กว่าจะก้าวขึ้นมาเป็นที่ 1 ในแต่ละสายอาชีพได้นั้นไม่ใช่เรื่องง่าย ไม่เว้นแม้แต่งานสายเอเยนต์ที่ต้องแย่งชิงลูกค้าตัวท็อปมาให้ได้ และต้องงัดเคล็ดวิชาทุกอย่างขึ้นมาเพื่อห้ำหั่นกัน
นี่คือเรื่องราวของ ฮอร์เก้ เมนเดส อดีตดีเจในผับที่คิดการใหญ่ด้วยการเป็นเอเยนต์ที่ครอบครองวงการฟุตบอลโปรตุเกส จนต้องแตกหักกับรุ่นใหญ่ในวงการมากมายหลายคน
กว่าจะเป็นซูเปอร์เอเยนต์ที่มีอิทธิพลคับวงการ ฮอร์เก้ เมนเดส ชิงตำแหน่งนี้มาได้อย่างไร และดูแลลูกค้าของเขาแบบไหนทำไมใคร ๆ จึงติดหนึบ ? ติดตามได้ที่นี่กับ Main Stand
ปูมหลัง
ย้อนกลับไปในปี 1990 ชื่อของ ฮอร์เก้ เมนเดส นั้นเป็นชื่อที่โนเนมที่แทบไม่มีใครรู้จัก ไม่ว่าจะในระดับโลกหรือแม้กระทั่งในโปรตุเกสบ้านเกิดของเขา ปูมหลังเกี่ยวกับฟุตบอลของเขามีเพียงแค่การเคยเป็นนักเตะให้กับทีมสมัครเล่นทีมหนึ่งในโปรตุเกสเท่านั้น
แน่ชัดว่าเขาไม่มีความสามารถมากพอในด้านนี้และเมนเดสก็ไม่ได้ดึงดันทำมันต่อไป เขาออกจากการเป็นนักเตะอย่างรวดเร็ว และเริ่มประกอบอาชีพทั่วไปมากมายหลายอย่างทั้งการเป็นดีเจ การเปิดร้านเช่าวิดีโอ ซึ่งก็ต่อยอดจนที่เขาสามารถเปิดบาร์และไนท์คลับเล็ก ๆ ของตัวเองที่เมือง Caminha ทางตอนเหนือของประเทศ
เมนเดส เริ่มเรียกตัวเองว่า “นักธุรกิจ” และเขากำลังมองหาช่องทางสร้างรายได้เพิ่มขึ้น ซึ่งโลกก็เหวี่ยง “วงการฟุตบอล” มาให้กับเขา และมันเริ่มขึ้นในปี 1996 โดยนักฟุตบอลชื่อ นูโน่ เอสปิริโต ซานโต ผู้รักษาประตูของ วิตอเรีย กิมาไรส์
ภารกิจแรกของ เมนเดส หลังได้เจอกับ เอสปิริโต ซานโต คือตัวของนักเตะรู้สึกว่าอาชีพของเขาไม่ได้ก้าวหน้าอย่างที่คิด โดย นูโน่ ลงเล่นให้กับ กิมาไรส์ นานถึง 4 ปี แต่กลับได้ลงสนามแค่ 36 เกมเท่านั้น เขาต้องการย้ายออก แต่ปัญหาคือเขาเป็นนักฟุตบอล 100% ที่ไม่มีความรู้เรื่องการเจรจาหรือแนวคิดในการต่อรองธุรกิจใด ๆ ทั้งสิ้น และเมื่อ เมนเดส ได้เจอกับ นูโน่ เขาจึงอาสาเป็นผู้ดูแลสิทธิประโยชน์ให้กับตัวนักเตะทั้งหมด … ในวัย 30 ปี เมนเดส มีลูกค้าคนแรก และเริ่มเรียกตัวเองว่า เอเยนต์ อย่างเป็นทางการ
