กลายเป็นประเด็นที่คอลูกหนังทั่วโลกให้ความสนใจเป็นอย่างมาก หลังจากที่ อาร์แซน เวนเกอร์ กุนซือประสบการณ์สูงชาวฝรั่งเศส ได้ออกมาเปิดเผยถึงแนวทางการแข่งขัน ฟุตบอลโลก 2026 ที่จะมีการเพิ่มทีมจาก 32 เป็น 48 ชาติ ในรอบสุดท้าย
โดย อดีตกุนซือวัย 73 ปี ที่ปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานฝ่ายพัฒนาฟุตบอลระดับโลกของ สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟ่า) ได้ออกมาเปิดเผยถึงระบบการแข่งขันใหม่ที่อาจถูกนำมาใช้ในการแข่งขันฟุตบอลโลก ครั้งหน้า ที่จะมีเจ้าภาพทั้งหมด 3 ชาติ ประกอบด้วย สหรัฐอเมริกา, เม็กซิโก และ แคนาดา
ซึ่งถึงตอนนี้ทาง ฟีฟ่า มีแนวคิดที่จะใช้ระบบการแบ่งกลุ่มออกเป็น 16 กลุ่ม (กลุ่มละ 3 ทีม) หรือแบ่งเป็น 12 กลุ่ม (กลุ่มละ 4 ทีม) รวมทั้งมีแนวคิดที่จะแบ่งการแข่งขันออกเป็นสองสาย แต่ละสายมี 6 กลุ่ม (กลุ่มละ 4 ทีม)
“มันยังคงเป็นแค่แนวคิดทั้งหมด มันยังไม่ได้มีการตัดสินใจขั้นสุดท้ายว่าจะมีการแบ่งกลุ่มออกเป็น 16 กลุ่ม หรือ 12 กลุ่ม รวมทั้งการแบ่งออกเป็นสองสายใหญ่ๆ ที่มีสายละ 6 กลุ่ม”
“ผมก็ไม่สามารถตัดสินใจได้ มันจะเป็นการตัดสินใจของมติในที่ประชุมฟีฟ่า และผมคิดว่ามันจะได้ข้อสรุปที่ชัดเจนภายในปีหน้า” เวนเกอร์ เปิดใจ
นอกจากนี้ด้วยการที่ ฟุตบอลโลก 2026 จะมีการเพิ่มจำนวนเป็น 48 ทีม ทำให้หลายฝ่ายมองว่าอาจมีการสมยอมกันเรื่องผลการแข่งขันของเกมสุดท้ายในรอบแบ่งกลุ่ม เพื่อโอกาสในการกอดคอกันเข้ารอบ
ทำให้ ฟีฟ่า มีแนวคิดเกี่ยวกับเรื่องการที่จะให้มีการยิงลูกจุดโทษตัดสินชี้ขาดของทุกเกมในรอบแบ่งกลุ่มหากเสมอกันใน 90 นาที โดยทีมชนะจะได้ 2 คะแนน และทีมที่แพ้จะได้ 1 คะแนน ซึ่งแนวคิด และรูปแบบทั้งหมดนี้ยังต้องรอ ฟีฟ่า สรุปอย่างเป็นทางการอีกครั้ง