‘โคล’ ชมนักเตะดาวรุ่งไทยพรสวรรค์สูง แอบหวัง ‘แมนฯยู’ จบท็อปโฟร์ซีซั่นนี้
เมื่อวันที่ 30 มีนาคม ที่เอสทีบี ฟุตบอล อคาเดมี แอนดี้ โคล อดีตกองหน้าระดับตำนานของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ร่วมงานเวิร์กช็อป ฟุตบอล คลินิก กับเยาวชนของเอสบีที ฟุตบอล ออคาเดมี จำนวน 40 คน
สำหรับการเปิดฟุตบอล คลินิก ครั้งนี้ เป็นการสอนเทคนิคฟุตบอลที่อยู่ในเอสทีบี อคาเดมี เป็นเวลา 1 ชั่วโมง ทั้งเรื่องของทักษะและเทคนิคพื้นฐานต่างๆ
อดีตดาวยิงทีมปีศาจแดงกล่าวว่า เด็กไทยมีพรสวรรค์ที่ดีมากๆ จากการได้สัมผัสมาหลายครั้ง แต่ยังติดอยู่ที่เรื่องของสภาพร่างกายและความแข็งแกร่งที่ยังไม่มากพอ ทำให้ยังสู้นักเตะในยุโรปไม่ได้ หากเสริมส่วนนี้เข้าไปก็จะเป็นนักเตะที่ยอดเยี่ยม
โคลกล่าวอีกว่า การแข่งขันฟุตบอลแมตช์พิเศษ “เดอะ แมตช์ แบงค็อก เซ็นจูรี่ คัพ 2022” ในวันที่ 12 กรกฎาคม ที่ราชมังคลากีฬาสถาน ระหว่างแมนฯยู กับ ลิเวอร์พูล ชุดปัจจุบัน เป็นเกมที่พิเศษแน่นอน เพราะเป็นครั้งแรกที่จัดศึกแดงเดือดในเอเชีย ส่วนตัวเคยมาปรีซีซั่นที่ไทยในวันที่เป็นนักเตะแล้ว แต่คงไม่ดุเดือดเท่าเกมนี้ เชื่อว่าเป็นเกมที่หลายคนรอคอย และเป็นเกมที่หนักที่สุดในโปรแกรมปรีซีซั่นของแมนฯยูในซัมเมอร์นี้ด้วย เนื่องจากเป็นเกมที่นักเตะได้พักไปนาน ร่างกายอาจจะยังไม่พร้อมนัก แล้วต้องมาเจอกันเกมที่มีความสำคัญในการเจอกับคู่อริในลีกอีก
โคลกล่าวถึงตำแหน่งผู้จัดการทีมคนใหม่ของแมนฯยู ว่า ส่วนตัวมองว่าจะเป็นใครก็ได้ที่สามารถนำความสำเร็จกลับมาให้แมนฯยูได้ ไม่ได้เกี่ยงว่าจะเป็นคนไหน ส่วนแคนดิเดทอย่างเมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ และอีริก เทน ฮาก ที่เป็นสองตัวเต็งโค้ชใหม่นั้น ถือว่าเป็นโค้ชที่ดี แต่ก็ไม่มีใครการันตีว่าจะนำความสำเร็จกลับมาให้แมนฯยูได้
ในประเด็นกองหน้าที่ควรจะนำมามาเล่นคู่กับคริสเตียโน่ โรนัลโด้ ในฤดูกาลหน้า โคลกล่าวว่า คงต้องให้แมวมองและสต๊าฟของแมนฯยูพิจารณาความเหมาะสม เพราะมีนักเตะฝีเท้าที่ในทีมหลายคน หรืออาจจะเป็นนักเตะที่ซื้อเข้ามาเสริม โรนัลโด้เองก็อันตรายมากในกรอบเขตโทษอยู่แล้ว
ส่วนการลุ้นท็อปโฟร์ เพื่อไปลุยยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ในฤดูกาลหน้านั้น อดีตกองหน้าแมนฯยูกล่าวว่า เป็นเรื่องยากที่จะทำได้ เพราะอาร์เซน่อล ทีมอันดับ 4 มีแต้มมากกว่า และยังแข่งน้อยกว่า 2 นัด แต่ถ้าให้มองกันด้วยฐานะอดีตนักเตะแมนฯยู ก็หวังว่าทีมจะจบท็อปโฟร์ได้ แต่เกมลีกที่จะต้องเจออาร์เซน่อลนั้น ก็จะต้องเอาชนะให้ได้ด้วย
“ถ้าให้เทียบทีมที่ผมเคยเล่นกับแมนฯยูชุดปัจจุบันมันคงเปรียบเทียบกันไม่ได้ เพราะมันเป็นคนละยุค ยุคนั้นเรามีเซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ที่มีความกระหายที่อยากจะเอาชนะตลอดเวลา และส่งต่อมาถึงลูกทีม รวมทั้งมีรอย คีน ที่เป็นกัปตันทีมที่คอยกระตุ้นทุกคนด้วย ทำให้นักเตะในทีมมีไฟที่จะเอาชนะอยู่ตลอดเวลา ก็ตอบไม่ได้ว่าทีมชุดปัจจุบันมีความกระหายที่อยากจะเอาชนะได้มากน้อยขนาดไหน” โคลกล่าว