ศึกฟุตบอลยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม เกมสุดท้ายของกลุ่ม D เรอัล มาดริด จ่าฝูงมี 12 แต้ม เปิดบ้านเจอ อินเตอร์ มิลาน อันดับ 2 มี 10 แต้ม สองทีมนี้เข้ารอบน็อคเอาต์ไปแล้ว แต่มาแข่งกันนัดสุดท้ายเพื่อหาผู้ชนะเข้ารอบในฐานะแชมป์กลุ่ม
เจ้าบ้าน มาดริด เกมนี้ไม่มี คาริม เบนเซมา ที่มีอาการบาดเจ็บ สามประสานแดนกลาง ลูก้า โมดริช, คาเซมิโร และ โทนี โครส แนวรุก โรดรีโก้, ลูก้า โยวิ และ วินิซิอุส จูเนียร์
ทางฝั่ง อินเตอร์ มิลาน จัดสามแนวรับ มิลาน สคริเนียร์, อเลสซานโดร บาสโตนี, ดานิโล ดิอัมโบรซิโอ คู่กองหน้า เอดิน เชโก้ ประสานงาน เลาตาโร มาร์ติเนซ
ผลปรากฎว่า เริ่มเกม 6 นาที อินเตอร์ เกือบนำ มาร์เซโล โบรโซวิช วิ่งมาซัดบอลนอกกรอบทางซ้ายแต่บอลย้อยข้ามคาน แต่แล้ว นาที 17 มาดริด กลับเป็นฝ่ายนำ โรดริโก้ จ่ายเรียดออกซ้ายให้ โทนี โครส ตั้งป้อมตะบันเข้าเสาไกล 1-0
อินเตอร์ อยากตีเสมอ นาที 34 ฮาคาน ชัลลาโนกลู จ่ายต่อเข้าทาง อิวาน เปริซิช หวดขวาเต็มข้อแต่บอลข้ามคาน ต่อมา นาที 44 มาดริด จะเอาลูกสอง โรดริโก้ วิ่งมาหวดทางซ้ายแต่โชคไม่ดีบอลชนเสาไกล จบครึ่งแรก เจ้าบ้านนำ 1 ลูก
ครึ่งหลัง นาที 52 ชุดขาว ยังไม่ได้ลูกสอง โทนี โครส เปิดเตะมุมเข้ากบาล คาเซมิโร่ โหม่งแต่บอลข้ามคาน ก่อนที่ นาที 63 อินเตอร์ เหลือ 10 คนจังหวะ นิโคโล บาเรลญ่า โดน คาเซมิโร่ เบียดกระแทกป้ายสนามแต่ดันไปต่อยขาเอาคืนจนโดนใบแดงไล่ออก
นาที 78 มาดริด บวกเพิ่มสำเร็จ มาร์โก อเซนซิโอ แต่งบอลเข้าซ้ายแล้วปั่นโค้งเด้งเสาเข้าแบบสวยงาม 2-0 และเป็นประตูส่งท้ายที่นำพา เรอัล มาดริด เก็บเพิ่มเป็น 15 แต้ม เข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายในฐานะแชมป์กลุ่ม ส่วน อินเตอร์ มิลาน เข้าเป็นที่ 2 มี 10 แต้ม
- ติดตามผลบอล ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ทุกคู่ที่นี่ https://www.sanook.com/sport/program/
- ดูตารางคะแนนพรีเมียร์ลีก ล่าสุด ได้ที่นี่ https://sport.sanook.com/football/table/premierleague/