นอกจากข่าวเรื่องการไล่ล่าตัว จูด เบลลิงแฮม และกองกลางรายอื่นๆในช่วงซัมเมอร์ของ ลิเวอร์พูล แล้ว อีกหนึ่งข่าวที่ผุดขึ้นมาชิงพื้นที่เล็กๆในสื่อโซเชียลก็คืออนาคตอันเป็นคำถามของ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ เจ้าของรางวัลดาวซัลโวพรีเมียร์ลีกเมื่อฤดูกาลที่แล้ว
ต้องยอมรับกันว่าปีนี้ นอกจากจะไม่ใช่ปีที่ดีของหงส์แดงแล้วยังถือเป็นปีที่เงียบเชียบของกองหน้าทีมชาติอียิปต์ด้วย หลังจากที่ลงเล่นในทุกรายการไป 37 นัด ยิงได้ 17 ประตูกับ 7 แอสซิสต์ ซึ่งมองเผินๆแล้วไม่น่าใช่สถิติที่น่าเกลียดอะไร แต่หากเทียบกับเมื่อฤดูกาลก่อนๆ ก็บอกได้เลยว่ามาตรฐานของแข้งวัย 30 ปีตกลงไปจากเดิมเป็นอย่างมาก
แม้ เยอร์เกน คล็อปป์ จะเพิ่งให้สัมภาษณ์เมื่อสัปดาห์ก่อน โดยเขาแสดงความมั่นใจว่า ซาลาห์ จะกลับมาทำลายสถิติต่างๆได้อีกครั้ง หลังจากที่ฟอร์มตกในช่วงหลัง โดยยิงไปเพียง 7 ประตูจากการลงเล่น 20 นัดในพรีเมียร์ลีก ซึ่งมันน้อยมากๆ เมื่อย้อนกลับไปดูจำนวนประตูที่เกิดขึ้นในนับตั้งแต่ย้ายมาจาก โรมา เมื่อปี 2017
หลายคนเชื่อว่าสาเหตุหนึ่งมาจากการได้รับสัญญาฉบับใหม่ที่ทำให้เขาได้ค่าเหนื่อยสูงสุดในประวัติศาสตร์ของสโมสรที่ 350,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์ คิดเป็น 18.2 ล้านปอนด์ต่อปี แม้ว่าเจ้าตัวจะอายุเข้าหลัก 30 ไปแล้วก็ตาม ซึ่งจริงๆแล้วก็ไม่รู้ว่าเป็นสาเหตุที่แท้จริงหรือไม่ เพราะดูเหมือนว่าในเวลานี้ฟอร์มของนักเตะ ลิเวอร์พูล แทบจะทั้งทีมก็ไม่ค่อยต่างกันเท่าไหร่นัก
หากแต่มาตรฐานที่กองหน้าหงส์แดงเคยทำเอาไว้นั้นมันกำลังย้อนกลับมาเล่นงานตัวเขาในซีซันนี้ พร้อมด้วยความคาดหวังจากเงินรายได้มหาศาล การยิงประตูอย่างกระจุ๋มกระจิ๋มแบบนี้จึงเป็นเรื่องที่แฟนบอลตั้งข้อสังเกต บางรายถึงกับรับไม่ได้
ดังนั้นจึงไม่แปลกที่ ซาลาห์ จะถูกวิจารณ์อย่างหนักและมีข่าวตามออกมาว่า ลิเวอร์พูล กำลังพิจารณาการปล่อยตัวออกจากทีมในช่วงซัมเมอร์เพื่อทำกำไรและนำเงินค่าตัวมาเป็นทุนในการสร้างทีมใหม่ให้กับ เยอร์เกน คล้อปป์ ต่อไป
โดยทีมที่ตกเป็นข่าวกับแข้งอียิปต์จะเป็นใครไปไม่ได้นอกจาก ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ที่มีศักยภาพทางการเงินมากที่สุด รวมทั้งความสำเร็จที่รออยู่ข้างหน้า และสายสัมพันธ์ระหว่างเจ้าของทีมกับแข้งหงส์แดง จึงเป็นเรื่องที่สมเหตุสมผลในการย้ายทีมในอนาคต โดยแหล่งข่าวในอังกฤษเชื่อว่าค่าตัวของเขาจะอยู่ที่ประมาณ 70 ล้านปอนด์ในตลาดซัมเมอร์ ซึ่งถ้าได้ราคานี้จริงๆ ก็ไม่มีเหตุผลใดที่ เดอะ เรด จะไม่ยอมขาย