ไม่มีใครรู้ว่า เมนเดส สามารถมีทักษะการเจรจาในระดับที่เอา นูโน่ ที่เป็นโกลสำรองของทีมเล็ก ๆ ในโปรตุเกสไปเป็นสมาชิกของสโมสร 1 ใน “บิ๊ก 4” ของฟุตบอลสเปนช่วงนั้นอย่าง เดปอร์ติโบ ลา คอรุนญ่า ได้อย่างไร แต่ตัวของ นูโน่ ก็มาให้สัมภาษณ์ในภายหลังว่า เมนเดส ทำงานด้านเอกสารและเดินไปทางไปพบทีมต่าง ๆ หลายทีมเยอะแยะมากมาย ทั้งหมดทำด้วยตัวคนเดียวไม่มีทีมงาน ว่ากันว่าเขาขับรถจากตอนเหนือของโปรตุเกสไปยังประเทศสเปน ด้วยระยะทางกว่า 300 กิโลเมตรอยู่หลายหนเพื่อรอพบท่านประธานของทีม ลา คอรุนญ่า และสุดท้ายมันก็ทำให้ นูโน่ ได้ไปเล่นในสเปน และอยู่ในทีมชุดคว้าแชมป์ โคปา เดล เรย์ กับ ซูเปอร์เดปอร์ ได้สำเร็จ
“เมนเดสทำหน้าของเขาอย่างหนักในตอนนั้น และเมื่องานเสร็จแม้เราจะตกลงกันว่าเขาจะได้โบนัสและส่วนแบ่งจำนวนหนึ่ง สุดท้ายเขาไม่คิดเงินผมแม้แต่บาทเดียว เขาฉีกเช็คเงินสดให้ผมดูแล้วบอกว่า ‘ฉันจะไม่ไปขึ้นเงินแน่นอน'” นูโน่ กล่าว
“หลักการทำงานของเมนเดสเป็นอะไรที่เข้าใจง่ายและสะดวกกับนักเตะที่เป็นลูกค้าของเขามาก ๆ นั่นคือ คุณทำหน้าที่ของคุณ เขาทำหน้าที่ของเขา เท่านั้นเอง”
สิ่งที่เมนเดสได้รับจากการพานูโน่ย้ายทีมคือประสบการณ์และโอกาสทางธุรกิจ เขาเป็นคนที่ไม่ค่อยให้สัมภาษณ์บ่อยนักและมักจะเก็บตัวอยู่หลังฉากของนักฟุตบอลบอลดัง ๆ แต่ชื่อเสียงของเขากำลังเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ ในวงการฟุตบอลโปรตุเกส ที่ย้อนกลับไปตอนนั้นยังเป็นลีกที่นักเตะส่วนใหญ่ยังเล่นอยู่ในประเทศเท่านั้นถ้าไม่เก่งจริง ๆ ระดับแข้งแถวหน้าหรือตัวทีมชาติอย่าง หลุยส์ ฟิโก้, รุย คอสต้า หรือ เปโดร เปาเลต้า ก็จะถือว่ายากมากในเวลานั้น
การเป็นเอเยนต์ในแบบของ เมนเดส คือการเปลี่ยนแปลงที่สื่ออย่าง The Guardian ใช้คำว่า “ผู้สร้างปรากฏการณ์” เลยทีเดียว เพราะเขาเป็นคนที่มีความทะเยอทะยานอย่างมากในการก้าวข้ามขีดจำกัดของเอเยนต์ในโปรตุเกส เขาสร้างคอนเน็กชั่นเพิ่มเติมในทุก ๆ วัน และทำงานอย่างหนักเพื่อรักษาผลประโยชน์และเลือกสิ่งที่ดีที่สุดในกับลูกค้าของเขา
การผลักดันนักเตะโปรตุเกสออกไปในต่างแดนคือสิ่งที่ เมนเดส ทำมันได้เป็นอย่างดี แต่กว่าจะก้าวขึ้นมาเป็น “เบอร์ 1” ด้านเอเยนต์ในโปรตุเกส เขาต้องผ่านการแย่งชิงตำแหน่งที่ทำให้เขาต้องเคยสาวหมัดกับ โชเซ่ ไวก้า เอเยนต์ของ หลุยส์ ฟิโก้ ที่สนามบินมาแล้ว
อยากเป็นที่ 1 ต้องกล้าโค่นคนอื่น
