sportpooltoday

สถานการณ์ที่น่าจับตามองใน 11 นัดสุดท้ายของลาลีกา 2021/22


สถานการณ์ที่น่าจับตามองใน 11 นัดสุดท้ายของลาลีกา 2021/22

ฟุตบอลลาลีกา สเปน ฤดูกาล 2021/22 ผ่านมาแล้ว 27 นัด หรือเกินกว่า 2 ใน 3 ของซีซั่น ทางลาลีกาได้สรุปสถานการณ์ต่างๆ ที่แฟนฟุตบอลสเปนต้องจับตามองใน 11 นัดสุดท้ายที่เหลือ

เรอัล มาดริด VS เซบีย่า ผู้ท้าชิงแชมป์ซีซั่นนี้
xสถานการณ์การลุ้นแชมป์ลาลีกาในฤดูกาลนี้ ค่อนข้างจะชัดเจนแล้วว่า เรอัล มาดริด และ เซบีย่า คือ 2 ทีมที่มีโอกาสคว้าแชมป์มากที่สุด โดยราชันชุดขาวมีแต้มนำยักษ์ใหญ่จากอันดาลูเซียอยู่ 8 แต้ม ทีมของ คาร์โล อันเชล็อตติ กำลังไล่ล่าแชมป์ลาลีกาสมัยที่ 35 ขณะที่ทีมของฆูเลน โลเปเตกี หวังที่จะคว้าแชมป์ลีกสูงสุดแดนกระทิงดุให้ได้เป็นครั้งแรกในรอบ 76 ปี หรือนับตั้งแต่ฤดูกาล 1945/46 ทั้ง 2 ทีมจะมีโปรแกรมพบกันเองในนัดที่ 32 ของฤดูกาล ช่วงกลางเดือนเมษายน ที่บ้านของ เซบีย่า ถือเป็นนัดสำคัญที่จะชี้ชะตาการลุ้นแชมป์ ซึ่งการพบกันในนัดแรก เรอัล มาดริด เปิดบ้านชนะมาได้ก่อน 2-1

2 จาก 5 ทีม จะได้สิทธิ์ไปแชมเปี้ยนส์ ลีก
zการชิงโควตาเพื่อเข้าร่วมแข่งขันยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ซีซั่นหน้า นอกจาก เรอัล มาดริด และ เซบีย่า ที่มีโอกาสคว้าสิทธิ์ค่อนข้างสูงแล้ว การแย่งตั๋วอีก 2 ทีมที่เหลือ มีทีมที่เข้าข่ายได้ลุ้นถึง 5 ทีมด้วยกัน บาร์เซโลน่า (48 แต้ม) ผลงานช่วงหลังร้อนแรง ชนะ 5 จาก 6 นัดหลังสุดในลีก ทำให้อันดับขึ้นมาอยู่ที่ 3 ของตาราง แถมยังมีนัดตกค้าง 1 นัด ที่พบกับราโย บาเยกาโน่ ช่วงปลายเดือนเมษายนอยู่ในมือด้วย ตามมาด้วยอันดับ 4 แอตเลติโก มาดริด (48 แต้ม), อันดับ 5 เรอัล เบติส (46 แต้ม), อันดับ 6 เรอัล โซเซียดัด (44 แต้ม) และอันดับ 7 บียาร์เรอัล (42 แต้ม) จะเห็นได้ว่าอันดับ 4 กับอันดับ 7 ห่างกันแค่ 6 แต้มเท่านั้น

3 ทีมท้ายตาราง ลุ้นสุดตัวเพื่อหวังอยู่รอด
tกาดิซ, อลาเบส และ เลบันเต้ เป็นทีมที่อยู่ใน 3 อันดับสุดท้ายของตาราง พวกเขาอยู่ในโซนตกชั้นพร้อมกันมาตั้งแต่นัดที่ 18 ของฤดูกาล และมีการเปลี่ยนแปลงผู้จัดการทีมระหว่างซีซั่น เพื่อกอบกู้ผลงานที่ย่ำแย่
ถึงแม้ว่าทั้ง 3 สโมสรดังกล่าว จะยังไม่สามารถหลุดพ้นจากโซนตกชั้นในเวลานี้ได้ แต่ในระยะหลังพวกเขาพัฒนาฟอร์มการเล่นได้ดีขึ้นเรื่อยๆ และเริ่มที่จะเก็บคะแนนได้มากขึ้น เพิ่มโอกาสในการอยู่รอดต่อไป โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เลบันเต้ ทีมที่อยู่อันดับสุดท้ายในขณะนี้ ชนะได้ถึง 3 จาก 8 นัดหลังสุด ทำคะแนนไล่ตามหลังโซนปลอดภัยเหลือ 7 แต้ม ถือว่ายังพอมีความหวังสำหรับการลุ้นหนีตายในช่วงที่เหลือของซีซั่น

