ออสเตรเลีย ทำได้ด้วยผลงานเอาชนะจุดโทษ เปรู 5-4 หลังสู้กันทรหด 120 นาที เสมอ 0-0 คว้าตั๋วเข้ารอบสุดท้ายฟุตบอลโลก 2022 ได้สำเร็จ ในเกมอินเตอร์คอนติเนนทัล เพลย์ออฟ เมื่อคืนวันจันทร์
ศึกฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือกรอบเพลย์ออฟข้ามทวีป ซึ่งแข่งขันแบบนัดเดียวจบที่สนามกลางอย่าง อัล รายยาน สเตเดี้ยม ในประเทศกาตาร์ เป็นการพบกันระหว่าง ออสเตรเลีย ทีมจากโซนเอเชีย ดวลกับ เปรู ทีมจากโซนอเมริกาใต้
เกรแฮม อาร์โนลด์ กุนซือออสเตรเลีย เลือกจัดทัพมาในระบบ 4-1-4-1 ด้วยการฝากความหวังในแนวรุกไว้ที่กองหน้าตัวเป้าอย่าง มิตเชลล์ ดุ๊ก
ด้านเปรูของ ริคาร์โด้ กาเรก้า วางหมากมาในแผน 4-1-4-1 เช่นกัน โดยฝากความหวังในแนวรุกไว้ที่กองหน้าตัวเป้าอย่าง จานลูก้า ลาปาดูลา
ผลปรากฏว่า ครึ่งเเรก ผ่านไป 8 นาที ออสซี่ ทักทายก่อนจากจังหวะยิงของ อายดิน ฮรูสติซ สับด้วยซ้ายแต่บอลพุ่งหลุดเสาแรกออกหลัง
ทั้งสองทีมพยายามทำเกมเพื่อหวังออกนำ แต่กลับไม่มีความปะติดปะต่อขาดๆ เกินๆ ในจังหวะสุดท้ายไปหมด ทำให้จบ 45 นาทีแรกเสมอ 0-0
ครึ่งหลัง เปรู ทำเกมได้ดีกว่าพยายามเดินหน้าลุยเพื่อออกนำ นาทีที่ 69 คริสเตียน เกว่า หลุดเข้าเขตโทษทางซ้ายแต่จังหวะยิงไม่ดีบอลเข้าข้างตาข่ายด้านนอก
ท้ายเกม ทัพจิงโจ้ น่าจะได้เฮในจังหวะที่ อาซิซ เบฮิช แบ็กซ้ายลากตัดเข้าในก่อนปั่นด้วยขวาบอลหลุดเสาไกลแค่นิดเดียว
นาที 88 ออสเตรเลีย พลาดโอกาสทองอีกครั้ง อาเวอร์ มาบิล ตัวสำรองสอดมาทางซ้ายก่อนปาดมาหน้าเขตโทษให้ อายดิน ฮรูสติซ ยิงติดเซฟ เปโดร กาเยเซ่ ล้มตัวรับได้หวุดหวิด
จบเกม 90 นาทีเสมอ 0-0 ต้องดวลกันในช่วงต่อเวลาพิเศษ 30 นาที โดยในนาที 7 เปรู น่าออกนำสุดๆ หลุยส์ อัดวินกูล่า ตักจากทางซ้ายมาให้ เอดิซอน ฟลอเรส โขกบอลชนเสาอย่างจัง
เกมต้องมาตัดสินด้วยการดวลจุดโทษ ปรากฏว่าเป็นทาง ออสเตรเลีย ทำได้ดีกว่าเอาชนะไป 5-4 ผ่านเข้ารอบสุดท้ายไปอยู่กลุ่ม ดี ร่วมกับ ฝรั่งเศส ทีมแชมป์เก่าเมื่อปี 2018 , เดนมาร์ก และ ตูนิเซีย