แอตเลติโก มาดริด ได้ผู้เล่นใหม่เข้ามาเป็นคนแรกในช่วงซัมเมอร์นี้เรียบร้อย ด้วยการสอย อักเซล วิตเซล กองกลางทีมชาติเบลเยียม วัย 33 ปี จาก โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ มาร่วมทีมแบบไม่มีค่าตัว
วิตเซล เริ่มต้นเส้นทางนักฟุตบอลตั้งแต่อายุ 6 ขวบ กับทีมเยาวชนของ อาร์อาร์ซี ว็อตเท่ม, ซีเอส วิเซ่ จนได้เข้าสู่อคาเดมี่ของ สตองดาร์ด ลีแอช สโมสรชื่อดังในบ้านเกิดของเขา เมื่อปี 1999
หลังจากใช้เวลาอยู่กับอคาเดมี่ของ ลีแอช นานถึง 7 ปี วิตเซล ก็ก้าวขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่ของทีมได้สำเร็จ และระเบิดฟอร์มการเล่นที่ยอดเยี่ยมในตำแหน่งปีก ก่อนที่จะย้ายมาเล่นในตำแหน่งมิดฟิลด์ตัวกลาง
ตลอด 5 ปีที่ วิตเซล ค้าแข้งกับ ลีแอช ลงเล่น 194 นัด ยิง 45 ประตู กับ 18 แอสซิสต์ พาทีมคว้าแชมป์ลีกสูงสุดเบลเยียม 2 สมัยติดต่อกัน, แชมป์เบลเยียม คัพ 1 สมัย และแชมป์ซูเปอร์คัพ 2 สมัยติดต่อกัน
ต่อมาในปี 2011 วิตเซล ได้หาประสบการณ์ค้าแข้งนอกประเทศบ้านเกิด เริ่มจาก เบนฟิก้า ยักษ์ใหญ่ลีกโปรตุเกส, เซนิต เซนต์ ปีเตอร์สเบิร์ก ทีมดังลีกรัสเซีย และ เทียนจิน ฉวนเจียน สโมสรในประเทศจีน
จนกระทั่งในปี 2018 วิตเซล ได้ย้ายมาค้าแข้งกับ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งบุนเดสลีกา เยอรมนี เซ็นสัญญา 4 ปี ซึ่งในช่วง 2 ฤดูกาลแรกกับ “เสือเหลือง” เจ้าตัวได้ลงเล่นอย่างสม่ำเสมอ
อย่างไรก็ตาม ในเดือนมกราคม 2021 วิตเซล ได้รับบาดเจ็บเอ็นร้อยหวายฉีก ต้องพักยาวจนจบซีซั่น 2020/21 และมีความกังวลว่า เขาอาจจะฟื้นตัวไม่ทันสำหรับการช่วยทีมชาติเบลเยียม สู้ศึกฟุตบอลยูโร 2020
ซึ่งเป็นความโชคดีของ วิตเซล ที่สามารถเรียกความฟิตกลับมาได้อย่างน่าอัศจรรย์ และได้ลงสนามในฟุตบอลยูโร เมื่อช่วงกลางปีที่แล้ว ทั้งหมด 4 นัด ช่วยให้ “ปีศาจแดงแห่งยุโรป” ผ่านเข้าถึงรอบ 8 ทีมสุดท้าย
สำหรับฤดูกาล 2021/22 ที่ผ่านมา วิตเซล ก็กลับมาลงเล่นอย่างสม่ำเสมออีกครั้ง แต่หลังจากจบซีซั่น เขาตัดสินใจไม่อยู่กับ ดอร์ทมุนด์ ต่อไป จึงเลือกที่จะย้ายไปหาความท้าทายใหม่ๆกับ แอตฯ มาดริด ในที่สุด
ในส่วนของการรับใช้ทีมชาติเบลเยียมนั้น วิตเซล ลงสนามไปแล้วถึง 124 นัด มากที่สุดเป็นอันดับ 2 รองจาก ยาน แฟร์ตองเกน (139 นัด) และเคยผ่านประสบการณ์ฟุตบอลโลก และฟุตบอลยูโร อย่างละ 2 สมัย
