sportpooltoday

โค้งสุดท้าย “ฟีร์มีโน”..??! (คอลัมน์สนุกมือ/ ธีรพัฒน์ อัครเศรณี)


โค้งสุดท้าย "ฟีร์มีโน"..??! (คอลัมน์สนุกมือ/ ธีรพัฒน์ อัครเศรณี)

“If you watch the game, you don’t see Firmino. If you watch Firmino, you see the whole game”

นี่คือคำกล่าวของ ปีเตอร์ เคราช์ ตำนานกองหน้าลิเวอร์พูลที่ออกมายกย่องถึงความสำคัญและพรสวรรค์ในการอ่านเกมในสนามอย่างทะลุปรุโปร่งของนักเตะรุ่นน้องอย่าง โรเบอร์โต้ ฟีร์มีโน

ในวันที่ถิ่นแอนฟิลด์มีดาวเตะหน้าใหม่อย่าง หลุยส์ ดิอาซ เข้ามา พร้อมกับฟอร์มอันเจิดจรัสของ ดิโอโก โชต้า หลายคนพากันลืมเลือนกองหน้าชาวบราซิเลียนผู้นี้ บางคนบอกถึงขนาดว่าเป็นโค้งสุดท้ายต้องถูกโละในช่วงซัมเมอร์นี้อย่างแน่นอนเพราะฟอร์มตก
qหารู้ไม่ว่า ฟีร์มีโน ผู้นี้คือหนึ่งในดาวเตะตัวโปรดของ เยอร์เกน คล็อปป์ ผู้จัดการทีม แม้เขาจะไม่ใช่คนที่ซื้อ “บ็อบบี้” เข้าสู่สโมสรก็ตามที

ครั้งหนึ่ง คล็อปป์ เคยยกย่องเขาว่าเป็น “ห้องเครื่อง” สำคัญในการขับเคลื่อนเกมรุกของลิเวอร์พูล แม้กระทั่งตั้งแต่ก่อนเข้ารับตำแหน่งที่อังกฤษ ยอดโค้ชชาวเยอรมนีก็เคยชมเชยการซื้อตัวครั้งนี้ของหงส์แดงมาก่อนแล้ว

“ตอนรู้ว่าลิเวอร์พูลซื้อตัวบ็อบบี้ ผมยังสงสัยเลยว่าพวกเขาทำได้อย่างไร? มันเป็นการเซ็นสัญญาที่ยอดเยี่ยมมาก ในวันที่ค่าตัวของ ฟีร์มีโน ยังไม่แพงมากด้วย” คล็อปป์ กล่าว

นั่นคือเดือนมิถุนายน ปี 2015 ซึ่งยอดทีมจากเมอร์ซีย์ไซด์เซ็นสัญญาดาวเตะผู้นี้มาจาก ฮอฟเฟนไฮม์ ในบุนเดสลีกา ด้วยราคา 29 ล้านปอนด์ ซึ่งมีการเปิดเผยภายหลังว่าตอนแรกนั้น แบรนดอน ร็อดเจอร์ส ลังเลเพราะอยากได้ คริสติยง เบนเตเก มากกว่า แต่กลายเป็น ไมเคิล เอ็ดเวิร์ดส์ ซึ่งช่วงนั้นยังทำหน้าที่ผู้อำนวยการด้านเทคนิคของสโมสร เป็นผู้หว่านล้อมทีมงานให้ดึงดาวเตะผู้นี้เข้ามาอีกคน เพราะมองเห็นว่า ฟีร์มีโน คือดาวเตะผู้สามารถยกระดับเกมได้
fแรกๆ ฟีร์มีโน ยังต้องปรับตัวกับการเล่นในอังกฤษ แถม ร็อดเจอร์ส ยังจับเขาไปยืนกองหน้าตัวริมเส้น แต่หลังจากนั้น พอ คล็อปป์ เข้ามารับตำแหน่ง ทุกอย่างก็คือประวัติศาสตร์ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หลังจากที่ยอดกุนซือทุ่มซื้อ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ เข้ามา จนทั้งคู่ประสานงานกันได้อย่างเป็นปี่เป็นขลุ่ย และทำให้ดาวเตะอียิปต์ระเบิดประตูได้เป็นว่าเล่น

“บ็อบบี้ เป็นตัวเชื่อมเกมที่ยอดเยี่ยม เป็นตัวจบสกอร์ เป็นนักสู้ และเป็นกองหลังตัวแรกในทีม” คล็อปป์ บรรยายสรรพคุณอย่างชื่นชมถึงลูกทีมคนนี้

คำพูดของ เคราช์ ไม่ห่างไกลความจริงนัก ฟีร์มีโน มักจะรอโอกาสอย่างสงบระหว่างคู่เซ็นเตอร์ฮาล์ฟของศัตรู เหมือนไม่มีพิษสง ไม่มีส่วนร่วมกับเกม แต่เมื่อใดที่เขาเริ่มเห็นโอกาสและมีการเคลื่อนไหว ไม่ว่าจะเป็นการถอยลงมาต่อบอลกับเพื่อนๆ หรือสอดแทรกตัวเองเข้าไปในช่องว่างระหว่างแผงหลัง ความอันตรายของเขาจะเริ่มบังเกิดทันที
aด้วยความสามารถการสัมผัสบอลอันนิ่มนวล การอ่านเกม และจ่ายบอลอย่างเหนือชั้น ช่วยให้ ลิเวอร์พูล ถลุงประตูคู่ต่อสู้มาได้นักต่อนัก

ว่ากันว่าบทบาทของเขานั้นอยู่กึ่งกลางระหว่างหมายเลข 9 กับหมายเลข 10 (เอาเป็นเบอร์ 9 ครึ่งดีมั้ย 555) จะเรียก “ฟอลส์ ไนน์” ก็ไม่เต็มปาก แต่ที่จริงแท้แน่นอนเขาคือกองหน้าในสไตล์ที่หาใครเลียนแบบได้ยาก และตอนนี้ในทีมลิเวอร์พูล ก็มีเขาคนเดียวที่เล่นในสไตล์นี้ ส่วนคนอื่นๆนั้นเป็นประเภทจอมเลี้ยงเลื้อย มีความเร็ว เป็นตัวสอดทะลุกันเสียหมด ไม่ว่าจะเป็น ซาลาห์, มาเน, ดิอาซ หรือ โชต้า

ดังนั้น ผมเชื่อว่าโอกาสที่ ฟีร์มีโน จะได้เป็นตัวหลักต่อไปนั้นยังมีสูง อายุอานามเขาก็เพิ่ง 30 ปี กับสไตล์จอมลีลาใช้มันสมองแบบนี้ น่าจะใช้งานและเป็นประโยชน์กับทีมได้อีกนาน เพียงแค่ซีซั่นหน้าเราอาจเห็น 3 ประสานที่เปลี่ยนไปกลายเป็น “มาเน-ฟีร์มีโน-ดิอาซ” เท่านั้นเองครับ