sportpooltoday

ลุ้นหืดจับ! เรอัล มาดริด บุกเฉือน เซลต้า บีโก้ 2-1 โกยแต้มนำฝูงโด่ง


ลุ้นหืดจับ! เรอัล มาดริด บุกเฉือน เซลต้า บีโก้ 2-1 โกยแต้มนำฝูงโด่ง

การแข่งขัน ฟุตบอล ลา ลีกา สเปน ระหว่าง เซลต้า บีโก้ เปิดบ้านพบกับ “ราชันชุดขาว” เรอัล มาดริด ที่สนาม เอสตาดิโอ เด บาไลโดส เมื่อคืนวันเสาร์ที่ 2 เมษายน ที่ผ่านมา

เปิดเกมมา 14 นาที เจ้าบ้านได้โอกาสลุ้นนำก่อนจากจังหวะที่ เดนิส ซัวเรซ สับไกด้วยขวาหน้าเขตโทษเต็มข้อแต่ ติโบลต์ กูร์กตัวส์ ยังไวพุ่งทุบทิ้งเอาไว้ได้ทัน

นาทีที่ 19 ทีมเยือนมาได้จุดโทษจากจังหวะที่ โนลิโต้ ไปผลัก เอแดร์ มิลิเตา ล้มลงในเขตโทษ ผู้ตัดสินชี้เป็นจุดโทษทันที ก่อนที่ คาริม เบนเซม่า สังหารเข้าไปไม่พลาด เรอัล มาดริด ออกนำ 1-0

นาทีที่ 40 เจ้าถิ่นชวดได้ประตูตีเสมอจากจังหวะที่ ติอาโก้ กัลญาร์โด้ โหม่งบอลข้ามเส้นไปแล้ว แต่กรรมการเช็ค VAR แล้วไม่ให้เนื่องจาก ยาโก้ อัสปาส ไปขัดขวางการเล่นของแนวรับ ทำให้หมดครึ่งแรก เซลต้า บีโก้ ยังตามหลัง 0-1

กลับมาเล่นครึ่งหลังนาทีที่ 52 เจ้าบ้านเปิดเกมแลก ยาโก้ อัสปาส ไหลออกซ้ายให้ ฆาบี กาลัน เติมขึ้นไปเปิดบอลเข้าเขตโทษถึง โนลิโต้ ชาร์จตุงตาข่าย เซลต้า บีโก้ ตามตีเสมอ 1-1 ได้สำเร็จ

นาทีที่ 64 “ราชันชุดขาว” ได้จุดโทษ เฮย์สัน มูริโญ่ ไปเสียบ โรดริโก้ ล้มลงในเขตโทษ ผู้ตัดสินเป่าให้ทีมเยือนอีกครั้ง แต่หนนี้ คาริม เบนเซม่า กลับยิงไปติดเซฟของนายด่านเจ้าถิ่นอย่างน่าเสียดาย

อย่างไรก็ตามนาทีที่ 70 ทีมเยือนมาได้จุดโทษครั้งที่ 3 จากจังหวะที่ แฟร์ล็องต์ เมนดี้ โดน เควิน วาซเกซ ทำฟาวล์ในเขต ก่อนเป็น คาริม เบนเซม่า ที่แก้ตัวสังหารเข้าไปไม่พลาดให้ เรอัล มาดริด ออกนำ 2-1

จบเกม “ราชันชุดขาว” เรอัล มาดริด บุกเฉือนเอาชนะ เซลต้า บีโก้ 2-1 เก็บสามแต้มสำคัญ ยึดจ่าฝูงแน่น นำ เซบีย่า อันดับ 2 ออกไปเป็น 12 คะแนน แต่แข่งมากกว่าอยู่ 1 เกม

รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม
เซลต้า บีโก้ (4-1-3-2) : มาติอัส ดิตูโร่, เควิน วาซเกซ, โจเซฟ ไอดู, เฮย์สัน มูริโญ่, ฆาบี กาลัน, ฟราน เบลทราน (เรนาโต้ ตาเปีย น.72), เบรสส์ เมนเดซ (ออร์เบลิน ปิเนด้า น.82), เดนิส ซัวเรซ, โนลิโต้ (ซานติ มิน่า น.72), ยาโก้ อัสปาส, ติอาโก้ กัลญาร์โด้ (ฟรังโก้ แซร์วี่ น.60)
เรอัล มาดริด (4-3-3) : ติโบลต์ กูร์กตัวส์, ลูกัส บาซเกซ (ดานี่ การ์บาฆาล น.61), เอแดร์ มิลิเตา (นาโช่ แฟร์นันเดซ น.85), ดาวิด อลาบา, แฟร์ล็องต์ เมนดี้, ลูก้า โมดริช (เฟเดริโก้ บัลเบร์เด้ น.74), กาเซมิโร่, โทนี่ โครส (ดานี เซบายอส น.85), มาร์โก อเซนซิโอ (โรดริโก้ น.61), คาริม เบนเซม่า, วินิซิอุส จูเนียร์