ด้วยคุณภาพ และประสบการณ์ที่โชกโชนของ อักเซล วิตเซล อาจกลายเป็นดีลที่คุ้มค่าสำหรับทีมของ ดิเอโก ซิเมโอเน ในตลาดนักเตะรอบนี้ก็เป็นได้ และนี่คือ 5 เรื่องราวของเขาที่คุณอาจยังไม่เคยรู้มาก่อน
ในวัยเด็กเคยเล่นฟุตซอลก่อนฟุตบอล
ก่อนที่จะมาเล่นฟุตบอล วิตเซล ในวัยเด็กได้ใช้เวลาไปกับการเล่นฟุตซอลโดยส่วนใหญ่ เพราะได้แรงบันดาลใจมาจาก เธียร์รี่ คุณพ่อของเขา ที่เคยเป็นอดีตนักฟุตซอลในระดับลีกดิวิชั่น 1 ของเบลเยียม แต่ท้ายที่สุดแล้ว คุณพ่อได้แนะนำให้ลูกชายเลือกฟุตบอล เพราะมองเห็นอนาคตที่ดีกว่า
มีออปชันเลือกเล่นให้กับทีมชาติฝรั่งเศสได้
คุณพ่อเธียร์รี่ เป็นชาวเกาะมาร์ตินีก เกาะทางตะวันออกของทะเลแคริบเบียน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในดินแดนของประเทศฝรั่งเศส ทำให้ วิตเซล สามารถเลือกเล่นให้กับทีมชาติฝรั่งเศสตามสัญชาติของคุณพ่อได้ แต่ วิตเซล ตัดสินใจเลือกเล่นให้กับทีมชาติเบลเยียม ตั้งแต่ปี 2008 จนถึงปัจจุบัน
สังหารจุดโทษพาทีมคว้าแชมป์ลีก
ในนัดสุดท้ายของลีกสูงสุดเบลเยียม ฤดูกาล 2008/09 สตองดาร์ด ลีแอช บุกไปชนะ เกนท์ 1-0 จากจุดโทษของ วิตเซล ทำให้มีแต้มเท่ากับ อันเดอร์เลชท์ ต้องตัดสินทีมแชมป์ด้วยการเตะเพลย์ออฟแบบเหย้า-เยือน และเกมในเลกสองที่บ้านของ ลีแอช วิตเซล ก็เป็นฮีโร่อีกครั้ง ด้วยการสังหารลูกโทษเช่นเดิม พาทีมชนะ 1-0 และคว้าแชมป์ไปครองด้วยสกอร์รวม 2-1
เคยถูกขู่ฆ่าเพราะย่ำใส่คู่แข่งจนเจ็บหนัก
วันที่ 30 สิงหาคม 2009 วิตเซล ในวัย 20 ปี ลงเล่นให้กับ สตองดาร์ด ลีแอช ในเกมที่บุกไปเยือน อันเดอร์เลชท์ คู่ปรับตลอดกาลของพวกเขา และถูกไล่ออกจากสนาม เพราะไปย่ำใส่ข้อเท้าของ มาร์ซิน วาซิเลฟสกี อดีตเซ็นเตอร์แบ็กทีมชาติโปแลนด์จนขาหัก ทำให้แฟนบอลเจ้าบ้านและแฟนบอลชาวโปแลนด์โกรธแค้นเจ้าตัวอย่างหนัก ถึงขั้นขู่ฆ่าเอาชีวิตเลยทีเดียว
สวมเสื้อเบอร์ 28 กับทุกสโมสรที่เคยค้าแข้ง
ตลอดชีวิตการเป็นนักฟุตบอลระดับอาชีพ กับ สตองดาร์ด ลีแอช, เซนิต เซนต์ ปีเตอร์สเบิร์ก, เทียนจิน ฉวนเจียน และ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ วิตเซล ได้สวมเสื้อหมายเลข 28 ครบทุกสโมสรที่เคยค้าแข้ง แต่สำหรับแอตเลติโก มาดริด คงจะเป็นเรื่องยากลำบากพอสมควรในการสวมเสื้อเบอร์นี้ เนื่องจากกฎของลาลีกา ที่บังคับให้ผู้เล่นทีมชุดใหญ่ต้องสวมเสื้อเบอร์ 1-25 เท่านั้น