“หงส์แดง” ลิเวอร์พูล ยังคงไม่สามารถเก็บชัยชนะในลีกนับตั้งแต่ก้าวเข้าสู่ปี 2023 ได้สำเร็จ หลังเกมล่าสุดเปิดบ้านทำได้แค่เสมอกับ “สิงห์บลูส์” เชลซี 0-0 แบ่งแต้มกันไปในท้ายที่สุด เราลองไปดูประเด็นที่เกิดขึ้นในเกมนัดนี้กัน
เกมสูสี แต่ชวนง่วงนอน
ผลการแข่งขันที่ออกมา 0-0 ในนัดนี้ก็บอกเป็นนัยอยู่แล้วว่าผลงานของทั้งคู่ดูไม่ต่างกันเท่าใดนัก เพราะเกมนี้แม้จะได้เล่นในบ้านแต่ดูเหมือนว่า ลิเวอร์พูล ก็ไม่ได้เป็นฝ่ายที่เหนือกว่า กลับกันเป็น เชลซี ด้วยซ้ำที่หาจังหวะลุ้นแบบได้น้ำได้เนื้อ แต่โชคร้ายที่ลูกยิงของ ฮาเวิร์ตซ์ เป็นลูกล้ำหน้าไป อย่างไรก็ตาม หงส์แดง ก็ค่อย ๆ ทำได้ดีขึ้นโดยเฉพาะต้นครึ่งหลังที่กด สิงห์บลู ให้อยู่แต่ในแดนตัวเองบ้าง กระทั้งทีมเยือนเปลี่ยนตัวแก้เกมจึงกลับมาทำเกมได้สูสีคู่คี่อีกครั้ง แต่ติดตรงที่บอลส่วนใหญ่สู้กันที่กลางสนาม หาโอกาสจบโอกาสเข้าทำได้ไม่มาก และต่างฝ่ายก็ต่างยิงนกตกปลาก็พอสมควร จนเกมจบลงด้วยผลเสมอแบบจืด ๆ ไร้สกอร์ในที่สุด
Mykhailo Mudryk, Joe GomezLiverpool FC v Chelsea FC – Premier League / Laurence Griffiths/GettyImages
ประเดิมสนาม มูดริก
หนึ่งในไฮไลท์ทางฝั่ง เชลซี ในเกมนี้คือการประเดิมสนามในฐานะตัวสำรองของ มิไคโล มูดริก ปีกชาวยูเครนวัย 22 ปีที่ย้ายมาร่วมทีมด้วยค่าตัวร่วม 100 ล้านยูโร ซึ่งต้องบอกว่าผลงานน่าสนใจเลยทีเดียวเพราะเจ้าตัวสามารถเปลี่ยนให้เกมรุกฝั่งซ้ายดูมีชีวิตชีวามากขึ้นได้ทันที มีความเร็วความคล่องตัว แถมยังมีโอกาสได้โชว์ลากเดียวหลบ 2 เข้าไปยิงอีกด้วย นอกจากนี้ยังหาพื้นที่ได้ดีจนมีลุ้นได้เกือบได้ยิงเหน่ง ๆ หลายครั้ง แต่ยังติดที่จังหวะสุดท้ายยังขาด ๆ เกิน ๆ อยู่ เชื่อว่าหากมีเวลาปรับตัวรวมถึงการที่ตัวหลักของทีมกลับมาพร้อมหน้าพร้อมตาไม่แน่หนุ่มน้อยคนนี้อาจเป็น เอเดน อาซาร์ คนใหม่ของทีมก็เป็นได้
Mykhailo MudrykLiverpool FC v Chelsea FC – Premier League / Laurence Griffiths/GettyImages
กัคโป เริ่มถูกตั้งคำถาม
จริงอยู่ที่ดาวยิงชาวเนเธอร์แลนด์สเพิ่งจะย้ายมาใหม่และต้องใช้เวลาในการปรับตัว แต่ก็อดคิดไม่ได้จริง ๆ เพราะตลอด 3-4 เกมที่เจ้าตัวลงสนามเป็นตัวจริงให้กับทีม ต้องบอกว่ายังไม่สามารถสร้างความประทับใจได้ดีเท่าที่ควร ดูง่าย ๆ จากในเกมนี้ที่เขาเป็นคนที่มีโอกาสได้ยิงเหน่ง ๆ มากที่สุดของทีมด้วยซ้ำ แต่ก็ไม่รู้ว่าด้วยความมั่นใจที่หดหายหรือเหตุผลอะไรก็ตามกลับยิงผิดฟอร์มไปชนิดที่ไม่ได้ลุ้นเลย จนทำให้แฟน หงส์แดง บางคนอาจจะเริ่มหวั่น ๆ แล้วว่าเขาจะกลายเป็น “นิว ไรอัน บาเบิล” หรือไม่ ?
Lewis Hall, Cody GakpoLiverpool FC v Chelsea FC – Premier League / Laurence Griffiths/GettyImages
โปรแกรมนัดถัดไปของทั้งสองทีม
จากผลเสมอในเกมนี้ทำให้ฝั่ง เชลซี ยังไม่มีการขยับเปลี่ยนแปลงอันดับ โดยยังรั้งอันดับที่ 10 ไว้ต่อไปอย่างเหนียวแน่น แต่ก็ถูก แอสตัน วิลลา ที่วันนี้เอาชนะ เซาแธมป์ตัน มาได้ไล่จี้มาเหลือ 1 คะแนนแล้ว ขณะที่ ลิเวอร์พูล เองที่มี 29 คะแนนเท่ากันก็ยังไม่ไปไหนไกลอยู่อันดับ 8 มีแต้มห่างจากโซนท็อป 4 ถึง 10 คะแนนด้วยกัน
โดยโปรแกรมนัดถัดไปสุดสัปดาห์หน้า หงส์แดง จะมีคิวลงเล่นในเกม เอฟเอ คัพ ต้องเจอกับของแข็งอย่าง ไบรท์ตัน ที่เพิ่งเคยโดนถล่มยับไปเมื่อสัปดาห์ก่อน ขณะที่ เชลซี จะได้พักเพราะตกรอบไปก่อนหน้านี้แล้ว แต่ก็ต้องบอกว่าน่าเป็นห่วงสำหรับทั้งสองทีมเพราะดูแล้วจะยังเรียกฟอร์มเก่งกลับมาไม่ได้แต่โปรแกรมสำคัญอย่าง ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก จะกลับมาลงเตะรอบ 16 ทีมสุดท้ายดลางเดือนหน้าแล้วโดย เชลซี จะพบ ดอร์ทมุนด์ ส่วน ลิเวอร์พูล จะเจอคู่แค้นอย่าง เรอัล มาดริด บอกเลยว่า สิงโตน้ำเงินคราม ยังพอถูไถ แต่ หงส์แดง ถ้ายังสภาพแบบนี้คงรอดยาก !
Juergen KloppLiverpool FC v Chelsea FC – Premier League / Laurence Griffiths/GettyImages
