นิวคาสเซิล มาดีกว่าชัดเจน
เกมนี้เราแทบมองไม่เห็นปัจจัยใดที่จะทำให้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด บุกมาเอาชนะได้เลย เพราะตั้งแต่นกหวีดยาวเริ่มเกม นิวคาสเซิล ก็แสดงให้เห็นถึงศักยภาพ แม้นักเตะหลายคนชื่อชั้นอาจจะไม่ได้โด่งดังเท่าทีมเยือน แต่พวกเขาแสดงออกถึงความกระหาย ความมุ่งมั่นและ พละกำลังที่เหนือกว่าชัดเจน วิ่งไล่กันอย่างบ้าคลั่งไม่มีหมดแรง และนั่นย่อมสร้างผลลัพธ์ที่ดีกว่า ปีศาจแดง ทำเกมไม่ได้ เซ็นบอลได้อย่างยากลำบาก แถมเกมรับก็โดนนวดตลอด 90 นาทีชนิดที่แทบไม่ได้พักหายใจหายคอ กระทั่งแน่นอนเกมจบลงด้วยชัยชนะของ สาลิกาดง แบบไม่มีใส ๆ ไม่มีข้อโต้แย้งใด ๆ สำหรับค่ำคืนนี้
แมนยู เร่งไม่ขึ้น
การโดนบุกกดดันอย่างหนักจากเจ้าบ้าน ทำให้พวกเขาไม่สามารถเล่นตามแนวทางที่ถนัดได้เลย ซึ่ง เอริค เทน ฮาก เองก็พยายามปรับแต่งขุมกำลังอย่างเต็มที่แล้ว แต่ก็ยังต้านทานความคึกคะนองของเจ้าถิ่นไม่ได้ ซึ่งแน่นอนมีหลายปัจจัยที่น่าจะเกี่ยวข้อง หนึ่งเลยคือโปรแกรมลงแข่งที่ต่อเนื่องจนทำให้ร่างกายอ่อนล้าไล่บอลได้ไม่สุด สองขาด กาเซมิโร เท่ากับขาดจุดเปลี่ยนในแดนกลางที่ทั้ง แมคโทมิเนย์ และ ซาบิตเซอร์ หรือ เฟร็ด ให้ไม่ได้ และสามผลพวงจาก 7-0 แม้หลายคนจะแย้งว่าหลังจากนั้นก็กลับมาคืนฟอร์มในบอลถ้วย แต่หลายเกมทรงบอลก็ไม่ได้ดีอะไรมากมายอย่างในเกมเจอ ฟูแลม ที่เกือบไม่รอดดีที่คู่แข่งโดนใบแดง 2 ใบ ยิ่งไปกว่านั้นในเกมลีกหลังจากโดน 7-0 พวกเขาก็ไม่ชนะใครอีกเลยนับแต่นั้น
เวกฮอร์สต์ พอเถอะ
เชื่อได้เลยว่าแม้จะมีเสียงชื่นชม เว้า เวกฮอร์สต์ กองหน้าตัวรับที่ได้ใจเรื่องความขยันหมั่นเพียร แต่แน่นอนมีคนรักก็ต้องมีคนเกลียด และเมื่อทีมแพ้ก็ต้องหาคนรับผิดชอบเป็นธรรมดา ซึ่งหัวหอกชาวฮอลแลนด์รายนี้ก็เป็นลำดับต้น ๆ ที่วันนี้ต้องบอกว่า “ไร้ประโยชน์” อย่างสิ้นเชิง ทั้งจังหวะจบที่หายากอยู่แล้วแต่ก็ไม่เฉียบขาด และการมีส่วนร่วมก็น้อยมาก ๆ จนแฟน ๆ แทบจะกราบ เทน ฮาก งาม ๆ บอกว่า “ดรอป” เถอะสถาพนี้….
นิวคาสเซิล แซงขึ้นที่ 3
3 แต้มของ สาลิกาดง ในวันนี้ทำให้พวกเขาแซงทั้ง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และ ท็อตแนม ฮ็อตสเปอร์ ขึ้นมาอยู่อันดับ 3 เรียบร้อยแล้ว โดยมีแต้มเท่ากับ ปีศาจแดง แต่ผลต่างประตูได้-เสียดีกว่าอยู่ถึง 17 ลูก และแน่นอนว่านั่นทำให้ดีกรีการลุ้นท็อป 4 ดุเดือดขึ้นมาทันตา โดยมีผู้ท้าชิงหลักคือ สาลิกาดง ปีศาจแดง และ ไก่เดือยทอง ซึ่งมาถึงตอนนี้แล้วบอกได้เลยว่า แมนยู เองก็ไมม่การันตีจบท็อป 4 อีกต่อไป!