ลิเวอร์พูล เพิ่งประสบกับความพ่ายแพ้เป็นเกมที่ 2 ในการอุ่นเครื่องก่อนเปิดฤดูกาลพรีเมียร์ลีก ต่อ เรด บูลล์ ซัลซ์บวร์ก เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา และเป็นอีกนัดที่ ดาร์วิน นูเญซ หัวหอกเจ้าของค่าตัว 85 ล้านปอนด์ไม่สามารถยิงประตูคู่แข่งได้
นั่นอาจจะเป็นเพราะว่าในครึ่งแรกที่เขาได้ออกสตาร์ทเป็นตัวจริงนั้นรายล้อมไปด้วยแข้งดาวรุ่งและตัวสำรอง โดยดาวเตะชาวอุรุกวัยประจำการในตำแหน่งหน้าเป้า ในขณะที่ขนาบด้วย 2 คู่หูอดีตเด็กปั้น ฟูแลม อย่าง ฮาร์วีย์ เอลเลียตต์ และ ฟาบิโอ คาร์วัลโญ
จริงๆแล้ว นูเญซ ก็เกือบจะทำประตูได้เหมือนกันโดยมีโอกาสเหน่งๆอยู่ 2 จังหวะและยิงชนคานไป 1 ครั้ง ซึ่งแม้ว่าเกมนี้ท้ายที่สุดเจ้าตัวจะไร้สกอร์ แต่ก็ทำให้เราเห็นว่าเขามีการเคลื่อนที่และการยืนตำแหน่งในกรอบเขตโทษที่ยอดเยี่ยมมากๆด้วย
แม้ว่าการจับบอลอาจจะยังไม่เนียนตาเหมือนเกมกับ อาร์เบ ไลป์ซิก แต่ก็อย่าลืมว่านี่เป็นเพียงช่วงพรีซีซั่นซึ่งจะไปมองหาความเพอร์เฟ็คต์จากนักเตะก็คงยังเป็นไปได้ยาก โดยเฉพาะเรื่องของสภาพร่างกายที่ยังต้องฟิตให้มากกว่านี้ก่อนจะถึงช่วงเปิดฤดูกาล
ของแบบนี้เป็นเรื่องปกติในการเตรียมทีมช่วงปิดฤดูกาล ไม่มีนักเตะคนใดที่จะสามารถเรียกความฟิตกลับมาได้จากการลงซ้อมในระยะเวลาไม่ถึงเดือน แต่ นูเญซ ก็ถูกตีตราว่าเป็นความล้มเหลวในตลาดซื้อขายของ เยอร์เกน คล็อปป์ และ ลิเวอร์พูล ไปแล้วเมื่อยามที่เขาไร้ซึ่งประตู
มีเรื่องที่น่าเสียดายอย่างหนึ่งในเกมนี้ หลายคนมองว่าแข้งวัย 23 ปีควรจะได้ลงเล่นพร้อมกับทีมชุดใหญ่ที่ถูกส่งลงสนามในช่วงครึ่งชั่วโมงสุดท้าย เพราะเมื่อดูจากรูปเกมแล้ว พวกเขาสามารถสร้างสรรค์โอกาสได้อย่างมากมายและเฉียดไปเฉียดมาอยู่หลายครั้ง ขาดแค่ตัวจบสกอร์คมๆเท่านั้น
คล็อปป์ ก็รู้เรื่องนี้ดี เพราะเขาได้ออกมาให้สัมภาษณ์หลังจบเกมว่า หาก นูเญซ ได้ลงเล่นร่วมกับ โม ซาลาห์ และ หลุยส์ ดิอาซ บ่อยๆ ก็จะทำให้ฝีเท้าของเขาเข้าที่เข้าทางขึ้น และทำให้ทีมอันตรายมากขึ้นด้วย
“เราเตรียมนักเตะเอาไว้และทุกอย่างก็เป็นไปด้วยดี พวกเขาน่าจะทำได้ดีกว่านี้และมีจังหวะสวยๆหลายครั้ง โดยเฉพาะในครึ่งแรก นักเตะส่วนใหญ่ยังต้องทำความคุ้นเคยกับวิธีการเล่นของเราอยู่”
