นักฟุตบอลอาชีพจำนวนไม่น้อยเลือกใช้คนในครอบครัวของตนเองทำหน้าที่เป็นตัวแทนในการเจรจา ดูแลผลประโยชน์ต่างๆนอกสนาม โดย อาเดรียน ราบิโอต์ เป็นหนึ่งในแข้งอาชีพที่มี เวโรนิเก้ ราบิโอต์ คุณแม่ของตนเองทำหน้าที่ดังกล่าว
แต่สิ่งที่ทำให้เธอพิเศษต่างจากเอเยนต์นักฟุตบอลรายอื่นคือ ความพร้อมที่จะเปิดศึก ท้าชนใครก็ตามที่เป็นอุปสรรคขวางหน้าเธอและลูกชาย เพื่อให้ อาเดรียน ได้รับผลประโยชน์สูงสุดในทุกโต๊ะเจรจา กระทั่งเหวี่ยงใส่ครอบครัวของนักเตะบิ๊กเนมเมื่อเหล่าลูกชายของพวกเขาทำผลงานไม่เอาอ่าวก็ถูกจารึกในสมุดบันทึกวีรกรรมของเธอมาแล้ว
90min จึงพาผู้อ่านไล่เรียงความเป็นมาและทำความรู้จักกับ เวโรนิเก้ ราบิโอต์ ให้ดียิ่งขึ้น
เวโรนิเก้ ราบิโอต์ คือใคร?
เวโรนิเก้ ราบิโอต์ คือคุณแม่ของ อาเดรียน ราบิโอต์ กองกลางชื่อดังชาวฝรั่งเศส เธอทำหน้าที่เป็นเอเยนต์ให้กับลูกชายของเธอนับตั้งแต่ที่เขายังเป็นแข้งเยาวชนของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ และเริ่มสร้างชื่อกับทีมเยาวชนของทัพเลส์ เบลอส์
หนึ่งในวีกรรมแรกๆของ เวโรนิเก้ ตามการให้สัมภาษณ์ของ อาเดรียน เกิดขึ้นเมื่อครั้งที่พวกเขาอยู่ในอังกฤษกับทัพเรือใบสีฟ้า “ให้หลังเพียง 6 เดือน (กับ แมนฯ ซิตี้) สโมสรไม่ได้เคารพในข้อตกลงบางประการ คุณแม่ของผมจึงบอกให้หยุด และเราก็กลับบ้านกันทันที”
เส้นทางของ ราบิโอต์ กับทัพซิตีเซนส์หยุดลงเพียงแค่ในอคาเดมีหลังระยะเวลา 6 เดือน ก่อนที่เจ้าตัวจะใช้เวลา 2 ปีกับอคาเดมีของ เปา เอฟซี และ โปล เอสปัวร์ส ในบ้านเกิด ตามด้วยการจรดปากกากลายเป็นนักเตะเยาวชนของปารีส แซงต์-แชร์กแมง ในเวลาต่อมา
โดมินิเก้ เซเวราช ผู้สื่อข่าว เลอ ปารีเซียง เคยกล่าวถึงเธอว่า “เวโรนิเก้ มีส่วนเกี่ยวข้อกับทุกการตัดสินใจของเขา กระทั่งเป็นคนเริ่มต้นกระบวนการชี้นำ เธอถ่ายทอดความเป็นตัวเองลงไปในตัว อาเดรียน จนแทบจะกลายเป็นคนเดียวกันกับเขา”
สร้างชื่อมาตั้งแต่กับ เปแอสเช
เมื่อ อาเดรียน กลายเป็นสมาชิกของ เปแอสเช เจ้าตัวในฐานะนักเตะเยาวชนมีชื่อถูกหนีบไปมีส่วนร่วมแคมป์เก็บตัวที่กาตาร์ในปี 2015 แต่ท้ายที่สุดก็ต้องถูกตัดชื่อออกจากทีม เมื่อต้นสังกัดปฎิเสธที่จะให้คุณแม่ของเขาเดินทางร่วมไปกับลูกชายเพื่อดูแลเจ้าตัวในทริปดังกล่าว
โดยก่อนที่เขาจะกลายเป็นแข้งขาประจำในทีมชุดใหญ่ของ เปแอสเช เจ้าตัวถูกส่งให้ ตูลูส ยืมตัวไปใช้งานเพื่อเก็บประสบการณ์ อแล็ง คาซาโนวา กุนซือของ ตูลูส ในขณะนั้นได้เผยว่า เขาได้ปฎิเสธคำขอของ เวโรนิเก้ ที่ต้องการเขาชมการฝึกซ้อมของทีมชุดใหญ่ในทุกๆเซสชัน
