เอริค เทน ฮาก ผู้จัดการทีมคนใหม่ของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แห่งศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ให้สัมภาษณ์ผ่านเว็บไซต์อย่างเป็นทางการของทีมเป็นครั้งแรกโดยชี้ประเด็นสำคัญถึงการกู้ชีพ ปีศาจแดง จากความล้มเหลวในฤดูกาลนี้ และเน้นย้ำถึงความทุ่มเทของแข้งในทีม
กุนซือชาว ดัตช์ เข้าไปเป็นสักขีพยานที่ เซลเฮิร์สท์ พาร์ค เกมสุดท้ายของซีซันที่ แมนฯ ยูไนเต็ด บุกไปปราชัยต่อ คริสตัล พาเลซ 0-1 ก่อนที่เจ้าตัวจะรับหน้าที่ต่อจาก ราล์ฟ รังนิค เมื่อสิ้นสุดฤดูกาลนี้อย่างเป็นทางการ
“ประการแรกคือเราต้องยอมรับในสถานการณ์ปัจจุบัน แต่ตระหนักด้วยว่าเมื่อ 1 ปีก่อนทีมนี้เคยจบด้วยอันดับ 2 ของตารางบน พรีเมียร์ลีก” เทน ฮาก ตอบคำถามที่ว่ามองเห็น แมนฯ ยูไนเต็ด ในอนาคตเป็นอย่างไร
“เรามีศักยภาพอยู่และอยู่ที่เราแล้วว่าจะทำมันสำเร็จหรือไม่ มันต้องอาศัยการจัดการเป็นขั้นตอนซึ่งจะต้องใช้เวลาอยู่บ้าง ผมมั่นใจว่าเราจะเดินทางไปสู่การประสบความสำเร็จในท้ายที่สุด เราจำเป็นต้องทำงานอย่างหนักและอยู่บนพื้นฐานของปรัชญากับกลยุทธ์ที่ถูกต้อง”
“เราต้องการที่จะทำให้แฟนบอลของเราภาคภูมิใจ ต่อมาคือแน่นอนว่าสถานการณ์ที่เราเป็นอยู่ไม่สู้ดีนัก” นายใหญ่วัย 52 ปีกล่าวต่อ
“มันเป็นความท้าทายที่ยิ่งใหญ่ของเรา ผมต้องการที่จะสร้างที่ทุกคนต่อสู้เพื่อกันและกัน มีความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันเพื่อผลลัพธ์ในท้ายที่สุด”
“และเราเล่นใน โรงละครแห่งความฝัน ผมต้องการให้ทีมเล่นอย่างสนุก ที่สุดแล้วเราต้องการเล่นฟุตบอลอย่างอัศจรรย์ หากเราไม่สามารถเล่นฟุตบอลอย่างอัศจรรย์ได้แต่อย่างน้อยเราต้องชนะ”
“ผมมีความคาดหวังต่อผลงานของตัวเองอย่างสูง นั่นเป็นสิ่งที่ผมต้องการจากลูกทีมของผมเช่นเดียวกัน เราต้องร่วมมือทำงานด้วยกันและอุทิศตนในทุกๆ วันอย่างเต็มที่ ผมอยากที่จะบอกว่าแค่เล่นดีนั้นยังไม่พอ เราต้องเป็นทีมที่ดีกว่านี้”
เทน ฮาก กล่าวต่อถึงสไตล์การเล่นที่เขาเคยจัดการในทีม อาแจ็กซ์ จนประสบความสำเร็จใน เอเรดิวิซี นำมาใช้ในทีม แมนฯ ยูไนเต็ด ด้วยเช่นเดียวกัน
“วิธีการเล่นของเรา ครอบครองเกมฟุตบอล ตัดสินความเป็นไปด้วยตนเอง นั่นเป็นวิธีการที่ผมต้องการทำที่ แมนฯ ยูไนเต็ด ด้วย แต่ท้ายที่สุดเป็นศักยภาพของคนอื่นๆ นั่นหมายถึงเหล่านักเตะด้วยที่จะตัดสินใจในวิธีการเล่น”
“ทุกสโมสรในเส้นทางอาชีพผู้จัดการทีมของผม ผมคาดหวังในระดับที่สูงกับนักเตะของผม ผมหวังว่าพวกเขาจะต่อสู้ 100 เปอร์เซ็นต์ ผมได้พูดไปแล้วว่าแค่ดียังไม่เพียงพอ ผมไม่ได้ต้องการแค่นั้น เราต้องทำให้ดียิ่งขึ้นไปอีก ร่วมมือกันเพื่อความเป็นอันหนึ่งอันเดียว สู้กันเป็นทีมต่อคู่แข่ง”
