sportpooltoday

ยืดเยื้อมานาน 13 ปี! ศาลสั่งปิดคดี “โรนัลโด้” พ้นมลทินฉาวข่มขืน “หญิงชาวมะกัน” (ภาพ)


ยืดเยื้อมานาน 13 ปี! ศาลสั่งปิดคดี "โรนัลโด้" พ้นมลทินฉาวข่มขืน "หญิงชาวมะกัน" (ภาพ)

คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ดาวเตะตัวเก่งของ “ปีศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สโมสรดังในศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ พ้นข้อกล่าวหาในคดีข่มขืนที่ยืดเยื้อมาอย่างยาวนาน หลังตกเป็นผู้ต้องหาข่มขืน คาธรีน มายอร์ก้า หญิงสาวรายหนึ่งที่ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อปี 2009

โดยเหตุการณ์เกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อปี 2009 ซึ่งตอนนั้น แข้งดังที่มีอายุเพียง 24 ปี ได้เดินทางไปเที่ยวพักผ่อนในลาส เวกัส กับพี่เขย และลูกพี่ลูกน้องของเขา ก่อนที่จะไปพบกับ คาธรีน มายอร์ก้า ที่ทำงานในไนท์คลับ ปาล์ม คาสิโน รีสอร์ท แล้วไปต่อกันที่ห้องส่วนตัวซึ่ง มายอร์ก้า อ้างว่าดาวเตะคนดังบังคับขืนใจเธอทั้งที่เธอไม่สมยอม

rommmmmd33
อย่างไรก็ตามตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ได้ออกมาปฏิเสธข้อกล่าวหามาโดยตลอด แถมในปี 2010 ทั้งสองฝ่ายเคยหาข้อยุติร่วมกันนอกศาลได้แล้ว จากการที่ โรนัลโด้ ยอมจ่ายเงินให้เธอ 375,000 ปอนด์ (ประมาณ 17.25 ล้านบาท) เพื่อให้เรื่องจบ

แต่เมื่อปี 2018 มายอร์ก้า ก็ออกมาฟ้องร้อง กัปตันทีมชาติโปรตุเกส อีกครั้ง และขอให้มีการสอบสวนกันใหม่ โดยอ้างว่าตอนที่ยอมทำข้อตกลงนั้น มันเกิดขึ้นจากการที่เธอโดนอีกฝ่ายข่มขู่ ซึ่งหนนี้เธอออกมาเรียกร้องเงินมากถึง 54 ล้านปอนด์ (ประมาณ 2,484 ล้านบาท) แบ่งเป็นค่าความเจ็บปวดจากในอดีต, ค่าความเจ็บปวดที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต และค่าลงโทษอย่างละ 18 ล้านปอนด์ (ประมาณ 828 ล้านบาท)

ทำให้ล่าสุด เจนนิเฟอร์ ดอร์ซี่ย์ ผู้พิพากษาศาลกลางของสหรัฐฯ ได้พิพากษาให้คดีดังกล่าวเป็นอันยุติลงทันที เนื่องจากทางฝ่ายหญิงละเมิดข้อตกลงที่มีการเจรจาไกล่เกลี่ยกันนอกศาลไปแล้ว แต่เธอกลับยังนำเรื่องดังกล่าวมาเป็นคดีอีก และสร้างความเสื่อมเสียให้กับแข้งดัง

rommmmmd22
“เลสลี่ มาร์ค สโตวัลล์ ทนายของฝ่ายหญิงสร้างความเสื่อมเสียชื่อเสียงให้กับ โรนัลโด้ เขาใช้เอกสารที่ขโมยมาเพื่อยักยอกทรัพย์ให้กับฝ่ายโจทก์ ซึ่งฉันพบว่ามันเป็นการได้มาโดยไม่ชอบธรรม ด้วยเหตุนี้ศาลจึงขอออกคำสั่งให้ยุติคดีทันที”

ด้าน ปีเตอร์ คริสเตียนเซ่น ทนายของ โรนัลโด้ บอกว่ารู้สึกดีใจกับคำตัดสินที่ออกมา “เรารู้สึกยินดีเป็นอย่างมากที่ศาลพิจารณาประเด็นนี้อย่างละเอียดถี่ถ้วน และใช้กฎหมายอย่างถูกต้องจนนำไปสู่การยุติคดีในที่สุด”