หลังจากสาวเท้าออกจากถิ่นโมลินิวซ์เมื่อสองฤดูกาลก่อน ถึงเวลานี้ ฝีเท้าของ ดิโอโก้ โชต้า กำลังพัฒนาอย่างไม่หยุดยั้ง จนได้รับคำชมเชยมากมายว่าเป็นการซื้อที่คุ้มค่าสุดๆ ของ เยอร์เก้น คล็อปป์ ในรอบ 2-3 ปีที่ผ่านมาเลยทีเดียว
จะว่าไปแล้ว หลังการคว้า ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ปี 2019 ทัพ “หงส์แดง” มีการเปลี่ยนแปลงตัวจริงน้อยมาก ซึ่งนั่นอาจถูกนำไปตีความได้ทั้งทางบวกและทางลบ หลักๆแล้วคือการทดแทนตำแหน่งของ จีนี่ ไวจ์นัลดุม ที่จากไปของ ติอาโก้ อัลคันทาร่า เท่านั้น
ในช่วง 2-3 ซีซั่นล่าสุดแข้งที่ซื้อมาอย่าง เซ็ปป์ ฟาน เดนเบิร์ก, ทาคูมิ มินามิโนะ, คอสตาส ซิมิกาส, ฮาร์วี่ย์ เอลเลียตต์ หรือล่าสุด อิบราฮิม่า โคนาเต้ ยังเป็นการเสริมทัพในลักษณะเพื่อแสตนด์บายทีมชุดใหญ่เท่านั้น ยกเว้นในรายของกองหน้าโปรตุกีสผู้นี้ที่สามารถแทรกตัวเบียด 3 ประสาน ซาดิโอ มาเน่, โมฮาเหม็ด ซาลาห์ และ โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ หาที่ว่างลงในทีมตัวจริงได้อย่างเหลือเชื่อ
รอพิสูจน์อีกครั้งตอนที่ “บ็อบบี้” สมบูรณ์เต็มที่และ มาเน่, ซาลาห์ กลับมาจากแอฟริกัน คัพ ออฟ เนชั่นส์ ว่า โชต้า จะยังมีตำแหน่งใน 11 ตัวจริงหรือไม่ อันนี้เป็นเรื่องที่น่าจะทำให้กุนซือเยอรมันปวดหัวหนัก
แม้ตัวเขาจะมีลีลาการเล่นที่แตกต่างจาก ฟีร์มีโน่ ที่เป็นนักบอลลีลาพรสวรรค์ไอเดียสูง แต่เมื่อลงสนาม โชต้า ก็ไม่เคยทำให้สไตล์ของทีมต้องติดขัด แถมยังมีทีเด็ดตรงลูกขยันและสัญชาตญาณในการไปอยู่ถูกที่ถูกเวลา จนหาโอกาสจบสกอร์ได้อยู่เสมอ ถึงเวลานี้เขามีสถิติการจบสกอร์เป็นอันดับสองในทีมรองจาก ซาลาห์ เท่านั้น
โชต้า ยังมีในด้านความหลากหลายที่เขาสามารถยืนกองหน้าในตำแหน่งใดก็ได้ ไม่ว่า ซ้าย, ขวา หรือ ตรงกลาง จึงสามารถทดแทนได้ทั้ง มาเน่, ฟีร์มีโน่ และ ซาลาห์ ในอนาคต ที่จริงแล้วเขาเล่นในลักษณะหน้าคู่ได้ด้วย ทั้งสมัยจับคู่กับ ราอูล ฮิมิเนซ ให้ “หมาป่า” กับการเป็นคู่ขาของ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ในทีมชาติ “ฝอยทอง”
จุดเด่นอื่นๆของเขาที่ได้รับคำชมคือเรื่องของสปีดความเร็วซึ่งสามารถเร่งเครื่องได้ทุกเมื่อที่ต้องการ รวมทั้งการยิงบอลได้ดีทั้งสองเท้า
ลิเวอร์พูล สอยกองหน้าผู้นี้มาจาก วูล์ฟส์ ด้วยราคา 41 ล้านปอนด์ ถือเป็นตัวเลขที่ใกล้เคียงกับสมัยซื้อ ซาลาห์ 37 ล้านปอนด์จากโรม่า และ มาเน่ 35 ล้านปอนด์จากเซาธ์แฮมป์ตัน คล็อปป์ประสบความสำเร็จในการซื้อผู้เล่นแดนหน้าอีกครั้ง
ถึงตอนนี้มีคนเอาไปเทียบว่าถูกมากๆ ถ้าเทียบกับการที่ แมนฯ ซิตี้ ขนเงินไปซื้อ แจ็ค กรีลิช 100 ล้านปอนด์ หรือ เชลซี ทุ่ม 100 ล้านเพื่อ โรเมลู ลูกากู ขณะที่ แมนฯยูไนเต็ด หอบตังค์เทให้ เจดอน ซานโช่ 80 ล้าน รวมค่าตัวทั้งหมด 280 ล้านปอนด์ ปรากฏว่า 3 คนมีผลงานในฤดูกาลนี้รวมกันลงสนามไป 69 แมทช์ ยิงแค่ 13 ประตู ขณะที่ โชต้าคนเดียว เล่น 27 เกมซัดไปถึง 14 ลูก ถือว่าคุ้มเสียยิ่งกว่าคุ้ม
ดิโอโก้ โชต้า จะพัฒนาไปได้ถึงขนาดไหนเป็นเรื่องน่าจับตายิ่งนัก ทั้งกับสโมสรลิเวอร์พูลรวมทั้งทีมชาติโปรตุเกส ยอดกองหน้าผู้นี้อายุเพิ่งจะ 25 ปีเท่านั้น ต่อไปต้องถือเป็นความหวังและกำลังสำคัญในอนาคตให้ทั้งสองทีมอย่างแน่นอน