รองประธานฝ่ายการเงินของ บาร์เซโลนา ยอมรับว่าสโมสรจำเป็นต้องใช้เงินอีกถึง 500 ล้านยูโร เพื่อกอบกู้สถานการณ์ทางการเงินที่กำลังเผชิญอยู่
โจน ลาปอร์ต้า กล่าวตั้งแต่ช่วงแรกที่เข้ามารับหน้าที่ประธานคนใหม่เมื่อเดือมมีนาคมปีที่แล้ว เกี่ยวกับหนี้ก้อนโตที่สะสมมานานในถิ่น คัมป์ นู ที่นำไปสู่การย้ายออกไปของ ลิโอเนล เมสซี่ ไอคอนของสโมสร เช่นเดียวกับ คูตินโญ และ อองตวน กรีซมันน์ สองแข้งค่าตัวแพง
โดยหนึ่งปีผ่านไป ปัญหานี้ยังคงอยู่และมันก็ทำให้พวกเขาไม่สามารถลงทะเบียนว่าที่นักเตะใหม่อย่าง ฟรองค์ เคสซิเยร์ และ อันเดรียส คริสเตนเซน มิดฟิลด์ของ เอซี มิลาน และ กองหลังของ เชลซี ที่เพิ่มจะหมดสัญญาและเป็นฟรีเอเยนต์ได้ไม่นานนัก
รวมไปถึงการพยายามเจรจาเพื่อคว้าตัว โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ มาจาก บาเยิร์น มิวนิค ก็ไม่สามารถเดินหน้าต่อได้เพราะค่าตัวที่ต้นสังกัดของกองหน้าชาว โปแลนด์ ตั้งเอาไว้
“ตัวเลขที่สร้างความเสียหายได้มากที่สุดคือความตัวเลขขาดดุลของสโมสร” เอดูอาร์ด โรเมอู รองประธานฝ่ายการเงินของ บาร์เซโลนา กล่าวกับ สปอร์ต
“เรายังติดลบอยู่ 500 ล้านยูโรและผมเคยพูดไปก่อนหน้านี้แล้ว หากมีคนหอบเงินมาให้เรา 500 ล้านยูโร…มันจะช่วย บาร์ซ่า ได้แน่นอน”
อย่างไรก็ดี แม้จะต้องการเงินเพื่อเสริมทัพและสู้ศึกหนักกับ เรอัล มาดริด ที่กำลังจะได้ตัว ออเรเลียง ชูอาเมนี มาจาก โมนาโก ด้วยค่าตัวเฉียด 100 ล้านยูโร แต่ โรเมอู ก็เน้นย้ำคำเดิมเกี่ยวกับข้อเสนอจากกลุ่มทุน CVC ว่าเป็นข้อตกลงที่ไม่คุ้มค่าเมื่อต้องแลกกับลิขสิทธิ์โทรทัศน์เป็นระยะเวลาหลายสิบปี
