ฆาเบียร์ เตบาส ประธานของลาลีกา สเปน ยื่นคำร้องถึงสหพันธ์ฟุตบอลยุโรป (UEFA) ให้เดินเรื่องสอบสวน ปารีส แซงต์-แชร์กแมง กับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ สองทีมยักษ์ของวงการ ในข้อหาทำผิดกฏไฟแนนเชียล แฟร์ เพลย์ (FFP)
PSG เพิ่งตัดสินใจทุ่มเงินค่าจ้างมหาศาลปีละ 42.5 ล้านปอนด์ (ประมาณ 1,790 ล้านบาท) รั้งตัว คิลิยัน เอ็มบัปเป กองหน้าเลือดเฟรนช์ให้อยู่กับทีมต่อไป ขณะที่ แมนฯ ซิตี้ ก็เซ็นสัญญาคว้าตัว เออร์ลิง ฮาลันด์ ดาวยิงชาวนอร์เวย์ มาร่วมทีมด้วยค่าตัว 51.2 ล้านปอนด์ (ประมาณ 2,160 ล้านบาท)
ที่ผ่านมา เตบาส นายใหญ่ของลาลีกาโจมตี PSG กับ แมนฯ ซิตี้ มาตลอด โดยอ้างว่าทั้งสองทีมละเมิดกฏการเงินอันศักดิ์สิทธิ์ที่ UEFA ตั้งไว้ แต่หลังเกิดกรณีล่าสุดกับ เอ็มบัปเป และ ฮาลันด์ ทำให้ เตบาส ไม่ขอนิ่งเฉย ยื่นเรื่องให้ UEFA ตรวจสอบกับลงโทษสองทีมดังจากฝรั่งเศสและอังกฤษอีกรอบ
แถลงการณ์ของลาลีการะบุว่า “สัปดาห์นี้ ลาลีกา ได้ร้องเรียนไปยัง UEFA ถึงการสอบสวน PSG และอีกทีมก็คือ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่เคยร้องเรียนเมื่อเดือนเมษายน ด้วยความเข้าใจว่าทั้งสองสโมสรได้กระทำการละเมิดกฎการเงินในปัจจุบัน”
“ลาลีกา เข้าใจว่าที่มาของเงินทุนของพวกเขานั้นผิดปกติ มันเกิดขึ้นมาจากการอัดฉีดโดยตรง, สปอนเซอร์ หรือสัญญาต่างๆ ที่ไม่สอดคล้องกับสภาวะของตลาด หรือความสมเหตุสมผลทางเศรษฐกิจ”
“ลาลีกา เล็งเห็นว่าการกระทำดังกล่าวส่งผลต่อระบบนิเวศและความยั่งยืนต่อวงการฟุตบอล สร้างความเสียหายแก่บรรดาสโมสรและลีกยุโรป ซึ่งอาจทำให้เกิดผลเสียในตลาด ด้วยเม็ดเงินที่ไม่ได้เกิดจากวงการฟุตบอลเอง”
มีการตั้งข้อสังเกตว่า เหตุที่ ลาลีกา ยื่นร้องเรียนกับ UEFA เพราะว่า เรอัล มาดริด ทีมยักษ์ใหญ่แห่งแดนกระทิงดุ พลาดคว้าตัว ฮาลันด์ กับ เอ็มบัปเป ซึ่งเป็นนักเตะที่พวกเขาอยากได้ และหากใครคนใดคนหนึ่งย้ายมาสวมเสื้อ “ราชันชุดขาว” ก็จะสร้างความตื่นเต้นและความน่าสนใจให้คอบอลหันมาติดตามลาลีกาอีกครั้ง แต่สุดท้ายก็ไม่มีใครย้ายมา
ส่วนฝั่งของ แมนฯ ซิตี้ และ PSG ที่ผ่านมาได้พยายามต่อสู้กับข้อกล่าวหาที่ลาลีกาเปิดประเด็นมาตลอดในเรื่องการละเมิดกฏการเงิน ซึ่งครั้งนี้ UEFA จะดำเนินการอย่างไรต้องติดตาม