คริสเตียโน โรนัลโด คงกำลังฉลองร่วมกับเพื่อนร่วมสโมสรและเพื่อนร่วมทีมชาติ บรูโน แฟร์นันเดส และ ดิโอโก ดาโลต์ หลังจากที่ โปรตุเกส คว้าตั๋วไปเล่นทัวร์นาเม้นต์ ฟุตบอลโลก 2022 ที่ กาตาร์ ได้สำเร็จ
โดยหลังจากเอาชนะ ตุรกี 3-1 ในรอบรองชนะเลิศเพลย์ออฟเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว จาก 2 ประตูของ บรูโน ก็ช่วยการันตีชัยเหนือ มาซิโดเนียเหนือ ทีมที่พิชิต อิตาลี และเข้ารอบไปในฐานะ 1 ใน 32 ทีมสุดท้าย
ในขณะที่ ดาโลต์ มีลุ้นจะได้ลงเตะในฟุตบอลโลกครั้งแรกของตัวเอง และ แฟร์นันเดส ที่ได้ออกสตาร์ทไปเพียงเกมเดียวในครั้งก่อน มารอบนี้ก็น่าจะได้มีบทบาทมากขึ้น ในขณะที่สตาร์วัย 37 ปี กลับมีเป้าหมายที่ยิ่งใหญ่กว่านั้น
โรนัลโด มีส่วนร่วมกับ ฟุตบอลโลก ครั้งแรกในปี 2006 เคียงข้างแข้งรุ่นพี่อย่าง หลุยส์ ฟิโก้, เดโก้ และ ริคาร์โด คาร์วัลโญ ก่อนจะโดน ฝรั่งเศส เขี่ยตกรอบรองชนะเลิศ
โดยในทัวร์นาเมนต์แรกของเขา อดีตแข้ง สปอร์ติง ลิสบอน ทำไป 1 ประตูจากลูกโทษกับ อิหร่าน ก่อนที่จะมีชื่อทำประตูในฟุตบอลโลกทุกสมัยหลังจากนั้น ทาบสถิติของ มิโรสลาฟ โคลเซ, เปเล่ และ อูเว่ ซีเลอร์ ในการมีชื่อทำประตูในฟุตบอลโลกถึง 4 หนด้วยกัน
แน่นอนว่าทั้ง 3 คนนั้นเลิกเล่นกันไปนานแล้ว ส่วน CR7 ยังคงเล่นอยู่ ซึ่งหมายความว่าเขามีโอกาสสร้างประวัติศาสตร์กลายเป็นผู้เล่นคนแรกที่ยิงประตูในทัวร์นาเมนต์นี้ถึง 5 ครั้งด้วยกัน
อย่างไรก็ตาม จำนวนประตูรวม 7 ประตูของเขา อาจจะตามหลังดาวซัลโวตลอดกาลฟุตบอลโลกของ โคลเซ ที่ 16 ลูกอยู่มากโข แต่ในตอนนี้ที่ โรนัลโด ได้กลายมาเป็นศูนย์หน้าอย่างเต็มตัวแล้ว ใครจะไปรู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นได้บ้าง