“ดาร์วิน นั้นถูกทิ้งให้โดดเดี่ยวเกินไป ทุกคนลงมาช่วยเกม ทุกคนมีส่วนร่วมกับเกมแต่ส่วนใหญ่เน้นไปทางริมเส้นมากเกินไปและเราควรจะผ่านบอลให้กับ ดาร์วิน ในกรอบเขตโทษให้มากกว่านี้ เขามีจังหวะอยู่เหมือนกันและก็เกือบจะทำประตูได้ แต่เขาก็จำเป็นจะต้องมีเพื่อนๆช่วยสนับสนุนเขาด้วย”
“คุณทำให้นักเตะคนอื่นๆมัวแต่ยุ่งอยู่ ซึ่งพวกเขาไม่สามารถไปโฟกัสที่ นูเญซ ได้ มีอะไรหลายอย่างในครึ่งหลัง ลองจินตนาการดูว่าหากมี ดาร์วิน ในกรอบเขตโทษ มันจะช่วยเราได้มากทีเดียว”
คล็อปป์ กำลังบอกว่ารูปเกมที่เกิดขึ้นในช่วงครึ่งชั่วโมงสุดท้ายคือ ลิเวอร์พูล ขึงเจ้าบ้านและบุกกระหน่ำเพื่อเอาประตูตีเสมอ แต่พวกเขาไม่มีตัวจบสกอร์ในกรอบ 6 หลาหรือคนที่คอยเข้าฮอร์สทำประตูเลย
โรแบร์โต ฟีร์มีโน ที่ได้ลงร่วมกับทัพตัวจริงมีประโยชน์มากที่สุดในการอยู่นอกกรอบเขตโทษ เจ้าตัวก็พอจะมีโอกาสในการทำประตูบ้าง แต่ก็ไม่สามารถเปลี่ยนเป็นสกอร์ได้ ซึ่งมันไม่ใช่จุดแข็งของเขา ต่างจาก นูเญซ ที่ถนัดการยิงทั้งเท้าซ้ายและขวา
ส่วน ซาลาห์ และ ดิอาซ นั้นก็มักจะลากตัดเข้ามายิงประตูตามที่ถนัด แต่ก็หวังผลอะไรไม่ได้อยู่ดี ซึ่งถ้ามีแข้งอุรุกวัยไปยืนในกรอบเขตโทษจะทำให้มิติของเกมรุกเปลี่ยนไปและอาจจะอันตรายขึ้นกว่าเดิม
แม้แฟนบอลบางส่วนอาจไม่ปลื้มกับความพ่ายแพ้ในคืนวันพุธที่ผ่านมา แต่เราก็ได้เห็นสัญญาณบางอย่างที่น่าพอใจ ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บหนัก ทุกคนดูกระหายกับการลงสนาม รูปเกมยังคงไว้ใจได้ ดุดันตามสไตล์เกเกนเพรสซิง ขาดแค่ประตูเท่านั้น
เกม คอมมูนิตี ชิลด์ ในการเจอกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ วันเสาร์นี้จะเป็นอีกหนึ่งบททดสอบ เราอาจจะได้เห็น คล็อปป์ ทดลองทีมเป็นครั้งสุดท้าย ซึ่งมีโอกาสที่ ดาร์วิน นูเญซ จะได้ออกสตาร์ทเป็นตัวจริงและเป็นตัวสำรอง
แต่หลังจากนี้ ในเกมเปิดฤดูกาลกับ ฟูแลม นั่นคือของจริงที่กองหน้าวัย 23 ปีจะได้ลงสนามเคียงข้างบรรดาแข้งตัวหลัก และเราก็จะได้เห็นศักยภาพที่แท้จริงของ ลิเวอร์พูล กันเสียที