เป๊ป กวาร์ดิโอล่า นายใหญ่ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ระบุ เป็นเหมือนความฝันที่กลายมาเป็นจริงแล้ว กับการที่ตนสามารถพา เรือใบสีฟ้า ลุ้น 3 แชมป์เมเจอร์ได้อย่างจริงจังในฤดูกาลนี้ และมีโอกาสทำสำเร็จด้วย
แมนฯ ซิตี้ กำลังจะปิดจ๊อบครองแชมป์ พรีเมียร์ลีก 3 ปีซ้อนได้ในไม่ช้า จากชัยชนะเหนือ เอฟเวอร์ตัน 3-0 เมื่อวันอาทิตย์ ที่ปรากฏว่า อาร์เซน่อล ดันพลาดท่าพ่าย ไบรท์ตัน คาบ้านในคู่ดึก ส่งผลให้ระยะห่างถูกถ่างออกเป็น 4 แต้ม (85:81) แถม แมนฯ ซิตี้ ยังเล่นน้อยกว่า 1 เกมด้วย
ส่วนในวันพุธนี้ แมนฯ ซิตี้ จะเล่นเกมตัดสินรอบตัดเชือก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก กับ เรอัล มาดริด ภายหลังเสมอกัน 1-1 ที่สเปนสัปดาห์ก่อน ซึ่งถ้าหลุดเข้าชิงได้ พวกเขาก็ถูกมองว่ามีภาษีเหนือกว่าคู่ชิงชนะเลิศอย่าง อินเตอร์ หรือ เอซี มิลาน อยู่เยอะมาก
นอกจากนั้น แชมป์เอฟเอ คัพ ก็เหลือเพียงก้าวสุดท้าย ที่ต้องเอาชนะคู่อริร่วมเมืองอย่าง แมนฯ ยูไนเต็ด ลงให้ได้ในเกมชิงชนะเลิศที่ เวมบลีย์ ในวันที่ 3 มิ.ย.
“มันคือฝันที่เป็นจริง ในการมาถึงตรงนี้ได้” กุนซือสแปนิชกล่าวหลังเกมที่ กูดิสัน พาร์ค
“ในท้ายที่สุดเราอาจจะไม่ได้แชมป์อะไรเลยสักรายการ และผู้คนจะบอกว่าเราไม่ใช่ทีมที่ดี หรือล้มเหลว หรือเป็นหายนะ แต่มันก็คือฝันที่กลายมาเป็นจริง”
“เราเป็นทีมเดียวในยุโรปซีซั่นนี้ที่กำลังสู้เพื่อคว้าแชมป์ทุกรายการ เรายังต้องจัดการกับนัดชิง เอฟเอ คัพ กับทางยูไนเต็ด อย่างระมัดระวัง มันยังไม่จบ ส่วนทาง พรีเมียร์ลีก ก็ยังไม่จบเช่นกัน เรารู้ดีถึงเรื่องนี้ มันเคยเกิดขึ้นมาแล้วกับ ลิเวอร์พูล ซีซั่นนี้ก็คงคล้ายกัน”
“กับ อาร์เซน่อล ผมค่อนข้างมั่นใจว่าพวกเขาจะกลับมาชนะเกมของตัวเองในอีก 2 นัดที่เหลือ ส่วนเรากำลังจะลงเตะรอบตัดเชือกนัดที่ 2 เพื่อให้ได้เข้าชิง ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก และนี่คือความสำเร็จที่พิเศษมากๆ”
ทั้งนี้ ยังไม่มีทีมอังกฤษรายไหนทำ “ทริปเปิ้ลแชมป์” ได้มาก่อนถัดจาก แมนฯ ยูไนเต็ด ปี 1999 แต่ในยุคของ เป๊ป แมนฯ ซิตี้ ก็เคยเหมา 4 แชมป์รายการในประเทศทั้งหมดมาแล้ว เมื่อซีซั่น 2018/19