ธุรกิจเกี่ยวกับเงิน ๆ ทอง ๆ อย่างเอเยนต์นั้นยากที่ไปคู่กับคำว่ามิตรไมตรีได้ มันเหมือนกับบริษัททั่วไปที่ต้องแก่งแย่งลูกค้ากันไปมา บริษัทเอเยนต์ล้วนอยากมีนักเตะฝีเท้าดีอยู้ในการดูแล เพราะมันหมายถึงโอกาสทางธุรกิจและทำกำไรในอนาคต ดังนั้นพวกเขาจะมาเล่นบทพระเอก เดินทางตรงเพื่อให้ไปถึงเป้าหมายไม่ได้ ของแบบนี้ต้องอาศัยทั้งทางลัด เล่ห์เหลี่ยม และวาทศิลป์อย่างหนักเพื่อให้ได้มาซึ่งสิ่งที่ต้องการ
ในช่วงยุค 2000s โชเซ่ ไวก้า เอเยนต์ของ ฟิโก้ ถือเป็นเอเยนต์เบอร์ 1 ของโปรตุเกส เขาทำกำไรได้มากมายกับการพา ฟิโก้ ย้ายจาก สปอร์ติ้ง ลิสบอน ไป บาร์เซโลน่า ก่อนจะย้ายทีมอีกครั้งแบบทำลายสถิติโลกกับ เรอัล มาดริด ผลงานของ ไวก้า ที่ทำให้กับ ฟิโก้ รวมถึงคนอื่น ๆ อาทิ นูโน่ โกเมส ทำให้นักเตะในโปรตุเกสหลายคนอยากจะได้เขามาเป็นเอเยนต์บ้าง ขณะที่ตัวของ ไวก้า ก็เข้ามารับหน้าที่เป็นที่ปรึกษาด้านการเจรจาให้กับทีมดังในประเทศอย่าง เอฟซี ปอร์โต้
แต่เมื่อเวลาผ่านไป ไวก้า ก็เริ่มมีปัญหากับบอร์ดบริหารของปอร์โต้ โดยเฉพาะท่านประธานอย่าง ปินโต้ ดา คอสต้า ซึ่งความแตกแยกเล็ก ๆ นั้นเป็นจุดเริ่มต้นของการสร้างอาณาจักรของ เมนเดส อย่างแท้จริง เมนเดส ได้ข่าวและเข้าถึงตัวท่านประธานในทันที และยื่นคำสัญญาว่าหากเขาได้เป็นคนดูแลการเจรจาซื้อขายให้กับนักเตะของปอร์โต้ สโมสรแห่งนี้จะสามารถทำกำไรได้มากกว่าเดิม เขาจะพานักเตะออกไปค้าแข้งในต่างแดน ด้วยจำนวนเงินที่สมน้ำสมเนื้อ และทำให้ ปอร์โต้ กลายเป็นประตูการส่งออกนักเตะในลีกโปรตุเกสไปยังลีกอื่น ๆ ทั่วยุโรป
ข้อเสนอดังกล่าวนั้นทำให้ ปินโต้ ดา คอสต้า ตกลงปลงใจ มีรายงานว่ากว่าที่ เมนเดส จะกล่อมท่านประธานของปอร์โต้ได้ เขาใช้เวลาอยู่หลายเดือน แต่ด้วยวาทศิลป์และการนำเสนอแผนงานที่เห็นภาพ ที่สุดแล้วเขาสามารถยุให้ท่านประธาน ปินโต้ แตกหัก ไวก้า เอเยนต์เบอร์ 1 คนเก่าได้สำเร็จ ซึ่งเรื่องดังกล่าวคือต้นเหตุให้ทั้งสองคนกลายเป็นศัตรูกันและเคยก่อเหตุวิวาทไล่ชกกันที่สนามบินมาแล้ว
การโค่นเบอร์ 1 ได้ด้วยวิธียุแยงและแทรกซึมทำให้ เมนเดส ได้สิทธิ์ในการดูแลนักเตะโปรตุเกสรุ่นใหม่ ๆ หลายคนหลังจากการเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งที่ปอร์โต้ พูดง่าย ๆ ก็คือขุนพล ปอร์โต้ ยุคแชมป์ยุโรปปี 2004 ก็เป็นลูกค้าของ เมนเดส เกือบหมด จอมทัพอย่าง เดโก้ นักเตะคนอื่น ๆ อย่าง คอสตินญ่า, เปาโล แฟร์ไรร่า และ ริคาร์โด้ คาร์วัลโญ่ หรือแม้กระทั่งกุนซืออย่าง โชเซ่ มูรินโญ่ ทั้งหมดนี้มี เมนเดส เป็นผู้ดูแลผลประโยชน์ของพวกเขาทั้งสิ้น
