ในหมู่ตัวเต็งของกุนซือที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด หมายตาเอาไว้นั้น เอริค เทน ฮาก ดูจะเป็นคนที่มีประสบการณ์น้อยที่สุดจากประวัติการทำงานที่ไม่เคยได้สัมผัสลีกใหญ่ๆในยุโรปกับเขาเลย
กระนั้น บอร์ดก็เชื่อว่ามันเป็นความเสี่ยงที่คุ้มค่าเมื่อพิจารณาว่า อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม พัฒนาขึ้นมามากภายใต้การคุมทีมของเขา ทั้งในแง่ของผลลัพธ์ที่จับต้องได้และรูปเกมที่สนุกสนานเร้าใจซึ่งเป็นสิ่งที่แฟนๆปีศาจแดงเรียกร้องมาโดยตลอด
แต่สิ่งหนึ่งที่ต้องทำความเข้าใจก็คือ ไม่มีสูตรสำเร็จใดๆในโลกฟุตบอล เพราะแม้กระทั่ง เป๊ป กวาร์ดิโอลา ที่โด่งดังมาจากสไตล์การเล่นติกิ ตากา ที่ บาร์เซโลนา, ระบบกองหน้าฟอลส์ไนน์ และตัวรุกที่ยืนฉีกไปเล่นที่ด้านข้าง ก็ยังต้องปรับแผนการเล่นของตัวเองเมื่อถูกแต่งตั้งมาคุม บาเยิร์น มิวนิค และเลือกใช้งานปีกที่มีทักษะการเลี้ยงบอลสูงๆ บวกกับหน้าเป้าธรรมชาติอย่าง โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี เลย
เช่นเดียวกับ เทน ฮาก ที่หลังพา อาแจ็กซ์ ทะลุเข้ารอบรองชนะเลิศยูฟา แชมเปียนส์ ลีก ได้อย่างเหนือความคาดหมายแล้ว เขาก็ยังปรับระบบการเล่นของตัวเองในฤดูกาลนี้ เมื่อต้องเสียคีย์แมนไปหลายคนและได้ เซบาสเตียน อัลแลร์ มาด้วยราคาสถิติสโมสรจาก เวสต์แฮม ยูไนเต็ด
แต่ก็ยังมีบางอย่างที่เป็นเสมือนปรัชญาการทำทีมของ เทน ฮาก ที่ไม่เคยเปลี่ยนเลยตลอดช่วงเวลาการทำงานของเขาในอัมสเตอร์ดัม และเราก็คิดว่าสไตล์การเล่นเหล่านี้อาจจะถูกนำมาประยุกต์ใช้ที่โอลด์ แทรฟฟอร์ด ด้วย
การขึ้นเกมที่หลากหลาย
อาแจ็กซ์ เป็นอีกทีมที่ดันขึ้นไปสูงและไล่บอลอยู่เสมอ แต่สิ่งหนึ่งที่ถูกคงเอาไว้อยู่ตลอดคือการที่จะต้องมีผู้เล่นอย่างน้อย 3 คน คอยอยู่ในแดนตัวเองเพื่อรอป้องกันเกมสวนกลับของคู่แข่ง
ทั้ง 3 คนนั้นจะประกอบไปด้วยเซ็นเตอร์แบ็ก 2 คน และแบ็กขวาหรือซ้ายครั้งละหนึ่งคน โดยที่คนใดคนหนึ่งจะคอยเติมเกมขึ้นไปเพื่อเล่นเกมรุกจากทางฝั่งที่ตัวเองรับผิดชอบ
กระนั้น บ่อยครั้งที่เราได้เห็นเซ็นเตอร์แบ็กของเขาเดินหน้าขึ้นไปช่วยไล่บอลหรือพาบอลขึ้นไปเพื่อเพิ่มความหลากหลายในเกมรุกและเพื่อดึงตัวประกบมาให้ผู้เล่นรอบๆตัวเขาเล่นได้ง่ายขึ้น
กองกลางที่ลื่นไหล
ตั้งแต่ฤดูกาล 2019 กองกลางหมายเลข 10 ของ เทน ฮาก นอกจากจะมีหน้าที่เป็นเพลย์เมกเกอร์แล้ว ยังต้องถอยลงมาล้วงบอลเพื่อเปิดทางให้กองกลางอีกสองคนเติมเกมขึ้นหน้าไปได้อีกด้วย
มันอาจจะเปลี่ยนไปเล็กน้อยในฤดูกาลนี้เมื่อพวกเขามี เอ็ดสัน อัลวาเรซ คอยปักหลักทำหน้าที่เกมรับอย่างเต็มตัว และให้อีกสองคนหมุนเวียนกันไปประสานงานกับตัวริมเส้นเพื่อหาช่องสอดเข้าไปสร้างความอันตรายในแดนคู่แข่ง ซึ่งเป็นจุดแข็งของ ดอนนี ฟาน เดอ เบก แต่นั่นจะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อพวกเขาได้ตัวรับธรรมชาติมาร่วมทีมเสียก่อน
บทบาทของตัวริมเส้น
ตัวริมเส้นทั้งสองฝั่งของ อาแจ็กซ์ ไม่ใช่ปีก แต่บ่อยครั้งมักจะเข้ามายืนข้างในหรือกระทั่งโถมมาเล่นงานคู่แข่งอยู่ทางฝั่งเดียวของสนามเพื่อเล่นงานพวกเขาอย่างเต็มที่
และแม้จะกระจุกมารวมกันอยู่ที่ฝั่งเดียว แต่เมื่อเจาะคู่แข่งไม่เข้า พวกเขาก็พร้อมจะโยนบอลไปให้กับฟูลแบ็กที่เติมมารับหน้าที่สร้างสรรค์เกมแทน และเป็นการโจมตีที่บ่อยครั้งฝั่งตรงข้ามจะคาดไม่ถึงจนนำไปสู่ประตูได้