ในขณะเดียวกัน ข่าวที่มาแรงควบคู่กันไปก็คือ การมองหาตัวแทนของ ซาลาห์ โดยสื่อเมืองผู้ดีโฟกัสไปที่ เฟเดริโก เคียซา ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของ เอนริโก เคียซา อดีตกองหน้าทีมชาติอิตาลี ซึ่งตอนนี้ค้าแข้งอยู่กับ ยูเวนตุส ในกัลโช เซเรีย อา ซึ่งเขาคือปีกขวาที่น่าจับตามองคนหนึ่งของยุโรปในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา และเป็นคีย์แมนคนสำคัญของทีมชาติอิตาลีชุดแชมป์ ยูโร 2020 โดยทำได้ 2 ประตูในทัวร์นาเมนต์ดังกล่าว
แนวโน้มของดีลนี้ดูจะมีความเป็นไปได้ในระดับหนึ่งเมื่อมองจากสถานการณ์ของทีมเจ้าม้าลาย โดนตัด 15 แต้ม ร่วงลงไปอยู่อันดับ 13 ของตารางกัลโชฯ และดูเหมือนว่าจะหมดลุ้นในการไปเล่นยูฟา แชมเปียนส์ ลีก ค่อนข้างจะแน่นอน นั่นจึงทำให้นักเตะหลายคนในทีมมีสิทธิ์ที่จะย้ายออกมา ซึ่ง เคียซา ก็เป็นหนึ่งในนั้นและเขาถูกจับโยงกับทีมจากเมอร์ซีย์ไซด์ รวมทั้ง อาร์เซนอล และ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่ให้ความสนใจอยู่เหมือนกัน
อย่างไรก็ตาม เมื่อดูจากผลงานในกัลโช เซเรีย อา ฤดูกาลนี้ ดูเหมือนว่าจะยังไม่เข้าที่เข้าทางมากนัก หลังจากที่เพิ่งกลับมาสู่ทีมเมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้วจากการได้รับบาดเจ็บเอ็นไขว้หน้าฉีกขาดก่อนหน้านั้นเมื่อเดือนมกราคม โดยปัจจุบันลงเล่นไปทั้งหมด 10 นัดและทำได้เพียง 1 ประตูกับ 2 แอสซิสต์ และยังทำประตูในลีกไม่ได้เลยแม้แต่ลูกเดียว
แม้จะเป็นเช่นนั้น แต่สื่อก็ยังเชื่อว่าเขายังมีศักยภาพที่สามารถเล่นในระดับสูงได้และเป็นนักเตะที่มีความสำคัญต่อ ยูเวนตุส ซึ่งหลายคนเชื่อว่าเขาจะสามารถก้าวเข้ามาแทนที่ ซาลาห์ ได้หากย้ายมาเล่นในถิ่นแอนฟิลด์ในฤดูกาลหน้า
ทั้งนี้ทั้งนั้น ทุกอย่างก็ต้องขึ้นกับฟอร์มของแข้งจากแดนมัมมีด้วยว่าในช่วง 18 เกมที่เหลือเขาจะกลับมายิงประตูได้เหมือนเดิมและสามารถช่วยทีมให้คว้าโควตาแชมเปียนส์ ลีก หลังจบฤดูกาลได้หรือไม่
ซึ่งหากทุกอย่างดีขึ้น ลิเวอร์พูล อาจจะไม่ต้องการปีกขวาคนใหม่อย่างที่เป็นข่าวก็ได้