เมื่อ อาเดรียน กลายเป็นสมาชิกในทีมชุดใหญ่ของ เปแอสเช ในเวลาถัดมา คุณแม่ เวโรนิเก้ สร้างวีรกรรมมีปากเสียงกับ โลร็องต์ บล็องก์ กุนซือของทีมในขณะนั้น เมื่อเธอโกรธหลังเข้าใจไปเองว่าลูกชายของเธอถูกลดขั้นลงมาฝึกซ้อมกับทีมสำรองในภายหลัง จนทำให้พนักงานรักษาความปลอดภัยต้องกันตัวเธอออกจาก บล็องก์ โดยรายงานระบุว่าเธอรอกุนซือ เปแอสเช ที่ลานจอดรถหลังเหตุการณ์นั้นเพื่อแสดงความไม่พอใจ
ที่ตราตรึงคือสถานการณ์บานปลายจนส่อเค้าแตกหักช่วงปลายเส้นทางค้าแข้งของ อาเดรียน กับ เปแอสเช ก่อนที่สัญญาผูกมัดระหว่างเขากับสโมสรจะสิ้นสุดในปี 2019 โดยเดือนมกราคมปีนั้น เจ้าตัวถูกบีบลงไปมีชื่อกับทีมชุดสำรองหลังถูกปฎิเสธสัญญาฉบับใหม่ที่ขอค่าเหนื่อยเพิ่มขึ้นจากเดิม เวโรนิเก้ ออกมาให้สัมภาษณ์ระบุว่า “ลูกชายของฉันกลายเป็นตัวประกันของสโมสร เขาจะกลายเป็นนักโทษที่มีชีวิตอยู่ด้วยเพียงขนมปังและน้ำเปล่า”
รายงานระบุว่าเธอมีส่วนร่วมในการหารือกับ โรมา ร่วมกับ รูดี การ์เซีย ผู้จัดการทีม และ วอลเตอร์ ซาบาตินี ไปจนถึงบอร์ดบริหารของ ท็อตแนม ฮ็อตสเปอร์ และ บาร์เซโลนา เมื่อลูกชายของเธอกลายเป็นแข้งฟรีเอเยนต์ แต่ข้อเรียกร้องในค่าเหนื่อยที่สูงเกินไปของ เวโรนิเก้ ก็ทำให้ดีลกับทั้ง 3 สโมสรล่มลงไป ก่อนที่จะกลายเป็น ยูเวนตุส ที่เป็นต้นสังกัดปัจจุบันของ อาเดรียน ที่ได้ลายเซ็นไปในที่สุด
ฟาดปากครอบครัว ป็อกบา, เอ็มบัปเป้ ในเกมทีมชาติ
ในศึกยูโร 2020 เกมที่ ฝรั่งเศส เสมอกับ สวิตเซอร์แลนด์ 3-3 โดยหนึ่งในจังหวะตัดสินเกมคือการพลาดลูกจุดโทษของ คิลิยัน เอ็มบัปเป้ ทำให้ทัพตราไก่ร่วงตกรอบ 16 ทีมสุดท้ายไปแบบพลิกล็อค กล้องถ่ายทอดสดจับภาพได้ว่า เวโรนิเก้ ที่อยู่บนอัฒจันทร์เข้าไปต่อว่า วิลฟรีด ผู้เป็นพ่อของ คิลิยัน เอ็มบัปเป้ กล่าวว่า “มันน่าขายหน้าที่เขายิงแบบนั้น สำหรับนักเตะระดับนี้ เขา (คิลิยัน) ยิงเบาไป ฉันหวังว่านายจะสั่งสอนลูกชายด้วยนะ”
ขณะที่รายงานจาก ดิ แอธเลติก เผยถึงเหตุการณ์อันมีที่มาจากแมตช์เดียวกันระบุว่า เวโรนิเก้ มีปากเสียงกับครอบครัวของ ปอล ป็อกบา เมื่อเธอเชื่อว่าสตาร์ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในเวลาดังกล่าวผิดพลาดเต็มประตูทำให้ทีมเสียประตูที่ 3 ให้กับ สวิตเซอร์แลนด์
“แม่ของ ราบิโอต์ ขึ้นชื่อในเรื่องความอ่อนไหวและสนิทสนมกับลูกชายของเธอเป็นอย่างยิ่ง เธอไม่พอใจนักที่ได้ยินเพื่อนของ ป็อกบา กล่าวตำหนิลูกชายของเธอในจังหวะเสียบอล ดังนั้น เธอก็เลยโทษ ป็อกบา ที่ทำเสียบอลในแดนกลาง (จังหวะซึ่งนำไปสู่ประตูที่ 3 ของ สวิตเซอร์แลนด์) จากนั้นก็ปรี่ไปหาพ่อของ เอ็มบัปเป้ พร้อมกับพูดว่า ‘นายควรจะดูแลลูกชายของนายให้ดี เพราะความทะนงตนของเขาและถูกสื่อโอ๋ตลอดเวลา ฉันคิดว่าเขาเกรี้ยวกราวดเกินไปหน่อย’ มันค่อนข้างเละเทะเลยทีเดียวและเธอขึ้นชื่อในเรื่องนั้นกับ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง และ ยูเวนตุส”