เยอร์เก้น คล็อปป์ นายใหญ่ของ ลิเวอร์พูล ทีมดังในศึก พรีเมียร์ลีก ออกมาเปิดเผยถึงสาเหตุสำคัญที่ทำให้เขาไม่มีการเสริมทัพครั้งใหญ่ในซัมเมอร์ที่ผ่านมา หลังจากโดนวิจารณ์อย่างหนักจากผลงานอันย่ำแย่ในฤดูกาลนี้ ตามรายงานจาก Thisisanfield
เมื่อช่วงตลาดซื้อขายหน้าร้อน หงส์แดง จัดการทุ่มเงินราว 100 ล้านยูโรดึงเอา ดาร์วิน นูเญซ เข้ามาร่วมทีมพร้อมกับได้ 2 ดาวรุ่งอย่าง ฟาบิโอ คาร์วัลโญ่ และ คาลวิน แรมซีย์ ตามมา ก่อนที่จะตัดสินใจดึง อาร์ตู เมโล มาจาก ยูเวนตุส ด้วยสัญญายืมตัวในวันสุดท้ายของตลาด
อย่างไรก็ตามจากผลงานที่กำลังย่ำแย่ในฤดูกาลนี้ โดย ลิเวอร์พูล รั้งตำแหน่งกลางตาราง พรีเมียร์ลีก และตกรอบบอลถ้วยทุกรายการ รวมทั้งมีสิทธิ์ที่จะตกรอบฟุตบอล ยูฟา แชมเปี้ยนส์ลีก หลังจากที่โดน เรอัล มาดริด บุกมาถล่มถึงถิ่นในเกมแรก 5-2 ทำให้ คล็อปป์ โดนวิจารณ์อย่างหนักในเรื่องการดำเนินการในตลาดซื้อขายที่ผ่านมา ซึ่งเจ้าตัวได้ออกมาชี้แจงเรื่องนี้ผ่านทาง สกายสปอร์ต ว่า
“ผมชอบนักเตะชุดนี้ แต่เราไม่สามารถไปตัดสินได้โดยปราศจากการมองไปที่สถานการณ์ที่เกิดขึ้น ถ้าเมื่อซีซันก่อนมันไม่ยาวนานและเราไม่ประสบความสำเร็จ มันจะมีการเปลี่ยนแปลงอย่างแน่นอน ซึ่งถือเป็นเรื่องธรรมดา”
“แต่เพราะเราประสบความสำเร็จ โดยเฉพาะเมื่อปีที่ผ่านมาและการมีช่วงซัมเมอร์ที่สั้นมาก มันจึงไม่ใช่ตลาดซื้อขายที่มีการทุ่มเงินมหาศาลเพราะคุณไม่สามารถดึงนักเตะใหม่เข้ามาได้”
“ในช่วงหนึ่งถึงสองวันก่อนปิดตลาด เรามีนักเตะที่พร้อมใช้งานยกเว้น หลุยส์ ดิอาซ และ ติอาโก้ อัลคันทาร่า ที่ได้รับบาดเจ็บ เรามีนักเตะถึง 26 คนไม่นับผู้รักษาประตู จำนวนนี้อาจจะไม่มาก แต่เรามีปัญหาเรื่องอาการบาดเจ็บมากมายจนไม่สามารถใช้งานนักเตะได้และมันก็นำไปสู่ปัญหาต่าง ๆ ที่ตามมา ทุกทีมในโลกสามารถพัฒนาและเปลี่ยนแปลงได้ และแน่นอนว่าเราก็เช่นกัน”
“ปัญหาหลักของเราก็คือเรื่องอาการบาดเจ็บ และเมื่อคุณยังไม่เจอโมเมนตั้มในฤดูกาลนี้ คุณก็จะต้องสู้กับมันด้วยนักเตะที่กลับมาจากอาการบาดเจ็บ เรารู้ว่าเราต้องมีการเปลี่ยนแปลง และในซัมเมอร์นี้คือซัมเมอร์ที่เราต้องทำบางอย่างให้ชัดเจน” คล็อปป์ กล่าว
