กลายเป็นประเด็นหลังเกม พรีเมียร์ลีก อังกฤษ นัดที่ “ปีศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด บุกไปเสมอกับ เบิร์นลี่ย์ 1-1 ที่สนาม เทิร์ฟ มัวร์ เมื่อคืนวันอังคารที่ 8 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา
โดยเกมนัดดังกล่าว คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ดาวยิงตัวเก่งของทัพปีศาจแดง กลับถูก ราล์ฟ รังนิค นายใหญ่ชาวเยอรมนี ดร็อปเป็นเพียงแค่ตัวสำรอง ก่อนส่งลงสนามในช่วงนาทีที่ 68 ของเกมเท่านั้น แต่ก็ไม่สามารถช่วยให้ทีมพลิกกลับมาเอาชนะได้
ซึ่งหลังสิ้นเสียงนกหวีดจบเกม ปรากฎว่า กองหน้าวัย 37 ปี ดูมีอาการไม่ค่อยพอใจกับผลการแข่งขัน และการที่เจ้าตัวต้องถูกจับนั่งข้างสนามเป็นตัวสำรอง วิ่งกลับเข้าอุโมงค์ทันทีโดยไม่มีการเดินไปขอบคุณแฟนบอลเหมือนกับทุกเกมที่ผ่านมา
สำหรับตามธรรมเนียมแล้วนั้นหลังจบเกม บรรดานักเตะของ แมนฯ ยูไนเต็ด จะต้องเดินไปขอบคุณแฟนบอลที่ตามมาเชียร์อยู่เสมอ ซึ่งบรรดานักเตะทุกคนรู้กฎข้อนี้ดี แต่กับเกมเมื่อค่ำคืนที่ผ่านมา คริสเตียโน่ โรนัลโด้ กลับวิ่งเข้าห้องแต่งตัวทันทีหลังสิ้นเสียงนกหวีดยาวโดยไม่สนใจที่จะขอบคุณแฟนบอล
งานนี้ทำเอาสื่อหลายสำนักต่างพุ่งเป้าไปที่การวางตัวของ โรนัลโด้ ว่าเป็นเรื่องของการแสดงออกถึงการไม่พอใจกับสถานการณ์ของตัวเองในตอนนี้ที่ไม่ได้ออกสตาร์ทเป็นสิบเอ็ดคนแรกเหมือนอย่างเคย และถูกลดบทบาทความสำคัญลง