ใกล้ถึงเส้นชัยเข้ามาทุกทีสำหรับศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ประจำฤดูกาลนี้ ปรากฏว่า 4 ทีมซึ่งทะลุถึงรอบรองชนะเลิศแบ่งแยกดินแดนกันอย่างสิ้นเชิงเป็นสเปน 2 สโมสรคือ เรอัล มาดริด กับ บียาร์เรอัล และอังกฤษอีก 2 คือ ลิเวอร์พูล และ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ถือว่าเป็นการรักษามาตรฐานอันยอดเยี่ยมของทั้งสองลีกได้อย่างยอดเยี่ยม
คู่ชิงชนะเลิศมีแนวโน้มว่าจะเป็นทีมใดเจอกัน?
ถ้าจะสนุกก็ต้องภาวนาให้ไม่เป็นสองสโมสรที่มาจากชาติเดียวกันสินะ แต่ลองเช็คสถิติย้อนหลังกลับไปดู 10 ปีหลังมานี่ กลับมีการชนกันเองอยู่บ่อยครั้งมาก
ในปี 2013 บาเยิร์น มิวนิค โคจรพบกับทีมร่วมชาติอย่าง โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ปี 2014 เรอัล มาดริด ดวงสมพงษ์เจอ แอตเลติโก้ มาดริด คู่นี้นอกจากจะประเทศเดียวกันแล้วยังเมืองเดียวกันด้วย ต่อมา 2016 ทั้งสองทีมป๊ะแหมกันอีกครั้งเป็น มาดริด ดาร์บี้ ไฟนัล ค.ศ. 2019 ลิเวอร์พูล ปะทะ ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ และล่าสุด 2021 เชลซี พบ แมนเชสเตอร์ ซิตี้
คำนวณเป็นตัวเลขแล้วออกมา 50 เปอร์เซ็นต์เลยทีเดียวนะครับ สำหรับแนวโน้มในระยะหลังของคู่ชิงชนะเลิศชาติเดียวกันของถ้วยใบนี้
เพราะฉะนั้นถ้าปีนี้มันจะออกมาเป็น “ออล อิงแลนด์ ไฟนัล” ลิเวอร์พูล พบ แมนฯซิตี้ หรือ “ออล สเปน ไฟนัล” อย่าง เรอัล มาดริด ดวล บียาร์เรอัล ก็คงไม่ต้องแปลกใจอะไรนัก
แต่ถ้าเลือกได้ขอเป็นคู่แรกละกันนะ 555
หลังจากทราบคู่แข่งในรอบตัดเชือกแล้ว เราลองไปดูสิว่า เมืองนอกเขาให้ใครเป็นตัวเต็งที่จะหยิบถ้วยหูใหญ่ไปครอง?
ส่องดูแล้วปรากฏว่าหลายสำนักให้เรต “เต็งแชมป์” ใกล้เคียงกันมากระหว่าง ลิเวอร์พูล กับ แมนฯซิตี้ โดยแนวโน้มมีบางเจ้าที่ให้ “หงส์แดง” มีโอกาสมากกว่านิดๆ แค่ขนจมูก
ผมเห็นด้วยเพราะนอกจากรอบตัดเชือกจะเจองานง่ายกว่าทีมอื่นอย่าง ยังสังเกตพบว่าผลงานของ “หงส์แดง” ในถ้วยยุโรปฤดูกาลนี้ตั้งแต่รอบแรกมันช่างลื่นไหลและง่ายดายไปเสียหมด ทั้งฟอร์มการเล่นและดวงในการจับสลาก ตั้งแต่ชนะรวดในรอบแบ่งกลุ่ม 6 นัด ตามด้วยการเขี่ย อินเตอร์ มิลาน และ เบนฟิก้า ร่วงง่ายดาย
สรุปเส้นทาง 10 นัด ลิเวอร์พูล แพ้ “งูใหญ่” แค่เกมเดียว 0-1 ในรอบ 8 ทีมเลกสอง ซึ่งไม่ได้ส่งผลอะไรเลย ถึงตอนนี้ ซาลาห์ ยิงไป 8 ลูกเข้าให้แล้ว ผลงานแบบนี้ “แฟนหงส์” ก็ต้องหวังเป็นธรรมดาใช่มั้ยครับ?
ทีนี้กลับมาไล่ตัวเต็งกันต่อ อันดับ 3 คือ เรอัล มาดริด ที่มีราคาหลุดห่างจากทั้งสองทีมไปมาก 6/1 ชนิดที่เรียกว่าไม่เห็นแก่ประวัติอันคร่ำหวอดของ คาร์โล อันเชล็อตติ และฟอร์มอันร้อนแรงของดาวยิงอย่าง คาริม เบนเซม่า เอาเสียเลย ส่วนเต็ง 4 คือ บียาร์เรอัล ของ อูไน อเมรี่ อัตรากระโดดไปไกลถึง 20 ต่อ 1 (ถ้าเป็นถ้วย ยูโรป้าลีก ซึ่งอูไน ถนัดคงไม่ใช่แบบนี้)
แนวโน้มออกมาแบบนี้แปลว่าทางเมืองนอกเขาวิเคราะห์ว่า ลิเวอร์พูล น่าจะเข้าไปชิงกับรองแชมป์เก่าอย่าง “เรือใบสีฟ้า” ซึ่งถ้าเป็นจริงก็คงสนุกไม่เบา เพราะถึงตอนนั้นรายการอื่นๆ แข่งเสร็จไปหมดแล้ว คล็อปป์ อาจรอลุ้นถ้วยใบที่ 3 หรือ 4 เป็นประวัติศาสตร์สโมสร ในทางกลับกัน “เป๊ป” มีสิทธิ์ซิวดับเบิ้ลแชมป์สองโทรฟี่ใหญ่อย่าง พรีเมียร์ลีก กับ ชปล. ในคืนนั้นอยู่ก็เป็นได้เช่นกัน
โดยเฉพาะถ้วย แชมเปี้ยนส์ลีก ของ “เรือใบสีฟ้า” ที่ “เป๊ป” หมายปอง และเป็นเป้าหมายของฝ่ายบริหารทีมมาหลายปี ถ้าทำได้กุนซือชาวสเปนอาจได้ขยับเดินทางไปสู่จุดหมายอื่นต่อไปในอาชีพคุมทีมของเขา
คงเป็นค่ำคืนอันระทึกใจอย่างที่สุด… การปะทะกันอีกครั้งของสองยอดกุนซือแห่งยุค เป๊ป กวาดิโอล่า และ เยอร์เก้น คล็อปป์
นัดชิงฯ ที่กรุงปารีส 29 พ.ค.นี้ จะเป็น “ดรีม ไฟนัล” จริงหรือไม่ อดใจรอลุ้นกันครับ?