หลังจากปอร์โต้เขาก็เปิดประตูให้กับสโมสรอื่น ๆ ทั่วประเทศ ไม่นานหลังจากนั้นนักเตะโปรตุเกสที่ได้ย้ายไปเล่นในลีกดังอื่น ๆ ในยุโรปก็แทบจะเป็นลูกค้าของ เมนเดส ทั้งสิ้น ครั้งหนึ่ง เอมิลิโอ มาเซโด อดีตประธานสโมสร วิตอเรีย กิมาไรส์ ในช่วงต้นยุค 2000s ยังเคยถึงกับพูดคำว่า
“วงการฟุตบอลโปรตุเกสเหมือนกับเป็นหนี้เมนเดสเลยก็ว่าได้ เขาดูแลการย้ายทีมของนักเตะและเกี่ยวข้องกับการโอนเงินจำนวนมากในวงการฟุตบอลเหมือนกับธุรกิจอุตสาหกรรมส่งออกขนาดใหญ่เลยทีเดียว”
ช่วงเวลาดังกล่าวเป็นเหมือนการตีตราให้บริษัทเอเยนต์ของ เมนเดส ที่ชื่อว่า Gestifute กลายเป็นแบรนด์ระดับโลก และแทบทุกทีมในโปรตุเกสก็ให้ความเคารพกับ เมนเดส เป็นอย่างมาก ทุกคนอยากจะมีอนาคตที่ดีกว่า เพราะการเล่นในลีกโปรตุเกสนั้นมีค่าตอบแทนต่ำและได้เงินเดือนไม่มากเท่า 5 ลีกดังของยุโรป และ เมนเดส คือคนที่ให้สัญญากับลูกค้าของเขาทุกคนว่า เขาจะดูแลทุกคนและพาไปยังจุดที่นักเตะเหล่านั้นไม่กล้าฝันถึง
เมื่อแย่งชิงตลาดนักเตะแถวหน้าของประเทศมาได้ เมนเดส ไปต่อด้วยการเข้าถึงตลาดนักเตะดาวรุ่งฝีเท้าดีเพื่อเซ็นเข้าสังกัด นักเตะอย่าง คริสเตียโน่ โรนัลโด้ หรือ หลุยส์ นานี่ ที่ได้ย้ายจาก สปอร์ติ้ง ลิสบอน มาอยู่กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ก็ล้วนเกิดจากการผลักดันของ เมนเดส ทั้งนั้น และกว่าที่ เมนเดส จะได้นักเตะเหล่านี้มาเป็นลูกค้า เขาก็ใช้เล่ห์เหลี่ยมไม่น้อยเพื่อให้ได้มาซึ่งเพชรเม็ดงามของวงการฟุตบอลเหล่านี้
ในส่วนของ โรนัลโด้ นั้น เมนเดส เข้าทาง มาเรีย โดโลเรส อเวโร่ แม่ของนักเตะ เนื่องจากเดิมที โรนัลโด้ ได้เซ็นสัญญาเป็นลูกค้าของ เวก้า ไว้แล้ว แต่ในช่วงที่จะมีการขยายสัญญากัน เมนเดส ก็ยื่นข้อเสนอที่ดีกว่า และสุดท้ายเขาก็ตัดหน้าและสร้างแผลใจให้กับ เวก้า ได้อีกครั้ง
วีรกรรมของ เมนเดส ยังไม่จบ ในส่วนของ นานี่ ก็ไม่แตกต่างกัน เมนเดส เข้าถึงนักเตะโดยตรงและแย่งนักเตะมาจากเครือข่ายเอเยนต์หญิงแถวหน้าของโปรตุเกสอย่าง อานา อัลเมด้า ซึ่งหลังจากที่เสีย นานี่ ไป อัลเมด้า ก็ถึงกับต้องยื่นเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับการกระทำของ เมนเดส ในเวลานั้นมาแล้ว
