ร็อบบี้ ฟาวเลอร์ อดีตดาวยิง ลิเวอร์พูล เปิดปากจวกต้นสังกัดเก่า ทำได้แย่ในทุกส่วนสัด โดยเฉพาะการเดินหมากในตลาดนักเตะ ที่ทุ่มเงินไปนับร้อยล้านปอนด์ แต่ไม่สามารถทำให้ทีมแข็งแกร่งขึ้นได้เลย เป็นหนึ่งในเหตุผลสำคัญของวี่แววที่ค่อนไปทางล้มเหลวในฤดูกาลนี้
หงส์แดง ของ เจอร์เก้น คล็อปป์ มีปัญหานักเตะบาดเจ็บหลายรายมาตลอดตั้งแต่ต้นซีซั่น ซึ่งหลายฝ่ายมองว่าปัญหาเรื่องนี้เป็นสิ่งสำคัญที่ส่งผลกระทบถึงฟอร์มการเล่น ซึ่งย่ำแย่มาอย่างต่อเนื่อง ตกรอบ 4 ทั้งรายการ คาราบาว คัพ และ เอฟเอ คัพ ส่วนใน ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ก็ตกรอบ 16 ทีมสุดท้ายไปครึ่งตัวแล้วจากการแพ้ เรอัล มาดริด 2-5 ในเกมแรก ขณะที่ในพรีเมียร์ลีก กำลังรั้งแค่อันดับ 7 ต้องลุ้นใจหายใจคว่ำกับการแทรกตัวขึ้นไปติดท็อปโฟร์ ที่ตอนนี้ตามหลังอันดับ 4 สเปอร์ส อยู่ถึง 9 คะแนน
อย่างไรก็ตาม ฟาวเลอร์ ร่ายปากกาใส่ความเห็นลงในหนังสือพิมพ์อังกฤษ โดยชี้ว่า การเสริมทัพทั้งในช่วงซัมเมอร์ก่อนเปิดฤดูกาล และช่วงตลาดหน้าหนาวเมื่อเดือน ม.ค. เป็นอีกหนึ่งส่วนสำคัญมากที่ฉุดรั้งไม่ให้ทีมสร้างผลงานดีได้อย่างที่ควรจะเป็น
ซีซั่นนี้ ลิเวอร์พูล จ่ายไปกว่า 100 ล้านปอนด์ ซื้อมาใหม่ทั้ง ดาร์วิน นูนเยซ, แคลวิน แรมซี่ย์, ฟาบิโอ คาร์วัลโญ่ และ โคดี้ กัคโป ซึ่ง ฟาวเลอร์ ชี้ว่าทั้งหมดเป็นการซื้อนักเตะอายุน้อยเพื่อการทำทีมระยะยาว แทนที่จะซื้อแข้งที่ใช้งานได้ในทันที หลังเสีย ซาดิโอ มาเน่ ย้ายไป บาเยิร์น มิวนิค
“ผมคงไม่กล่าวโทษใครเป็นรายบุคคล แต่ลองดูจำนวนเงินที่พวกเขาใช้ไปเพื่อเสริมเกมรุก และทดแทน ซาดิโอ มาเน่ ดูสิ มันเป็นตัวเลขราวๆ 150 ล้านปอนด์ได้เลย”
“ดาร์วิน นูนเยซ ดูน่าตื่นเต้นในบางครั้ง แต่เขายังห่างไกลจากการเป็นยอดดาวยิง และคงต้องใช้เวลาสักพัก และผมคิดในแบบเดียวกันกับ โคดี้ กัคโป ทั้งคู่ไม่ใช่นักเตะประเภทที่จะลงสนามไปแล้วสร้างผลงานได้ในทันที”
“หลุยส์ ดิอาซ แตกต่างออกไปเล็กน้อย คุณสามารถอ้างว่าเขาเป็นผู้เล่นดีที่สุดของ ลิเวอร์พูล ได้ จนกระทั่งเขาบาดเจ็บ แต่การมาแทนที่ มาเน่ เนี่ยนะ? เขายังไปไม่ถึงระดับนั้น และด้วยปัญหาบาดเจ็บก็ทำให้เขาแทบไม่มีความมั่นใจเลย”
“นี่คือหนึ่งในประเด็นที่สำคัญ พวกเขาใช้เงินไปมาก แต่มันดูเหมือนว่าจะเป็นนโยบายของสโมสรที่จะซื้อแข้งอายุน้อยพรสวรรค์สูง มากกว่าที่จะซื้อนักเตะที่พิสูจน์ผลงานมาแล้ว แม้จะราคาสูงก็ตาม”