ทีมชาติเมียนมาบินไปเก็บตัวถึงตุรกี, ทีมชาติสิงคโปร์ไปเก็บตัวที่สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ไหนจะบรรดาทีมยุโรปที่ชอบไปตั้งแคมป์กันในตะวันออกกลาง, สหรัฐอเมริกา หรือ จีน
ตัวอย่างที่กล่าวไปข้างต้นแสดงให้เห็นว่า การเดินทางไปเก็บตัวต่างประเทศของทีมฟุตบอลดูจะเป็นเรื่องปกติในโลกทุกวันนี้ ทั้งที่ความจริงแล้ว การเก็บตัวซ้อมแบบนี้ก็ไม่ได้แสดงเห็นประโยชน์อะไรที่จับต้องได้ในสนาม เพราะหลายครั้งที่เรารู้สึกว่า มันเหมือนพานักบอลไปเที่ยวมากกว่า
Main Stand จะเฉลยข้อสงสัยนี้ว่า ทำไมทีมฟุตบอลถึงมักชอบไปเก็บตัวต่างประเทศก่อนแข่งศึกใหญ่? ก่อนจะแสดงถึงคำตอบที่บอกว่า แคมป์เก็บตัวเหล่านี้ให้ประโยชน์แก่สโมสรกว่าที่คุณคิด
สานสัมพันธ์ผู้เล่นในทีม
ประโยชน์แรกของการเดินทางไปเข้าแคมป์เก็บตัวยังต่างประเทศ คือ “การสานสัมพันธ์” ระหว่างบรรดาผู้เล่นในทีม, สตาฟฟ์โค้ช หรือ บุคลากรในแผนกต่างๆของทีม ท่ามกลางบรรยากาศที่สนุกสนานและเอื้อต่อการทำความรู้จักผู้คน หากจะเปรียบให้เข้าใจง่าย นี่คงไม่ต่างจากทริปเที่ยวประจำปีของพนักงานบริษัท ที่จะเปิดโอกาสให้เราได้สนุกไปบรรดาหัวหน้าและเพื่อนร่วมงานที่รักยิ่ง(?)
การเดินทางไปเข้าแคมป์ของบรรดานักเตะจึงจะต้องเต็มไปด้วยความสนุกสนาน และบรรยากาศที่ผ่อนคลาย นี่จึงนำมาสู่การยกพลไปเก็บตัวยังต่างประเทศที่มีบรรยากาศแตกต่างไปจากเดิม เพราะนอกจากพวกเขาจะได้ความรู้สึกเหมือนออกไปเที่ยวแล้ว นักกีฬาเหล่านี้ยังได้หันหลังให้กับสนามซ้อมเดิมๆที่ตลบอบอวลไปด้วยบรรยากาศของการแข่งขัน
นี่จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้บรรดาทีมฟุตบอลในบุนเดสลีกา ซึ่งถือเป็นลีกฟุตบอลชั้นนำที่มีช่วงเวลาเบรกหน้าหนาวนานกว่าใครเพื่อน โดยจะอยู่ที่ 2-4 สัปดาห์ ตัดสินใจเดินทางออกไปเก็บตัวยังต่างประเทศ ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นประเทศในภูมิภาคตะวันออกกลาง เพราะสภาพภูมิอากาศในแถบนั้น ไม่มีอะไรเหมือนกับทวีปยุโรปในช่วงเดือนมกราคมที่เต็มไปด้วยหิมะหรือสายฝน
“ถ้าคุณเลือกเดินทางไปยังสเปนหรือโปรตุเกสในช่วงต้นเดือนมกราคม มันไม่ใช่เรื่องแปลกที่คุณจะเจอฝนตกหนักติดต่อกัน 5 วัน” แพทริค สตราสเซอร์ นักข่าวประจำทีม บาเยิร์น มิวนิค อธิบายเหตุผลที่นักฟุตบอลต้องหนีไปเก็บตัวต่างประเทศในช่วงหน้าหนาว
“การเก็บตัวต่างประเทศมีเหตุผลของมันเอง เพราะมันเป็นเรื่องดีที่นักเตะจะได้อยู่ด้วยกันตลอดระยะเวลาหนึ่งสัปดาห์ พวกเขาทั้งหมดใช้เวลาร่วมกันพร้อมกับทำความรู้จักโค้ชและเทรนเนอร์”
จินตนาการว่าคุณเป็นนักเตะที่อยู่ในทีมซึ่งกำลังหนีตกชั้นในบุนเดสลีกา การเปลี่ยนบรรยากาศไปเตะฟุตบอลท่ามกลางแสงแดดในตะวันออกกลาง และเดินเล่นบนหาดทรายบ้างในบางโอกาส นี่คือช่วงเวลาที่ทำให้คุณผ่อนคลายจากผลงานอันน่าผิดหวังในเลกแรก และพร้อมจะกลับมาสู้ศึกในครึ่งฤดูกาลหลัง ที่สำคัญ แคมป์เก็บตัวที่ใช้ชีวิตเป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์ ยังช่วยให้คุณได้เปิดใจกับเพื่อนร่วมทีมถึงปัญหาที่เกิดขึ้น
