สภาเมืองเลสเตอร์มอบรางวัลเชิดชูเกียรติเจ้าสัววิชัย-อัยยวัฒน์ ปธ.สโมสรจิ้งจอกสยาม
เมื่อวันที่ 4 เมษายน ซึ่งเป็นวันเปิดอนุสาวรีย์เจ้าสัววิชัย ศรีวัฒนประภา อดีตประธานสโมสรเลสเตอร์ ซิตี้ ที่คิง เพาเวอร์ สเตเดียม เพื่อรำลึกถึงการจากไปของอดีตประธานสโมสรผู้เป็นที่รักของชาวเมือง สโมสรเลสเตอร์ ซิตี้ ยังได้รับการเชิดชูเกียรติจากสภาเมืองเลสเตอร์ ในฐานะบุคคลทรงคุณค่าที่สร้างคุณูปการต่อเมือง
สภาชิกสภาเทศมนตรีเมืองเลสเตอร์ ได้มีมติมอบรางวัลอันทรงคุณค่า ได้แก่ รางวัลกิตติมศักดิ์แห่งเสรีภาพของเมือง “Honorary Freedom of the City” ให้กับสโมสรเลสเตอร์ ซิตี้ และรางวัลบุคคลยอดเยี่ยมแห่งเมืองเลสเตอร์ “City of Leicester Award” ให้กับอัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา ประธานสโมสรคนปัจจุบัน และวิชัย ศรีวัฒนประภา อดีตประธานสโมสร เพื่อเป็นการขอบคุณที่ช่วยเหลือและสนับสนุนเมืองเลสเตอร์มาโดยตลอด
“ต๊อบ” อัยยวัฒน์กล่าวว่า “คุณพ่อมีความรักและความเชื่อมั่นในชาวเมืองเลสเตอร์ ท่านทุ่มเททั้งหัวใจให้กับเมืองเลสเตอร์เพราะท่านเห็นถึงความเข้มแข็งของเมืองนี้ ที่ทุกคนพร้อมจะก้าวไปด้วยกันและช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ทำให้ผมภูมิใจ นั่นคือสิ่งที่ผมยังคงก้าวไปพร้อมกับทุกคน เพื่อช่วยกันเติมเต็มวิสัยทัศน์เหล่านั้นในนามของคุณพ่อ”
“ผมจะทำอย่างเต็มที่เพื่อทุกคนในเมืองเลสเตอร์ ให้คู่ควรกับรางวัลอันทรงเกียรตินี้ที่มอบให้กับผมและคุณพ่อของผม” อัยยวัฒน์กล่าว
ทั้งนี้ ตลอดระยะเวลา 12 ปี ที่คิง เพาเวอร์ เป็นเจ้าของสโมสรนับตั้งแต่เดือนสิงหาคมปี พ.ศ.2553 เจ้าสัววิชัยได้อุทิศตนเพื่อช่วยเหลือ และพัฒนาชีวิตของผู้คนในเลสเตอร์ รวมถึงการบริจาคทรัพย์สินช่วยเหลือทั้งส่วนตัวและผ่านมูลนิธิวิชัย ศรีวัฒนประภา เพื่อการกุศลในท้องถิ่นมาโดยตลอด
นอกจากนี้ ยังนำพาสโมสรเลสเตอร์ไปสู่ยุคที่รุ่งโรจน์ที่สุด ด้วยการนำทีมกลับมาโลดแล่นในการแข่งขันพรีเมียร์ ลีก จนคว้าแชมป์พรีเมียร์ ลีก ฤดูกาล 2015/16 ที่สร้างเรื่องราวอันน่าจดจำระดับโลก ซึ่งวิสัยทัศน์เหล่านี้ได้ถูกสานต่อโดยอัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา สืบทอดตำแหน่งประธานสโมสร ในปี 2562 หลังจากการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุเฮลิคอปเตอร์ตกของเจ้าสัววิชัย
การเติบโตของสโมสรที่ผ่านมา ทำให้เลสเตอร์ผ่านเข้าไปเล่นในฟุตบอลยุโรปอย่างต่อเนื่องและสามารถคว้าแชมป์เอฟเอ คัพ 2021 เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของสโมสร นอกจากนี้ยังพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานสำคัญต่างๆ ของสโมสร ด้วยการพัฒนาฟุตบอลทีมหญิงขึ้นสู่ทีมอาชีพเป็นครั้งแรกในปี 2020 และนำทีมฟุตบอลหญิงเลื่อนชั้นสู่ลีกสูงสุด เอฟเอ วีเมนส์ ซูเปอร์ ลีก อีกหนึ่่งแผนการพัฒนาสโมสรที่สำคัญคือการลงทุนในสนามฝึกซ้อมในระดับเวิลด์คลาส บนเนื้อที่ 185 เอเคอร์ ที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกชั้นนำระดับโลก ในการสร้างนักฟุตบอลอาชีพของสโมสร รวมถึงการช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจขนาดใหญ่ในภูมิภาค รวมถึงการพัฒนาสนามคิง เพาเวอร์ สเตเดียม อีกด้วย
