปอนด์ จาก ลีลล์
36 นัด 2 ใบเหลือง
ที่จริงทั้งตอนเล่นให้ ฮีเรนวีน ต่อด้วยไปฝรั่งเศสกับ ลีลล์ ชื่อของเซนเตอร์แบ็กดัตช์ก็ถูกเอ่ยถึงอยู่เรื่อยๆ ในหน้าตลาด โยงกับยักษ์รายนั้นรายนี้ ก่อนที่สุดแล้วจะเป็น นิวคาสเซิ่ล ที่มัดตัวมาได้ในราคาไม่ถูกไม่แพง 32 ล้านปอนด์
และแน่นอนว่าจนถึงตอนนี้ นี่คือชัยชนะของ นิวคาสเซิ่ล อย่างแท้จริง ในการได้ตัว บ็อตมัน มาผนึกกำลังกันกับ แดน เบิร์น เป็นเซนเตอร์คู่ชุดประวัติศาสตร์ ช่วยให้ นิวคาสเซิ่ล เสียน้อยสุดในลีกที่ 33 ลูก (เท่าแชมป์ แมนฯ ซิตี้) และคืนสู่ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก เป็นหนแรกในรอบ 20 ปี
3. นิค โป๊ป : นิวคาสเซิ่ล
- 10 ล้านปอนด์ จาก เบิร์นลี่ย์
37 นัด 14 คลีนชีต 32 เสียประตู 3 ใบเหลือง 1 ใบแดง
เช่นเดียวกับ สเวน บ็อตมัน, การจิ้มเลือก นิค โป๊ป มาเป็นมือหนึ่งคนใหม่ที่หว่างเสาสาลิกาดง คือชัยชนะและดีลที่น่าประทับใจอย่างยิ่ง โดยเฉพาะเมื่อมองว่า จอมหนึบทีมชาติอังกฤษมีค่าเสียหายเพียง 10 ล้านปอนด์เท่านั้น
ก็ต้องย้ำอีกทีว่า นิวคาสเซิ่ล เสียน้อยสุดในลีก พร้อมกับทำคลีนชีต 14 หน ที่จะเกิดขึ้นไม่ได้แน่ถ้าไม่มี โป๊ป ปัดป้องตาข่าย ที่นายทวารวัย 31 ฟาดรางวัล Save of the Month ไป 2 รอบ ทั้งในเดือน ส.ค. และ ม.ค. เช่นเดียวกับถูกคัดให้ติดทีมแห่งปี พรีเมียร์ลีก ของหลายสถาบัน
2. กาเซมิโร่ & คริสเตียน เอริคเซ่น : แมนฯ ยูไนเต็ด
- กาเซมิโร่ : 70 ล้านปอนด์ จาก เรอัล มาดริด
28 นัด 4 ประตู 3 แอสซิสต์ 7 ใบเหลือง 2 ใบแดง
- เอริคเซ่น : ฟรี จาก เบรนท์ฟอร์ด
28 นัด 1 ประตู 8 แอสซิสต์ 3 ใบเหลือง
รายหนึ่งแม้ค่าตัวแพง แต่ก็เล่นได้คุ้มค่าคุ้มราคาเป็นที่สุด ส่วนอีกรายได้มาฟรี แต่เล่นเหมือนดาวเตะท็อปคลาสราคาสูง และยิ่งทำให้แฟนๆ ปวดใจไปอีกว่าทีมรักมัวแต่เสียเวลาปลุกปั้นมิดฟิลด์ตัวตัดผม 89 ล้านปอนด์คนนั้นอยู่นาน
กาเซมิโร่ แสดงให้เห็นว่า ฟอร์มสุดยอดที่ร่ายให้ เรอัล มาดริด ปีแล้วปีเล่า ไม่ใช่เรื่องฟลุ้ค จนหลายฝ่ายยกย่องว่าสตาร์บราซิเลียนก็คือมิดฟิลด์ตัวรับเบอร์ 1 ของพรีเมียร์ลีก นาทีนี้ เมื่อนอกจากเกมรับที่จัดการอย่างสบายแล้ว ยังสอดขึ้นไปทำประตูสำคัญได้เป็นระยะ
ส่วน เอริคเซ่น นี่คือนิยามของ “คนสู้ชีวิต” อย่างแท้จริง จากที่หัวใจหยุดเต้นกึ่งเป็นกึ่งตายใน ยูโร 2020 กลับมาเปรี้ยงปร้างได้อย่างน่าทึ่งกับท็อปทีมอย่าง แมนฯ ยูไนเต็ด โดยมีประโยชน์สูงมากในการออกบอล จ่ายลูกด้วยเซนส์บอลระดับสูง แบบที่ถ้าแนวรุกเฉียบคมกันกว่านี้อีกหน่อย ประตูจะไหลมาเทมากว่านี้มาก
และอันที่จริง คู่มิดฟิลด์ กาเซมิโร่ & เอริคเซ่น ยังสามารถเล่นให้ เรอัล มาดริด ตอนนี้ หรือทีมยักษ์ใหญ่รายไหนก็ได้ทั้งนั้น จึงถือว่า เอริค เทน ฮาก ทำงานได้เยี่ยมไปเลยกับการทำให้ แมนฯ ยูไนเต็ด มีมิดฟิลด์อย่าง 2 คนนี้ในทีม
1. เออร์ลิ่ง เบราท์ ฮาแลนด์ : แมนฯ ซิตี้
- 51.2 ล้านปอนด์ จาก ดอร์ทมุนด์
35 นัด 36 ประตู 8 แอสซิสต์ 5 ใบเหลือง
ไม่จำเป็นต้องสาธยายอะไรให้มากความ และนี่คือเสียงของเด็กวัด-เอ๊ย-นี่คือผลงานของจอมปีศาจจากแดนภูเขาน้ำแข็ง นอร์เวย์ ที่มาปรากฏกายยัง พรีเมียร์ลีก เป็นปีแรกเท่านั้น
- – ลงสนาม 35 เกมพรีเมียร์ลีก กระหน่ำไป 36 ประตู
– ทำลายสถิติ ยิงประตูสูงสุดในการเล่นพรีเมียร์ลีก 1 ซีซั่น
– ทำลายสถิติ ยิงประตูสูงสุดในการเล่นพรีเมียร์ลีก 5 นัดแรก
– อันดับ 2 ทำแฮตทริกสูงสุดในการเล่นพรีเมียร์ลีก 1 ซีซั่น
- – ลงสนาม 51 เกมทุกรายการ ยิงไม่ยั้ง 52 ประตู
– ลงสนาม 10 นัด แชมเปี้ยนส์ ลีก กดแล้ว 12 ประตู (นำดาวซัลโว)
– มีส่วนสำคัญยิ่งในการลุ้นเหมา 3 แชมป์ของ แมนฯ ซิตี้
- – นักเตะแห่งปี สมาคมผู้สื่อข่าวฟุตบอล
– นักเตะแห่งปี พรีเมียร์ลีก
– นักเตะดาวรุ่งแห่งปี พรีเมียร์ลีก
– ดาวซัลโว พรีเมียร์ลีก
ผลงานมาสเตอร์คลาสแบบนี้ อย่าว่าแต่เป็นการเซ็นสัญญาแห่งปีของ พรีเมียร์ลีก แต่จัดเป็นดีลที่ยอดเยี่ยมที่สุดของลีกยุโรป 2022/23 ก็ว่าได้!