เยอร์เก้น คล็อปป์ ผู้จัดการทีม ลิเวอร์พูล ยอมรับ เป็นงงกับความเคลื่อนไหวของโลกลูกหนังในช่วงหลัง โดยเฉพาะกับ พรีเมียร์ลีก ที่ปลดกุนซือกันอย่างต่อเนื่อง พร้อมรับสภาพ ด้วยผลงานของ “หงส์แดง” ฤดูกาลนี้ ทำให้ถ้าตนเพิ่งเข้าทำทีมในแอนฟิลด์ ก็คงโดนเด้งตกเก้าอี้ไปแล้วเหมือนกัน
กุนซือใน พรีเมียร์ลีก ตกงานกันรัวๆ ในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา ไล่จาก ปาทริค วิเอร่า (คริสตัล พาเลซ), อันโตนิโอ คอนเต้ (สเปอร์ส) และ เบรนแดน ร็อดเจอร์ส (เลสเตอร์) กับ เกรแฮม พ็อตเตอร์ (เชลซี) ที่โดนเด้งในวันเดียวกัน เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา
“ผมจะพูดอะไรได้ ผมเป็นแค่ช้างตัวหนึ่งในโลกอันแสนบ้าบอ เป็นชายคนสุดท้ายที่เหลืออยู่” คล็อปป์ กล่าวก่อนนำทีมชน เชลซี อังคารนี้ “ทั้งสองสโมสรต่างอยู่ในอันดับที่พวกเขาไม่คาดหวัง แต่ผมคงพูดอะไรมากไม่ได้ ผมรู้จักทั้งสองคน และผมรักทั้งคู่”
“ทั้งคู่เป็นคนดี เป็นโค้ชยอดฝีมือ แต่บางครั้ง ความผิดพลาดก็เกิดขึ้นได้ ใครก็ตามที่เป็นคนตัดสินใจคิดว่าความเปลี่ยนแปลงควรต้องเกิดขึ้น และคุณก็ต้องยอมรับมัน มันคือส่วนหนึ่งของเกม”
“มันคือสัปดาห์ที่แปลกประหลาด สัปดาห์ที่แล้ว คอนเต้ กับ ยูเลียน นาเกิลส์มันน์ และมาตอนนี้ก็อีกสองคน แต่ผมเชื่อว่าทั้งสี่ก็ยังจะมีอนาคตที่ดี การโดนปลดไม่ใช่หายนะของพวกเขา พวกเขาอาจไม่แฮปปี้กับคำสั่งเหล่านั้น แต่มันก็คือส่วนหนึ่งของเกม”
โค้ชชาวเยอรมัน ถือโอกาสยอมรับว่า ด้วยผลงานแกว่งจัดๆ ของ ลิเวอร์พูล ซีซั่นนี้ ถ้าตนเพิ่งเข้าคุมทีมปีแรกๆ ก็คงไม่แคล้วโดนปลดไปเหมือนกัน “ถ้านี่เป็นซีซั่นแรกของผม อะไรๆ คงต่างไป”
“ผมรู้ดีในข้อเท็จจริงที่ว่าผมยังอยู่ในงานนี้ ก็เป็นเพราะผลงานในอดีต ไม่ใช่จากสิ่งที่เราทำกันในปัจจุบัน เรามีเจ้าของที่ชาญฉลาด พวกเขารู้ว่าอะไรเป็นอะไร”
“ดังนั้นผมคงไม่จำเป็นต้องกลัว ผมอยู่ที่นี่เพื่อทำงานที่ดี ไม่ได้อยู่เพื่อเป็นตำนานหรือเป็นรูปปั้นบนผนัง ผมรู้ว่าผมยังอยู่ที่นี่ได้เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นในปีก่อนๆ”
