ในที่สุดสถานการณ์ความวุ่นวายระหว่าง อันโตนิโอ คอนเต โค้ชชาวอิตาเลียน กับ ท็อตแนม ฮ็อตสเปอร์ สโมสรดังในศึกพรีเมียร์ลีก ก็สิ้นสุดลงเมื่อวันที่ 26 มีนาคมที่ผ่านมา หลังจากร่วมงานกันมา 16 เดือน ซึ่งมันเป็นการแยกทางกันที่จบไม่สวยของทั้งสองฝ่าย
นับตั้งแต่เข้ามากุมบังเหียน สเปอร์ส เมื่อเดือนพฤศจิกยนปี 2021 คอนเต พาพลพรรค “ไก่เดือยทอง” ไปเล่นในศึกยูฟา แชมเปียนส์ ลีก ได้สำเร็จ แต่น่าเสียดายที่โค้ชวัย 53 ปี อำลาสโมสรไปแบบไม่มีถ้วยรางวัลเลยแม้แต่รายการเดียว
ในวันแรกที่เข้ามารับงานต่อจาก นูโน เอสปิริโต ซานโต อดีตเทรนเนอร์ชาวโปรตุเกส คอนเต ประกาศว่า เขามีความสุขอย่างมากที่ได้กลับมาเป็นโค้ชให้กับสโมสรในพรีเมียร์ลีกที่มีความทะเยอทะยานที่จะประสบความสำเร็จอย่าง สเปอร์ส
หลังจากเซ็นสัญญากันเป็นเวลา 18 เดือน สเปอร์ส ในยุคของ คอนเต เริ่มต้นด้วยชัยชนะเหนือ วิเทสส์ อาร์เนม 3-2 ในศึกยูฟา ยูโรปา คอนเฟอเรนซ์ ลีก ก่อนจะบุกไปเสมอแบบไร้สกอร์กับ เอฟเวอร์ตัน และมาพบกับชัยชนะในพรีเมียร์ลีกเกมแรกกับ ลีดส์ ยูไนเต็ด
อย่างไรก็ตาม สเปอร์ส กลับเจอกับความพ่ายแพ้อย่างน่าอับอายต่อในฟุตบอลยุโรปให้กับ มูรา ทีมรองบ่อนจากลีกสโลวีเนีย ซึ่งหลังจบเกม คอนเต กล่าวว่า ทีมของเขายังมีช่องว่างกับบรรดาสโมสรชั้นนำพอสมควร และเขาก็ไม่ใช่นักมายากลที่จะเสกทุกอย่างได้ทันที
การให้สัมภาษณ์ของ คอนเต ดูเหมือนจะทำให้ สเปอร์ส มีฟอร์มการเล่นที่ดีขึ้นหลังจากไม่แพ้ใครเลยตลอดทั้งปี จนกระทั่งการไปเยือน เชลซี ที่สแตมฟอร์ด บริดจ์ ในศึกคาราบาว คัพ รอบรองชนะเลิศ เลกแรก และพ่ายไปด้วยสกอร์ 0-2
คอนเต ยังกล่าวในแนวทางเดิมโดยบอกว่า สเปอร์ส เป็นทีมกลางตารางที่มีมีประสิทธิภาพ ขอให้ทุกคนอดทน และให้เวลากับเขาในการสร้างพลพรรค “ไก่เดือยทอง” เดินหน้ากลับมาสู่เส้นทางที่ถูกต้องอีกครั้ง
ประธานสโมสร ดาเนียล เลวี ทำในสิ่งที่ คอนเต ต้องการคือ มอบเงินก้อนโตในการเสริมทัพ และให้เวลาในการสร้างทีม โดยในซัมเมอร์ที่ผ่านมา สเปอร์ส ทุ่มเงินไปกว่า 150 ล้านปอนด์ ด้วยการคว้า ริชาร์ลิซอน, อีฟส์ บิสซูมา, อีวาน เปริซิช, ดีเจด สเปนซ์, เคลมองต์ ล็องเลต์ และ เฟรเซอร์ ฟอร์สเตอร์ เข้ามาร่วมทีม
สเปอร์ส เริ่มต้นฤดูกาลใหม่ยอดเยี่ยมด้วยการชนะ เซาธ์แฮมป์ตัน 4-1 และบุกไปเสมอกับ เชลซี 2-2 ซึ่งเกมดังกล่าวมีประเด็นที่ คอนเต ไม่ยอมจับมือกับ โธมัส ทูเคิล อดีตเทรนเนอร์ชาวเยอรมันของ “สิงโตน้ำเงินคราม”
หลังจากนั้น สเปอร์ส พ่ายต่อ สปอร์ติง ลิสบอน ในศึกยูฟา แชมเปียนส์ ลีก และตามมาด้วยการแพ้อาร์เซนอล 1-3 ขณะที่ คอนเต ปฏิเสธที่จะพูดถึงอนาคตของตัวเองในทัพ “ไก่เดือยทอง” ท่ามกลางกระแสข่าวมากมาย
นอกจากนี้ ช่วงต้นปีที่ผ่านมา โค้ชชาวชาวอิตาลีต้องเจอวิกฤตมากายกับการสูญเสียเพื่อนสนิท 3 คนอย่าง จาน ปิเอโร เวนโทรเน, ซินิซา มิไฮโลวิช และ จานลูกา วิอัลลี ภายในระยะเวลาเพียงไม่กี่เดือน และตัวเองยังต้องเข้ารับการผ่าตัดถุงน้ำดีอีกด้วย
หลังผ่านตัดเสร็จ คอนเต กลับมาคุมทีมได้ แต่ก็เจอกับความพ่ายแพ้ทันทีหลังโดน เลสเตอร์ ซิตี้ ถล่ม 1-4 ต่อด้วยการพ่ายในศึกยูฟา แชมเปียนส์ ลีก รอบ 16 ทีมสุดท้าย เลกแรก ให้กับ เอซี มิลาน 0-1 ซึ่ง สเปอร์ส เริ่มมีฟอร์มการเล่นที่ย่ำแย่มากขึ้น
หนึ่งสัปดาห์ต่อมา อนาคตของ คอนเต กลับมาเป็นที่พูดถึงอีกครั้ง หลังจากพา สเปอร์ส ทำได้แค่เสมอกับ มิลาน 0-0 ในยูฟา แชมเปียนส์ ลีก รอบ 16 ทีมสุดท้าย เลกสอง ซึ่ง “ไก่เดือยทอง” ตกรอบ และเขาก็ให้สัมภาษณ์ว่า อาจโดนไล่ออกก่อนจบฤดูกาล
อย่างไรก็ตาม ฟางเส้นสุดท้ายเกิดขึ้นในเกมที่ สเปอร์ส บุกไปเสมอกับ เซาธ์แฮมป์ตัน 3-3 ซึ่ง คอนเต ออกมาให้สัมภาษณ์วิจารณ์ลูกทีมอย่างหนักหน่วงว่า “เห็นแก่ตัว” และ “เล่นเพื่อตัวเอง” รวมถึงตั้งคำถามถึงความทะเยอะทะยานของสโมสรด้วย
คำสัมภาษณ์ของ คอนเต มันทำให้ความคิดแฟนบอล สเปอร์ส แตกเป็น 2 ฝ่าย โดยบางคนยืนยันว่า นายใหญ่ชาวอิตาลีแค่พูดความจริง แต่บางส่วนมองว่า พูดเพื่อปกป้องตัวเอง ซึ่งเวลาเท่านั้นที่จะพิสูจน์ได้ว่าใครพูดความจริงกันแน่?