“เบนเซม่า” ลุ้นคว้ารางวัล “ปิชิชี่” สมัยแรก
mรางวัลผู้ทำประตูสูงสุดของลาลีกา มีชื่อเรียกว่า “ปิชิชี่ โทรฟี่” มีที่มาจากชื่อของ ราฟาเอล ปิชิชี่ โมเรโน่ อดีตกองหน้าของ แอธเลติก บิลเบา โดยเริ่มมีการมอบรางวัลนี้ตั้งแต่ฤดูกาล 1952/53 เป็นต้นมา หลังผ่านไป 27 นัด ผู้นำดาวซัลโวล่าสุดคือ คาริม เบนเซม่า ดาวยิงชาวฝรั่งเศสของ เรอัล มาดริด ด้วยผลงาน 20 ประตู ทิ้งห่างอันดับ 2 อยู่ 7 ประตู โดยเจ้าตัวหวังคว้ารางวัลปิชิชี่ โทรฟี่ เป็นสมัยแรกให้ได้ สำหรับดาวซัลโวอันดับ 2 มีร่วมกันถึง 4 คน ทำได้ 13 ประตูเท่ากัน ประกอบด้วย ยูเนส อูนาล (เกตาเฟ่), ราอูล เดอ โทมัส (เอสปันญ่อล), วินิซิอุส จูเนียร์ (เรอัล มาดริด) และ ยาโก้ อัสปาส (เซลต้า บีโก้)

“อาร์ดีที” ยังนำดาวซัลโวเลือดกระทิงดุ
gรางวัล “ซาร์ร่า โทรฟี่” เป็นรางวัลที่มอบให้กับนักฟุตบอลสัญชาติสเปนที่ทำประตูสูงสุดในลาลีกา มีที่มาจากชื่อของ เทลโม ซาร์ร่า อดีตนักเตะ แอธเลติก บิลเบา ที่เคยเป็นเจ้าของสถิติดาวซัลโวตลอดกาลของลีกสูงสุดแดนกระทิงดุ ซึ่งผู้ที่นำเป็นอันดับ 1 ในเวลานี้คือ ราอูล เดอ โทมัส ดาวยิงเลือดมาดริดของ เอสปันญ่อล กับผลงาน 13 ประตู จาก 25 นัด ถึงแม้การลุ้นรางวัลปิชิชี่ โทรฟี่ จะค่อนข้างยาก แต่ก็ยังมีสิทธิ์ลุ้นรางวัล “ซาร์ร่า โทรฟี่” ได้ ขณะที่คนอื่นๆ ประกอบด้วย ยาโก้ อัสปาส ที่เคยคว้ารางวัลนี้ 3 สมัยติดต่อกันกับ เซลต้า บีโก้ ทำได้ 13 ประตู เท่ากับ อาร์ดีที รวมไปถึง ฆวนมี ของ เรอัล เบติส และ โฆเซลู ของ อลาเบส ที่ทำได้ 12 ประตูเท่ากัน

ศึกชิงนายทวารยอดเยี่ยมประจำซีซั่น
dรางวัลผู้รักษาประตูยอดเยี่ยมของลาลีกา มีชื่อเรียกว่า “ซาโมร่า โทรฟี่” มีที่มาจากชื่อของ ริคาร์โด้ ซาโมร่า อดีตผู้รักษาประตูที่ได้รับการยกย่องว่าดีที่สุดตลอดกาลของวงการฟุตบอลสเปน รางวัลนี้จะพิจารณาจากผลงานของนายทวารที่มีอัตราส่วนการเสียประตูน้อยที่สุดตลอดฤดูกาล โดยหลังผ่านไป 27 นัด ผู้ที่ทำสถิติดีที่สุด 2 อันดับแรก คือ บูนู ของ เซบีย่า และ ติโบต์ กูร์กตัวส์ ของ เรอัล มาดริด โดย บูนู เสีย 12 ประตู คลีนชีต 12 เกม จากการลงสนาม 22 นัด คิดเป็นค่าเฉลี่ย 0.55 ประตูต่อนัด ส่วน กูร์กตัวส์ เสีย 21 ประตู คลีนชีต 11 เกม จากการลงสนาม 27 นัด คิดเป็นค่าเฉลี่ย 0.78 ประตูต่อนัด