ฟุตบอลยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก 2021/22
รอบ 16 ทีมสุดท้าย นัดแรก
คืนวันพุธที่ 16 กุมภาพันธ์ 2022
อินเตอร์ มิลาน 0-2 ลิเวอร์พูล
สนาม: จูเซปเป้ เมสซา
1. เกมแลกกันมันส์ตั้งแต่ต้นให้หลังจากเสียงนกหวีดเริ่มต้นเกมที่ ซาน ซิโร เกมในครึ่งแรกกลายเป็นการที่ทั้งสองฝ่ายต่างออกหมัดเข้าใส่กันเมื่อมีจังหวะให้ง้าง
เจ้าถิ่นทัพ เนรัซซูรี พยายามเล่นอย่างเยือกเย็น เซ็ตลอลที่หน้าปากประตูของตนเอง สร้างกับดักให้ หงส์แดง ลอยขึ้นสูงเพรสซิงเปิดพื้นที่หลังบ้านก่อนจะพยายามฉวยโอกาสทิ้งบอลให้ เลาตาโร มาร์ติเนซ วิ่งเก็บตกหรือ เอดิน เซโก้ พักแต่ไม่เป็นผลนักสำหรับทีมของ ซิโมเน อินซากี้ ซึ่งกลายเป็น อิวาน เปริซิช ในบทบาทวิงแบ็คฝั่งซ้ายโดดเด่นกับการเล่นงาน เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์
โอกาสจะแจ้งในครึ่งแรกกลายเป็นของ ฮาคาน ชัลฮาโนกลู ได้หลุดไปซัดผ่านมือ อลิสซอน เบ็คเกอร์ บอลพุ่งแรงชนคานอย่างจังขณะที่ทีมของ เยอร์เก้น คล็อปป์ สร้างโอกาสเป็นระยะแม้ทั้ง 2 ฝ่ายจะไม่สามารถยิงตรงกรอบได้เลยใน 45 นาทีแรก (ตามสถิติไม่นับรวมการยิงชนเสา ชนคานว่าเป็นการตรงกรอบ)
2. ฮาร์วีย์ เอลเลียตต์ สร้างสถิติด้วยวัย 18 ปี 318 วัยของ ฮาร์วีย์ เอลเลียตต์ ซึ่งถูก เยอร์เก้น คล็อปป์ ส่งลงสนามในฐานะตัวจริงทำให้เขากลายเป็นแข้ง ลิเวอร์พูล อายุน้อยที่สุดที่มีชื่อเป็นตัวจริงในเกม ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก หากไม่นับรวมรอบคัดเลือก
ทำลายสถิติเดิมของ เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ (18 ปี 354 วัน vs สปาร์ตัค มอสโก 2017)
ทั้งนี้ เอลเลียตต์ อยู่ในสนาม 60 นาทีก่อนจะถูกเปลี่ยนตัวออกแทนที่โดย นาบี เกอิต้า และโดยรวมเขาสามารถประคองเกมต่อกรกับแดนกลางชื่อชั้นอย่าง อาร์ตูโร วิดัล, มาร์เซโล โบรโซวิช และ ฮาคาน ชัลฮาโนกลู ได้น่าพอใจ
3. โมเมนตัมของ อินเตอร์ ในครึ่งหลังหลังจากเกมที่สูสีในครึ่งแรก กลายเป็นทัพ เนรัซซูรี ที่เริ่มต้นครึ่งหลังได้กระตือรือล้นมากกว่า โดยเฉพาะการเคลื่อนที่ซึ่งสามารถหวังผลได้ของ เอดิน เซโก้ เมื่อเขาพักบอลสร้างสรรค์โอกาสให้กับเพื่อนร่วมทีมได้ดีขึ้นกว่าเดิมอย่างเห็นได้ชัด
น่าเสียดายสำหรับเจ้าถิ่นที่ไม่สามารถฉกฉวยโอกาสเมื่อโมเมนตัมดังกล่าวอยู่ดับพวเขาได้ กระทั่งกลายเป็นฝ่ายอกหัก ปราชัยต่อ หงส์แดง ในที่สุดเมื่อ เยอร์เก้น คล็อปป์ เดิมพันกับ 3 ตัวสำรองราวนาทีที่ 60
4. เดิมพันเปลี่ยนตัว 3 คนของ คล็อปป์หลยส์ ดิอาซ, จอร์แดน เฮนเดอร์สัน และ นาบี เกอิต้า คือ 3 เดิมพันที่ คล็อปป์ ส่งพวกเขาลงมาในสนามนาทีที่ 60 แทนที่ ซาดิโอ มาเน, ฟาบินโญ และ ฮาร์วีย์ เอลเลียตต์ หลังจากที่ส่ง โรแบร์โต้ ฟิร์มิโน ลงสนามแทนที่ ดิโอโก้ โชต้า หลังพักครึ่ง (คล็อปป์ เผยภายหลังว่ากองหน้าทีมชาติ โปรตุเกส เจ็บจากอาการข้อเท้าบิดในครึ่งแรก)
หลังจากนั้นแดนกลางของ เร้ดแมชีน ก็ดูจะถูกขันให้แน่นหนามากขึ้นจากการมี เฮนโด้ และ เกอิต้า ขณะที่ ดิอาซ สร้างความหวือหวาที่ริมเส้นฝั่งซ้ายได้ทันที
5. จุดเปลี่ยนด้วยรายละเอียดเล็กน้อยเกมในช่วง 20 นาทีสุดท้ายกลายเป็นการชะลอจังหวะเข้าทำ ต่างฝ่ายต่างระวังตัวกันมากขึ้นกว่าเดิมอย่างเห็นได้ชัด
แต่แล้วลูกเตะมุมที่ฝั่งขวาของ ลิเวอร์พูล โดย แอนดี้ โรเบิร์ตสัน เปิดไปที่จุดนัดพบเสาแรกให้ โรแบร์โต้ ฟิร์มิโน โฉบเอาชนะ อเลสซานโดร บาสโตนี โหม่งเช็ตบอลเข้าเสาสองสุดปัญญาที่ ซามีร์ ฮันดาโนวิช จะเซฟได้
โดย เยอร์เก้น คล็อปป์ ให้สัมภาษณ์หลังจบเกมเผยที่มาของประตูดังกล่าวว่ามาจากการฝึกซ้อมก่อนเกมการแข่งขันเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา โดยเป็นผลงานทีมงานวิเคราะห์ที่ชี้ชัดถึงจุดอ่อนในการป้องกันลูกลักษณะดังกล่าวของแนวรับ อินเตอร์
ทั้งนี้ ประตู 2-0 ของ ลิเวอร์พูล มาจากการเคลียร์ลูกครอสในกรอบเขตโทษกันไม่ขาดของเจ้าถิ่นด้วยเช่นเดียวกัน
6. สดุดี เจมส์ มิลเนอร์ให้หลังจากการเดบิวต์กับ ลีดส์ ยูไนเต็ด เมื่อปี 2002 ในเส้นทางฟุตบอลอาชีพ ให้หลังจากนั้น 20 ปี เมื่อ เจมส์ มิลเนอร์ ถูกส่งลงสนามในฐานะตัวสำรองแทนที่ ติอาโก้ อัลคันทารา นาทที่ 86 เกมนี้ทำให้เจ้าตัวทำสถิติลงเล่นในเกมอย่างเป็นทางการ 800 นัดเข้าไปแล้ว