แม้แต่ทีมฟุตบอลในอาเซียนทั้งหลายต่างเห็นความสำคัญในเรื่องนี้ จึงพาเหรดกันไปเก็บตัวยังต่างประเทศก่อนลงแข่งขันฟุตบอลซูซูกิ คัพ 2020 ที่ผ่านมา เช่น ทีมชาติเมียนมาที่เดินไปยังประเทศตุรกี หรือ ทีมชาติสิงคโปร์ที่ไปเก็บตัวกันในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ โดยการเก็บตัวในลักษณะนี้จะช่วยให้บรรดานักเตะทีมชาติซึ่งแต่เดิมกระจัดกระจายตามสโมสรต่างๆ ได้มีโอกาสทำความรู้จักอย่างจริงจัง ก่อนจะสู้ศึกสำคัญที่รออยู่เบื้องหน้า
ทางกลับกัน หากแคมป์เก็บตัวต่างประเทศถูกยกเลิกเหมือนกรณีของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในช่วงต้นปี 2020 ที่ตัดสินใจไม่เดินทางไปฝึกซ้อมที่ประเทศกาตาร์ตามกำหนดเดิม เนื่องจากกังวัลเรื่องปัญหาความปลอดภัยหลังเกิดกรณีสังหารพลเอกกาเซ็ม โซเลย์มานี นายพลชาวอิหร่านโดยฝีมือของกองทัพสหรัฐอเมริกา ซึ่งถือเป็นบ้านเกิดของตระกูลเกลเซอร์เจ้าของทีมปีศาจแดง
ด้วยเหตุนี้ โอเล่ กุนนาร์ โซลชาร์ กุนซือแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ขณะนั้น จึงตัดสินใจเลือกให้นักเตะพักผ่อนตามอัธยาศัยในช่วงเบรกแทน และถึงแม้นักฟุตบอลเหล่านี้อาจจะได้โอกาสผ่อนคลายจากการแข่งขัน ด้วยการออกไปพักผ่อนส่วนตัวในยุโรป แต่มันเทียบไม่ได้เลยกับการเข้าแคมป์ และได้เห็นนักเตะหัวเราะไปกับมุกตลกของกันและกัน เหมือนที่ควรจะเกิดขึ้นในแคมป์ฝึกซ้อมที่ตะวันออกกลาง
สิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน
กาตาร์ หรือ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ไม่เพียงแต่ดึงดูดทีมฟุตบอลดังจากทวีปยุโรปให้ไปตั้งแคมป์เก็บตัวเพียงเพราะหาดทรายและแสงแดด แต่เป็นเพราะประเทศเหล่านี้มีสิ่งอำนวยความสะดวกในการฝึกซ้อม และที่พักอาศัยแก่นักเตะระดับซูเปอร์สตาร์ระดับที่น่าเหลือเชื่อ แม้แต่ผู้จัดการทีมชั้นนำที่ในหัวมีแต่เรื่องฟุตบอลอย่าง เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ยังยกนิ้วให้กับความทันสมัยของประเทศในตะวันออกกลาง
“สิ่งอำนวยความสะดวกในกรุงโดฮานั้นมหัศจรรย์มาก พวกเรามีทุกอย่างที่เราต้องการที่นี่ และสิ่งที่ยอดเยี่ยมที่สุดเกี่ยวกับหน้าหนาวในกาตาร์คือสภาพอากาศ สภาพแวดล้อมที่ยอดเยี่ยมซึ่งเหมาะสมกับการเตรียมทีมลงแข่งขัน” กวาร์ดิโอล่า ชื่นชมประเทศกาตาร์ ตั้งแต่เขายังคุมทีมบาเยิร์น มิวนิค เมื่อปี 2014
แน่นอนว่า สนามฟุตบอลในประเทศกาตาร์คงไม่สามารถอำนวยความสะดวกได้ครบครันเหมือนกับศูนย์ฝึกซ้อมของสโมสรชั้นนำในยุโรป แต่อย่างที่บอกตั้งแต่ต้นว่า การเก็บตัวในลักษณะนี้มีรูปแบบคล้ายกิจกรรมพักผ่อนมากกว่าการฝึกซ้อมอย่างจริงจัง
