ผู้ตัดสิน, กรรมการในเวทีการแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เป็นหนึ่งในงานที่ยากที่สุดในโลก เมื่อพวกเขาต้องทำงานร่วมกับนักเตะซูเปอร์สตาร์โดยมีคนดูทั่วโลกหลายล้านคนจับตามองตลอดเวลา การตัดสินใจของเชิ้ตดำในสนามมีสิทธิ์ที่จะสร้างความไม่พอใจให้กับทั้งผู้เล่น, โค้ช และ แฟนบอล
ท่ามกลางความกดดันทั้งหลายทั้งปวงที่กรรมการแบกรับ เราสงสัยว่าค่าตอบแทนของพวกเขาจะคุ้มค่ากับความเครียดที่ต้องเผชิญทุกครั้งที่ก้าวลงสนามเพื่อตัดสินใจในความเป็นไปของเกมหรือไม่?
รายได้, ค่าเหนื่อยกรรมการพรีเมียร์ลีก 2022
บทบาทผู้ตัดสินไม่ได้ถูกแสงสปอตไลท์ในเกมลูกหนังสาดส่องมากนักเมื่อเทียบกับเหล่านักเตะ, ผู้จัดการทีม หรือกระทั่งเจ้าของสโมสร ในทางกลับกัน กรรมการมักเป็นผู้ที่แบกรับคำติจากผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทั้งหมด ทว่าพวกเขาก็เป็นตำแหน่งที่ฟุตบอลไม่สามารถขาดได้
กรรมการในพรีเมียร์ลีกได้รับการอบรมจากองค์กรผู้ตัดสินอาชีพ (PGMOL) โดยมีเพียงกรรมการในเทียร์ 1 และผู้ช่วยในกลุ่มดังกล่าวเท่านั้นที่จะมีสิทธิ์ตัดสินในลีกระดับสูงสุดของประเทศ ซึ่งค่าเหนื่อยของพวกเขาจะได้รับจากสมาคมฟุตบอลอังกฤษ, พรีเมียร์ลีก และ ฟุตบอลลีก
กรรมการพรีเมียร์ลีกมีรายได้เท่าไร?
อ้างอิงรายงานจาก TotalSportek และ Sportingfree ระบุว่า รายได้ต่อปีของกรรมการในพรีเมียร์ลีกแตะหลัก 70,000 ปอนด์ โดยจะได้ค่าตอบแทนพิเศษต่อเกมอีก 1,500 ปอนด์ ขณะที่ผู้ตัดสินที่สามารถยกระดับเป่าในเกม ยูฟ่า หรือเกมระดับนานาชาติ สามารถมีรายได้แตะหลัก 200,000 ปอนด์ต่อปี
นอกเหนือจากรายได้ของผู้ตัดสินที่ 1 รายงานดังกล่าวยังเผยถึงรายได้ของผู้ช่วยผู้ตัดสินที่ 30,000 ปอนด์ต่อปี โดยมีค่าตอบแทนพิเศษต่อเกม 850 ปอนด์ เช่นเดียวกับผู้ตัดสินที่ทำหน้าที่ในห้อง VAR
รายได้กรรมการพรีเมียร์ลีก
– ผู้ตัดสินที่หนึ่ง รายได้ 70,000-200,000 ปอนด์ต่อปี และโบนัส 1,500 ปอนด์ต่อเกม
– ผู้ช่วยผู้ตัดสิน รายได้ 30,000 ปอนด์ต่อปี และโบนัส 850 ปอนด์ต่อเกม
– ผู้ตัดสิน VAR รายได้ 30,000 ปอนด์ต่อปี และโบนัส 850 ปอนด์ต่อเกม
จัดอันดับกรรมการพรีเมียร์ลีกที่ได้ค่าเหนื่อยสูงสุด 2022
18. ไซอาน แมสซีย์ เอลลิส – 40,000 ปอนด์กับ 850 ปอนด์ต่อเกม (พรีเมียร์ลีก)
17. แอนดี้ แมดลีย์ – 48,000 ปอนด์กับ 1,500 ปอนด์ต่อเกม (พรีเมียร์ลีก)
16. ปีเตอร์ แบงคส์ – 48,000 ปอนด์กับ 1,500 ปอนด์ต่อเกม (พรีเมียร์ลีก)
15. ไซมอน ฮูเปอร์ – 48,000 ปอนด์กับ 1,500 ปอนด์ต่อเกม (พรีเมียร์ลีก)
14. เดวิด คูต – 48,000 ปอนด์กับ 1,500 ปอนด์ต่อเกม (พรีเมียร์ลีก)
13. เคร็ก พอว์สัน – 48,000 ปอนด์กับ 1,500 ปอนด์ต่อเกม (พรีเมียร์ลีก และ ยูโร รอบคัดเลือก)
12. ลี เมสัน – 48,000 ปอนด์กับ 1,500 ปอนด์ต่อเกม (พรีเมียร์ลีก)
11. เกรแฮม สก็อตต์ – 48,000 ปอนด์กับ 1,500 ปอนด์ต่อเกม (พรีเมียร์ลีก)
10. สจวร์ต แอตเวลล์ – 70,000 ปอนด์กับ 1,500 ปอนด์ต่อเกม (พรีเมียร์ลีก)
9. โจนาธาน มอสส์ – 70,000 ปอนด์กับ 1,500 ปอนด์ต่อเกม (พรีเมียร์ลีก)
8. อันเดร มาร์ริเนอร์ – 70,000 ปอนด์กับ 1,500 ปอนด์ต่อเกม (พรีเมียร์ลีก)
7. พอล เทียร์นีย์ – 70,000 ปอนด์กับ 1,500 ปอนด์ต่อเกม (พรีเมียร์ลีก)
6. เควิน เฟรนด์ – 70,000 ปอนด์กับ 1,500 ปอนด์ต่อเกม (พรีเมียร์ลีก)
5. คริส คาวานากห์ – 70,000 ปอนด์กับ 1,500 ปอนด์ต่อเกม (พรีเมียร์ลีก และ ยูโร รอบคัดเลือก)
4. แอนโธนี เทย์เลอร์ – 70,000 ปอนด์กับ 1,500 ปอนด์ต่อเกม (พรีเมียร์ลีก, ยูโร รอบคัดเลือก และ ยูโรปาลีก)
3. ไมเคิล โอลิเวอร์ – 200,000 ปอนด์กับ 1,500 ปอนด์ต่อเกม (พรีเมียร์ลีก, ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก, ยูโร รอบคัดเลือก และ ยูโรปาลีก)
2. ไมค์ ดีน – 200,000 ปอนด์กับ 1,500 ปอนด์ต่อเกม (พรีเมียร์ลีก และ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก)
1. มาร์ติน แอตกินสัน – 200,000 ปอนด์กับ 1,500 ปอนด์ต่อเกม (พรีเมียร์ลีก, ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก และ ยูโรปาลีก)
***อัตราแลกเปลี่ยน 1 ปอนด์ = 43 บาท โดยประมาณ