“มีสโมสรที่อยากเซ็นสัญญากับนักเตะของฉัน แต่นักเตะกลับรอให้ ฮอร์เก้ เมนเดส ปรากฏตัวเพราะเชื่อว่า เมนเดส จะพาเขาไปอยู่กับสโมสรที่ใหญ่กว่า เมนเดส เหมือนกับพวกมาชุบมือเปิบ เขาหยิบชิ้นปลามันไปโดยไม่ต้องลงทุนอะไรเลยนอกจากแค่ทำการโฆษณาในแบบของเขา” อดีตเอเยนต์ของนานี่ กล่าวถึงเมนเดส
วิธีการทำงานของ เมนเดส เหมือนกับมีกำลังภายใน หนึ่งในผู้ถือหุ้นของบริษัทเอเยนต์ของ เมนเดส อธิบายให้ The Athletic ฟังว่าเขาเชี่ยวชาญด้านการผลักดันนักเตะที่มีศักยภาพสูง และบริษัท Gestifute เป็นมากกว่าตัวแทนของผู้เล่น
“มันเป็นโมเดลธุรกิจที่เป็นสากล ตอนนี้เครือข่ายของเขาขยายไปทั่วโลกและทำงานในตลาดซื้อขายของประเทศต่าง ๆ มากมาย ซึ่งนั่นทำให้เขาเข้าถึงผลประโยชน์มากมายสำหรับคนที่เขาเป็นตัวแทน”
“ผู้เล่นหลายคนอยู่กับเขามาเป็นเวลานาน เชื่อใจเขา และเขาเกือบจะสร้างอาณาจักรของตัวเองสำเร็จแล้ว รูปแบบการทำงานของของเขานั้นซับซ้อนกว่าบริษัทอื่น ๆ มาก และเครือข่ายของเขาก็ไม่ธรรมดา และเขาอาจตั้งใจที่จะไปอยู่ในทุกประเทศที่เล่นฟุตบอลบนโลกใบนี้”
ชื่อเสียงของ เมนเดส โด่งดังในด้านเล่ห์เหลี่ยมหากคุณฟังเรื่องราวเหล่านั้นจากศัตรูของเขา แต่ถ้าคุณฟังจากมุมมองของลูกค้าของเขาบ้าง คุณจะเข้าใจว่ามีเหตุผลบางอย่างที่ทุกคนต้องยอมแพ้ให้กับสัญญาของเมนเดส
เหลี่ยมอย่างเดียวไม่พอให้ใหญ่คับโลก
เล่ห์เหลี่ยมอาจจะทำให้ เมนเดส ได้นักเตะเข้ามาเป็นลูกค้า แต่สิ่งหนึ่งที่ทำให้ลูกค้าเหล่านั้นเชื่อมั่นในตัวเขาคือเบื้องหลังการทำงานหนักและการตอบสนองความต้องการของนักเตะเหล่านั้นได้จริง ๆ นักเตะในการดูแลของ เมนเดส หลายคนได้ย้ายทีมในแบบที่ไม่คาดฝัน เนื่องจากคอนเน็กชั่นที่เขาได้สร้างมาตลอด 20 ปีที่เข้าไปเป็นคนสนิทกับบอร์ดบริหารของสโมสรดัง ๆ ทั่วทั้งยุโรป
หนึ่งในนั้นคือ ดิเอโก้ คอสต้า อดีตกองหน้าของ แอตเลติโก มาดริด และ เชลซี ซึ่งเล่าจุดเริ่มต้นการค้าแข้งของเขาในยุโรปที่มี เมนเดส คอยผลักดันทั้งด้วยความพยายามและเล่ห์กลในเวลาเดียวกัน
“ผมพบกับเมนเดสครั้งแรกและมันเป็นเรื่องใหญ่มาก ผมมาบินมาจากบราซิลแล้วเริ่มทดสอบฝีเท้ากับหลายทีมในโปรตุเกส ตอนนั้นผมไปก่อพฤติกรรมรุนแรงเอาไว้จนทำให้โดนแบน แต่ผมไม่รู้ว่าเมนเดสไปทำอีท่าไหนผมถึงได้รับอนุญาตให้ลงเล่นในเกมวันนั้น เป็นเพราะเขาหรือพระเจ้า ? ผมตอบไม่ได้หรอก แต่ที่แน่ ๆ เมื่อเกมจบลงผมได้เซ็นสัญญากับ สปอร์ติ้ง บราก้า และ เมนเดส คือเหตุผลที่ผมมายุโรป” คอสต้า กล่าว