นักฟุตบอลที่เดินทางไปเก็บตัวในต่างประเทศ ส่วนใหญ่จะประกอบไปด้วยการแบ่งข้างเตะบอล 90 นาที ในช่วงเช้าและช่วงเย็น ไม่มีการพูดคุยเรื่องแทคติกอย่างจริงจัง ไม่มีการเข้าโปรแกรมฟิตเนสโหดเพื่อเน้นศักยภาพร่างกาย
นอกเหนือจากเกมกระชับมิตรระหว่างเพื่อนร่วมทีม ซึ่งอาจจะรวมถึงเกมกระชับมิตรกับทีมท้องถิ่น นักฟุตบอลจะได้เพลิดเพลินกับโรงแรมห้าดาวที่มีทุกอย่างให้พวกเขาใช้บริการ ไม่ว่าจะเป็น ยิมฟิตเนส, ห้องอบเซาน่า หรือ ห้องพักตากอากาศสุดหรู
และถึงแม้คุณจะเป็นเพียงนักเตะทีมชาติอาเซียนที่อาจไม่ได้ไปพักโรงแรมชั้นนำเหมือนแข้งบาเยิร์น มิวนิค แต่อย่างน้อยคุณจะได้ใช้เวลาหนึ่งอาทิตย์ในรีสอร์ทบรรยากาศดี ซึ่งจะไม่มีวันได้สัมผัสในการซ้อมฟุตบอลอย่างจริงจังที่บ้านเกิด
สิ่งอำนวยความสะดวกที่เพียบพร้อมในต่างแดน จึงเป็นเครื่องดึงดูดให้บรรดานักเตะรวมถึงทีมโค้ชของสโมสรยุโรป อยากเดินทางไปตั้งแคมป์เก็บตัวในต่างประเทศกันทุกฤดูกาล หรือสำหรับฟุตบอลทีมชาติ นี่ถือเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนทัวร์นาเมนต์ใหญ่เสมอ
หากจะพูดให้เห็นภาพ นี่ไม่ต่างจากเราแพ็คกระเป๋าหอบโน๊ตบุ๊กออกจากบ้าน เพื่อไปหาไอเดียสำหรับโปรเจกต์ใหญ่ผ่านการนั่งทำงานริมทะเล ซึ่งแน่นอนว่า หากได้ที่พักสักแห่ง ทะเลสักหาดที่ถูกใจจริงๆ เราก็คงอยากกลับไปทำงานที่นั่นทุกปีเช่นกัน
“สภาพการฝึกซ้อมในกรุงโดฮายอดเยี่ยมมาก บางทีนี่อาจจะเป็นการฝึกซ้อมที่ดีที่สุดที่เราจินตนาการได้ ข้อเสียอย่างเดียวของที่นี่คือเรามีร่มกันแดดไม่เพียงพอกับความต้องการ นอกเหนือไปจากนี้ ทุกอย่างเพอร์เฟคต์มาก พวกเราชอบมันมาก และเราหวังว่าจะได้กลับมาที่นี่อีกครั้งในปีหน้า” ลูเซียโน่ สปัลเล็ตติ กุนซือชื่อดังชาวอิตาลี กล่าวถึงความปรารถนาที่อยากจะไปตั้งแคมป์ฝึกซ้อมในประเทศกาตาร์อีกครั้ง
เพื่อการตลาดและการโฆษณา
เหตุผลสุดท้ายซึ่งอาจจะเป็นเหตุผลสำคัญที่สุดที่ทำให้บรรดาทีมฟุตบอลแห่กันไปเก็บตัวอย่างต่างประเทศ หนีไม่พ้นเรื่องของการตลาดและผลกำไร โดยเฉพาะอย่างยิ่งในวันนี้ที่ทีมกีฬาถูกปรับตัวเป็นสินค้าอย่างเต็มตัว และผู้คนทั่วโลกมีโอกาสจะเลือกเชียร์ทุกสโมสรฟุตบอลบนโลกตามที่พวกเขาต้องการ การเดินทางไปทำการตลาดในประเทศต่างๆที่มีฐานแฟนคลับจึงถือเป็นเรื่องสำคัญ
การจัดแคมป์ฝึกซ้อมในต่างประเทศจึงวิธีง่ายที่สุดที่จะทำให้แฟนบอลต่างแดนได้ใกล้ชิดแข้งซูเปอร์สตาร์ที่พวกเขารัก เพราะในเมื่อการฝึกซ้อมของพวกเขาไม่มีความจริงจังมากไปกว่าการรักษาความฟิต
ทีมฟุตบอลจึงใช้โอกาสนี้จัดแสดงการฝึกซ้อมในระบบเปิด ซึ่งไม่เพียงจะเป็นโอกาสให้แฟนบอลได้ชมแข้งซูเปอร์สตาร์เล่นฟุตบอลกับตา พวกเขายังใช้โอกาสนี้ในการใกล้ชิด, ขอลายเซ็น และถ่ายรูปกับนักฟุตบอล
