เชลซี ภายใต้การคุมทีมของกุนซือคนใหม่อย่าง เกรแฮม พ็อตเตอร์ กำลังเผชิญหน้ากับฟอร์มย่ำแย่อย่างหนักด้วยการชนะเพียง 3 จาก 15 เกมล่าสุดรวมทุกรายการ และตกรอบฟุตบอลบอลถ้วยในประเทศ 2 รายการ รวมถึงมีคะแนนห่างจากทีมท็อปโฟร์ 10 แต้ม
หลังจาก ท็อดด์ โบห์ลี่ย์ นักธุรกิจชาวอเมริกันเข้ามาเทคโอเวอร์ เชลซี ด้วยเงิน 4.25 พันล้านปอนด์ นั้น มันคือจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญของ “สิงโตน้ำเงินคราม” และเข้าสู่ยุคใหม่อย่างเต็มตัวนับตั้งแต่ พ็อตเตอร์ เข้ามากุมบังเหียนในถิ่น สแตมฟอร์ด บริดจ์ เมื่อเดือนกันยายนปีที่แล้ว
อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนว่า ความคาดหวังที่ โบห์ลี่ย์ รวมถึงแฟน เชลซี ตั้งเอาไว้ มันกำลังสร้างความกดดันอย่างมหาศาลให้กับ พ็อตเตอร์ โดยหลายคนมองว่า อดีตนายใหญ่ ไบรท์ตัน อาจฝีมือไม่ถึงในการพาทัพ “สิงโตน้ำเงินคราม”ไปสู่ความสำเร็จ
Chelsea FC v Fulham FC – Premier League / Marc Atkins/GettyImages
หลายคนตั้งคำถามว่า พ็อตเตอร์ จะโดนไล่ออกหรือไม่ แต่เมื่อมองตามความเป็นจริงคำตอบ ณ เวลานี้ คือ “ไม่” โบห์ลี่ย์ เป็นคนแต่งตั้งเขาเองกับมือ และต้องการให้โค้ชวัย 47 ปี ได้รับโอกาสสร้างทีมระยะยาวอย่างเต็มที่
เชลซี ทุ่มเงินไปราว ๆ 583 ล้านปอนด์ในช่วงตลาดซื้อ-ขายนักเตะ 2 ครั้งที่ผ่านมา ซึ่งมันชัดเจนว่าวิสัยทัศน์ระยะยาวของ โบห์ลี่ย์ คือ การหนุนหลัง พ็อตเตอร์ อย่างเต็มที่ แม้ในเวลานี้ผลงานของทีมจะยังไม่ดีนักก็ตาม
ในช่วงที่ โธมัส ทูเคิ่ล อดีตโค้ชชาวเยอรมัน คุม เชลซี นั้น เขาพาทีมคว้าแชมป์ยุโรปมาสดๆร้อนๆ แต่มาในยุค พ็อตเตอร์ เขาพา “สิงโตน้ำเงินคราม” หล่นมาอยู่อันดับ 10 โดยอยู่ต่ำกว่าอดีตทีมเก่าอย่าง ไบรท์ตัน ที่รั้งอันดับ 6 ด้วยซ้ำ
คริส ซัตตัน อดีตกองหน้า เชลซี ซึ่งปัจจุบันรับบทนักวิเคราะห์มองว่า งานที่ สแตมฟอร์ด บริดจ์ ใหญ่เกินไปสำหรับ พ็อตเตอร์ และคิดว่า อดีตกุนซือ ไบรท์ตัน ยังทำผลงานคุ้มค่ากับจำนวนเงินมหาศาลที่ โบห์ลี่ย์ จ่ายไป
การเซ็นสัญญากับผู้เล่น 8 คน ในเดือนมกราคมที่ผ่านมา ซึ่งรวมถึงทำลายสถิติการย้ายทีมของเกาะอังกฤษ ด้วยการเซ็นสัญญากับ เอ็นโซ เฟร์นันเดซ จาก เบนฟิก้า ในราคา 107 ล้านปอนด์ ถูกมองว่า เป็นการสนับสนุน พ็อตเตอร์ อย่างเต็มที่สำหรับการถ่ายเลือดใหม่
West Ham United v Chelsea FC – Premier League / Craig Mercer/MB Media/GettyImages
พอล วินสแตนลี่ย์ ได้รับการแต่งตั้งให้เข้ามาเป็นผู้อำนวยการฝ่ายกีฬาคนใหม่ของ เชลซี เมื่อเดือนพฤศจิกายน และเดินหน้าคว้าตัวนักเตะอนาคตไกลอาทิ นิไคโล มูดรีก 22 ปี, โนนี มาดูเอเก้ 20 ปี, เฟร์นานเดซ 22 ปี และ เบอนัวต์ บาเดียชิเล 21 ปี เข้ามาสร้างแผนงานในระยะยาว
ขณะที่ คณะกรรมการสรรหานักเตะของ เชลซี ยังคงมองหาดาวรุ่งมากพรสวรรค์ในวงการฟุตบอลต่อไป แต่กูรูส่วนใหญ่ฟันธงเป็นเสียงเดียวกันว่า พวกเขายังขาดกองหน้าระดับโลกที่สามารถทำประตูได้อย่างสม่ำเสมอ
สำหรับโค้ชทุกคนคงเป็นเรื่องท้าทายที่จะทำให้ผู้เล่นใหม่ 8 คน เล่นด้วยความเข้าขากันกับระบบใหม่ สโมสรใหม่ และประเทศใหม่ ซึ่งก็เช่นเดียวกันกับ พ็อตเตอร์ ที่ต้องเจอความท้ายทายดังกล่าว และแรงกดดันอย่างมหาศาลในการทำงาน
จำนวนเงินที่ใช้ไปในตลาดนักเตะ 2 ครั้งล่าสุดนั้น โบห์ลี่ย์ รู้สึกว่าทีมของเขาจำเป็นต้องได้รับการฟื้นฟูเรื่องความสดใหม่ ซึ่งเขาก็โฟกัสไปที่การซื้อผู้เล่นอายุน้อยที่มีศักยภาพ และสามารถเข้ามาช่วยทีมได้ในทันทีโดยไม่ต้องเสียเวลา
โบห์ลี่ย์ เข้าใจดีถึงช่วงเวลาการเปลี่ยนแปลงของทีมในปัจจุบัน และกำลังปูทางสู่ความสำเร็จของสโมสรในรอบหลายทศวรรษ ซึ่ง พอตเตอร์ ก็รู้เรื่องนี้ และเข้าใจว่าการคุมทีมยักษ์ใหญ่อย่าง “สิงโตน้ำเงินคราม” ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย
มันเป็นการเดิมพันครั้งใหญ่ของทั้ง โบห์ลี่ย์ และ พ็อตเตอร์ เอง ซึ่งบททดสอบขั้นแรกก็น่าจะวัดจากช่วงจบซีซั่นนี้ว่า เขาจะพา เชลซี ไปจบตรงไหน