“ส่วนการพบกับเมนเดสครั้งที่ 2 ในอีก 1 ปีต่อมา รอบนี้สั้น ๆ แต่ได้ใจความ เขาโทรมาบอกผมว่า ‘เราจะต้องไปมาดริดกัน’ ผมไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามันเกิดอะไรขึ้น แต่เมื่อไปถึงมาดริดเขาก็บอกว่าผมกำลังจะได้เซ็นสัญญากับ แอตฯ มาดริด เรานั่งลงบนโซฟาที่บ้านของ เฆซุส การ์เซีย ผู้อำนวยการกีฬาของ แอตฯ มาดริด ซึ่งบอกตรง ๆ ว่าตอนนั้นผมยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าหมอนี่คือใคร”
งานของ เมนเดส คือการทำให้นักเตะเชื่อว่าตัวเองจะได้เจอกับอนาคตที่ดีกว่า และการเข้าหาสโมสรต่าง ๆ เพื่อบอกถึงสิ่งที่สโมสรเหล่านั้นจะได้รับหากซื้อนักเตะในการดูแลของเขาไปร่วมทีม … หลัก ๆ มีแค่นี้ แต่ในรายละเอียดนั้นกว่าจะทำได้อย่างที่กล่าวมาต้องใช้เวลาในการสร้างความเชื่อถือและแสดงผลงานมาเป็นสิบ ๆ ปี และผลของความพยายามทำงานหนักทั้งในแบบสีขาว สีเทา และสีดำ ที่สุดแล้ว เมนเดส ก็ไปถึงจุดสูงสุดของวงการและได้รับค่าตอบแทนมหาศาลในแบบที่ทุกคนยินดีจะจ่ายให้
หนึ่งในคนที่ยืนยันเรื่องนี้ได้ดีที่สุดคือ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ที่เป็นนักเตะในสังกัดการดูแลของ เมนเดส มาตั้งแต่อายุ 18 ปี โรนัลโด้ ไม่เคยเปลี่ยนเอเยนต์เลยตลอดอาชีพค้าแข้ง และหลายครั้งที่เขาบอกว่า เมนเดส คือมิตรแท้คนหนึ่งที่เขามี และสรุปสาเหตุที่นักเตะที่ดีที่สุดคนหนึ่งของโลกอย่างเขาเลือก เมนเดส เป็นผู้ดูแลผลประโยชน์มานานกว่า 20 ปีว่า “สามคำที่ผมมอบให้คนอย่าง ฮอร์เก้ เมนเดส คือ ความซื่อสัตย์ ความจริงใจ และการทำงานในแบบของมืออาชีพ”
ไม่ว่าจะในบทบาทตัวโกงสำหรับเหล่าเอเยนต์ด้วยกันหรือบทบาทพระเจ้าผู้บันดาลเส้นทางที่น่าเหลือเชื่อให้กับเหล่านักฟุตบอล สิ่งหนึ่งที่สะท้อนผ่านการทำงานของ เมนเดส ได้นั่นคือการเป็นคนคิดใหญ่ไม่กลัวล้ม เชื่อในศักยภาพการทำงานหนักของตัวเอง และพาตัวเองวิ่งเข้าหาโอกาสแม้จะต้องแตกหักกับใครบางคนก็ตาม และท้ายที่สุดแล้วเขารู้ว่าจะทำอย่างไรให้ลูกค้าเชื่อมั่นว่าเขาจะเป็นคนที่มอบสิ่งที่ดีที่สุดให้
เท่านี้ก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้ ฮอร์เก้ เมนเดส ครอบครองวงการฟุตบอลโปรตุเกส และก้าวขึ้นมาเป็นเบอร์ 1 ของโลกฟุตบอลได้สำเร็จ