วิธีทำการตลาดด้วยการเปิดโอกาสให้แฟนต่างประเทศได้พบนักฟุตบอลผ่านแคมป์ฝึกซ้อม ถือเป็นกำไรขั้นพื้นฐานที่พวกเขาจะได้จากการไปเก็บตัวในต่างประเทศ เพราะการทำกิจกรรมแต่ละครั้งของทีมฟุตบอลระดับโลก ย่อมมาพร้อมกับสปอนเซอร์ ซึ่งค่าโฆษณาตรงนี้หมายถึงรายได้มหาศาลของทีมฟุตบอล ซึ่งบางครั้ง เป็นสปอนเซอร์เหล่านี้ที่อ้าแขนรับพวกเขามาเก็บตัวต่างประเทศ
สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ คือหนึ่งในประเทศที่เปิดกว้างให้บรรดาสโมสรในยุโรปเข้ามาเก็บตัวฝึกซ้อม เพราะการมาเยือนของบรรดานักเตะชื่อดังเหล่านี้จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจท่องเที่ยวของพวกเขาอย่างมหาศาล เมื่อเรามองไปยังแรงสนับสนุนที่บรรดาชีคมีให้แก่ทีมฟุตบอลผ่านธุรกิจต่างๆ เช่น Emirates Airlines มันก็เป็นเรื่องง่ายที่เม็ดเงินเหล่านี้จะพานักฟุตบอลมาเก็บตัวในต่างประเทศ
ประเทศในตะวันออกกลางยังอำนวยความสะดวกมากมายให้การเดินทางเป็นไปอย่างราบรื่น ไล่ตั้งแต่ การยกเว้นวีซ่าให้กับนักท่องเที่ยวจากยุโรป, สิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆที่มีราคาถูกแต่คุณภาพดี, ระยะเวลาการเดินทางที่นานเพียง 7 ชั่วโมง และแน่นอนที่สุด เงินสนับสนุนระหว่างทำกิจกรรมในประเทศ ซึ่งมาในรูปแบบคอมพลีทแพคเกจ กล่าวคือ ทุกอย่างเจ้าภาพจ่ายให้หมด
สิ่งที่สโมสรเหล่านี้ต้องแลกเปลี่ยนมีไม่มากมาย ส่วนใหญ่จะเป็นกิจกรรมโปรโมตประเทศเหล่านั้น เช่น ทริปบาเยิร์น มิวนิค เยือนสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ที่บรรดาแข้งเสือใต้ต้องไปเยือนสวนสัตว์, เที่ยวตึกเบิร์จคาลิฟา และถ่ายรูปกับรัฐมนตรีการท่องเที่ยวสหรัฐเอมิเรตส์
แพทริค สตราสเซอร์ นักข่าวประจำทีมบาเยิร์น มิวนิค เคยกล่าวว่า พวกเขาไม่มีทางรู้ได้เลยว่า ใครหรือบริษัทใดที่เป็นสปอนเซอร์สนับสนุนการทำกิจกรรมเหล่านี้ของทัพเสือใต้ในตะวันออกกลาง แต่ที่เขารู้คือ บาเยิร์น มิวนิค ไม่จำเป็นต้องจ่ายค่าเดินทางตลอดทั้งทริปแม้แต่ยูโรเดียว (รวมถึงค่าเครื่องบินไป-กลับเยอรมันด้วย) แถมยังได้สิทธิเช่าโรงแรมหรูอย่าง Grand Hyatt ในราคาถูกจนน่าเหลือเชื่อ นี่ยังไม่รวมสนามซ้อมที่พวกเขาได้ใช้ฟรีอีกต่างหาก
เมื่อบวกกับความจริงที่ทีมฟุตบอลต้องการจัดแคมป์เก็บตัวเพื่อสานสัมพันธ์ผู้เล่นในทีม และพักผ่อนหย่อนใจก่อนสู้ศึกหนักใหญ่ที่รออยู่เบื้องหน้า แทบไม่มีเหตุผลที่สโมสรเหล่านี้ต้องฝึกซ้อมในศูนย์ฝึกซ้อมเดิม แทนจะเปิดรับโอกาสใหม่ที่กำลังจะเข้ามาในต่างประเทศ
นี่จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้บรรดาทีมฟุตบอลเดินทางไปเก็บตัวในประเทศที่ไม่ใช่มหาอำนาจลูกหนัง นั่นเป็นเพราะพวกเขาได้ประโยชน์แทบทุกด้านตอบแทนกลับมา เชื่อเหลือเกินว่า เมื่อถึงวันที่โลกใบนี้สามารถควบคุมโควิด-19 ได้จริง การเดินทาไปยังต่างประเทศเพื่อเปิดแคมป์เก็บตัวของสโมสรดัง คงเกิดขึ้นกันอย่างแพร่หลายเหมือนในอดีตแน่นอน