ริโอ เฟอร์ดินานด์ ตำนานแข้ง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ออกโรงโดดป้อง เอริค เทน ฮาก หลังจากทีมทำผลงานได้อย่างย่ำแย่ปราชัยต่อ เบรนท์ฟอร์ด ขาดลอย 0-4 ในศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อคืนวันเสาร์ที่ผ่านมาโดยตำหนิผลงานของเหล่าแข้ง ปีศาจแดง และวิธีการบริหารงานของทีม
เฟอร์ดี้ แสดงทัศนะผ่านพอดคาสต์ ไวบ์วิธไฟว์ กล่าวแสดงความเห็นใจถึงสถานการณ์ที่ เทน ฮาก ต้องเผชิญในเวลานี้ โดยนับเป็นหนึ่งในจุดที่ตกต่ำที่สุดของ แมนฯ ยูไนเต็ด ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา
“ผมไม่เห็นใจเหล่านักเตะนะ ผมเห็นใจ เทน ฮาก มากกว่า” เฟอร์ดินานด์ กล่าว “เขารับตำแหน่งกับทีมโดยที่ไม่ได้รับข้อมูลที่แท้จริง เขารับตำแหน่งพร้อมกับความคาดหวังว่าจะได้นักเตะใหม่อย่างที่คาดหวัง เวลานี้เขาคงคิดกับตัวเองว่า ‘ผมถูกหลอกเอาเสียแล้ว ไม่รู้เลยว่าจะต้องมาเจอกับอะไรแบบนี้’ ในแง่ความมั่นใจผมตระหนักได้เลยว่ามันต้องต่ำเตี้ยเรี่ยดินสุดๆ”
“เขารู้ดีว่าจะต้องสร้างทีมใหม่แต่เห็นได้ชัดว่ามาตรฐานของนักเตะไม่เป็นไปอย่างที่เขาต้องการ มันก็เท่านั้น”
“นักเตะบางคนอาจมองว่ามันรุนแรงไปสักหน่อยจนคิดว่าไม่ควรที่จะพูดแบบนั้น แต่มันคือความจริง ผลงานบ่งบอกชัดเจน มันไม่ใช่เพียงแค่ผลงานในช่วง 1-2 เดือนที่ผ่านมาแต่มันคือผลงานตลอดช่วงระยะเวลาพักใหญ่แล้ว พวกเขามีเวลาที่จะงัดฟอร์มกลับมาได้และแสดงให้เห็นความสามารถที่แท้จริง แต่ถึงวันนี้มันก็ไม่เกิดขึ้น”
“แน่นอนว่าผมไม่อยากที่จะวิจารณ์เหล่านักเตะกับคนในสโมสรในทางเสียหาย แต่เราไม่สามารถแก้ตัวให้กับทีมสถานการณ์แบบนี้ได้เลย มันเป็นสถานการณ์ที่ย่ำแย่ เลวร้ายเอามากๆ ผมเข้าใจว่ามันเพิ่งจะแค่ 2 เกมแต่มันเป็น 2 เกมที่ต่อเนื่องมาจากผลงานที่ย่ำแย่ในฤดูกาลที่ผ่านมาและย้อนกลับไปก่อนหน้านั้นอีก คุณไม่สามารถคิดว่ามันเพิ่งจะ 2 เกมได้ และมันไม่ใช่ความผิดของ เทน ฮาก เลยเมื่อทีมมีปัญหาที่ใหญ่กว่านั้น”
“ภายใต้สถานการณ์วิกฤตแบบนี้แต่เจ้าของทีมไปอยู่ที่ไหนกัน พวกเขาต้องมาที่นี่ได้แล้ว วงการฟุตบอลมันไม่เหมือนกับธุรกิจโดยทั่วไป ที่นี่เป็นสโมสรที่เต้มไปด้วยประวัติศาสตร์ มีคาแร็กเตอร์ มีบุคลิก มีผู้คนเข้ามาเกี่ยวข้อง พวกเขาต้องแสดงท่าทีเคารพสิ่งเหล่านั้นหน่อย”
“แต่พวกเขากลับไม่ได้สื่อสารกับแฟนบอลเลย ไม่ได้สื่อสารกับใครใดๆ ไม่มีใครรู้ว่าพวกเขาอยู๋ที่ไหน ผมคิดว่ามันคือการไม่ให้ความเคารพต่อกันและเป็นสิ่งที่ไม่สามารถยอมรับได้ พวกเขาจำเป็นต้องเดินทางมาที่นี่เพื่อแบ่งรับเสียงวิพากษ์วิจารณ์ที่เกิดขึ้น สิ่งที่พวกเขาทำในเวลานี้คือให้คนอื่นก้มหน้ารับความผิดไปทั้งที่พวกเขาคือต้นตอของปัญหาที่เกิดขึ้นในเวลานี้”
“เราไม่เพียงแต่ประสบกับความพ่ายแพ้เท่านั้น เรายังถูกทำให้ขายหน้าอีกด้วย มันเป็นช่วงเวลาที่น่าอายและไม่มีใครออกหน้ารับผิดชอบ”