กลายเป็นข่าวใหญ่ทันทีเมื่อ แฟนบอลโมร็อกโกหลายรายได้ก่อเหตุจลาจลขนาดย่อมๆ ในหลายเมืองของเบลเยียม และเนเธอร์แลนด์ หลังชัยชนะเหนือ เบลเยียม 2-0 ในการแข่งขัน ฟุตบอลโลก 2022 เมื่อวันอาทิตย์ที่ 27 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา
โดยการก่อเหตุที่หนักที่สุดเกิดขึ้นในกรุงบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียม ซึ่งหลังจบเกม บรรดากองเชียร์โมร็อกโก ได้ออกมาฉลองชัยชนะกันอย่างสุดเหวี่ยงก่อนเลยเถิดกลายเป็นการทำลายสิ่งของ, เผาทำลายรถ และขว้างปาสิ่งของใส่ตำรวจที่เข้ามาระงับเหตุ
ด้าน ฟิลิปป์ โคลส นายกเทศมนตรีกรุงบรัสเซลส์ ได้ออกมาเรียกร้องให้ประชาชนอยู่ห่างจากใจกลางเมือง และเผยว่าเจ้าหน้าที่กำลังพยายามอย่างเต็มที่เพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยบนท้องถนน ซึ่งสุดท้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมผู้ก่อเหตุได้ประมาณ 12 คน หลังจากที่ระดมฉีดน้ำ และยิงแก๊สน้ำตาเพื่อสลายฝูงชน
พร้อมกันนี้ นายกเทศมนตรีฯ ยังออกมาประณามการกระทำดังกล่าวว่า “พวกเขาไม่ใช่แฟนบอล แต่พวกเขาเป็นผู้ก่อการจลาจล แฟนบอลโมร็อกโก ไปที่นั่นเพื่อเฉลิมฉลอง แต่กับบางกลุ่มมันไม่ใช่”
สำหรับการจลาจลดังกล่าวทำให้ รถไฟใต้ดิน และรถรางต้องหยุดชะงักตามคำสั่งของตำรวจ นอกจากนี้ในเมืองอันท์เวิร์ป และ ลีแอช ก็เกิดเหตุการณ์ลักษณะนี้เช่นกัน รวมถึงในประเทศเนเธอร์แลนด์ ที่ก็มีการก่อการจลาจลแต่สุดท้ายเจ้าหน้าที่ได้เข้าควบคุมสถานการณ์ไว้ได้