เกมรอบชิงชนะเลิศ เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2020 นัดที่สอง ระหว่าง ไทย กับ อินโดนีเซีย กำลังจะลงเตะในค่ำคืนนี้ เวลา 19.30 น. อาจดูจืดกว่าที่ควร แม้ว่าจะเป็นรอบชิงฯ เพราะว่าเกมนัดแรกนักเตะของไทยซัดใส่ อินโดนีเซีย ไปแล้ว 4-0 ซึ่งเป็นเรื่องยากที่ผลจะกลับมาพลิกในเกมที่สอง
อย่างไรก็ดี เอริค ธอเฮียร์ รัฐมนตรีรัฐวิสาหกิจของอินโดนีเซีย ที่มีดีกรีเป็นอดีตเจ้าของสโมสร อินเตอร์ มิลาน ยักษ์ใหญ่แห่งวงการฟุตบอลอิตาลี ได้ออกมาให้คำแนะนำแก่นักเตะอินโดนีเซีย ที่จะลงเตะในคืนนี้ด้วยการให้ศึกษาเกม ยูฟา แชมเปียนส์ ลีก รอบรองชนะเลิศปี 2019 คู่ระหว่าง บาร์เซโลน่า กับ ลิเวอร์พูล
โดยในเกมคู่นั้น ลิเวอร์พูล เป็นฝ่ายบุกไปแพ้ บาร์เซโลน่า ในเกมแรก 0-3 ก่อนกลับมาเปิดบ้านชนะได้ในเกมที่สองด้วยสกอร์ 4-0 ทำให้ผ่านเข้ารอบอย่างปาฏิหาริย์ ก่อนเข้าไปคว้าแชมป์ได้สำเร็จในปีนั้น ซึ่ง ธอเฮียร์ กล่าวว่า นักเตะของอินโดนีเซียควรรักษาโมเมนตัมให้เหมือน ลิเวอร์พูล ในปี 2019 โดยเขาได้กล่าวกับ CNN อินโดนีเซีย ว่า
“ผมคิดว่าการแพ้ 0-4 ไม่ใช่จุดจบ เพราะเรายังมีอีกหนึ่งแมตช์ เราต้องศึกษาเกมที่ บาร์เซโลน่า เอาชนะ ลิเวอร์พูล 3-0 ในแชมเปียนส์ ลีก นัดแรก แต่ว่า ทีมจากอังกฤษพลิกสถานการณ์กลับมาชนะ 4-0 ในเกมที่สอง ก่อนผ่านเข้ารอบด้วยสกอร์รวม 4-3 แต่สุดท้ายนั่นคือฟุตบอล เราทุกคนไม่รู้ล่วงหน้า เราต้องมองโลกในแง่ดี”
นอกจากนี้ ธอเฮียร์ ยังกล่าวอีกว่าแฟนบอลชาวอินโดนีเซียควรชื่นชมนักเตะชุดนี้ที่อายุยังน้อยแต่เล่นได้เกินมาตราฐาน โดยเขาเชื่อมั่นว่าการสร้างทีมที่แข็งแกร่งเป็นกระบวนการที่ยาวนาน ซึ่งจะทำให้อินโดนีเซียดีขึ้นในอนาคต
“เป็นการดีที่ทีมนี้อายุน้อย ให้โอกาสพวกเขาใน 1-2 ปี อย่าตำหนิซึ่งกันและกันเพราะความล้มเหลวของเมื่อวาน ในวงการฟุตบอล การชนะและแพ้เป็นเรื่องปกติ มันสำคัญที่เราจะทำให้ทีมที่ดีอยู่แล้วดียิ่งขึ้นไปอีกเพื่อมุ่งไปสู่เป้าหมายของเรา”
สำหรับเกมรอบชิงชนะเลิศ เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2020 นัดที่สอง ระหว่าง ไทย กับ อินโดนีเซีย จะลงสนามคืนนี้ เวลา 19.30 น. ณ สนามกีฬาแห่งชาติสิงคโปร์
