ถึงจะมีเงินใช่ว่าจะต้องประสบความสำเร็จทุกเรื่องเสมอไป เว้นแต่จะมีใจรักและพร้อมที่จะลงมือทำไม่ว่าอะไรจะเกิด เหมือนกับชีวิตของ ฟาอิค โบลเกียห์ กองกลางวัย 23 ปี ดีกรีทีมชาติบรูไน ที่ได้รับการประเมินว่าเขามีทรัพย์สินส่วนตัวรวมกันสูงถึง 15 พันล้านยูโร หรือประมาณ 5.64 หมื่นล้านบาท
เหตุที่ โบลเกียห์ ร่ำรวยล้นฟ้าขนาดนี้ นั่นก็เพราะว่าเขามีศักดิ์เป็นหลานของสมเด็จพระราชาธิบดีสุลต่านฮัสซานัล โบลเกียห์ หรือพระมหากษัตริย์ของประเทศบรูไนคนปัจจุบัน ส่วนพ่อของเขาก็คือ เจฟฟรี โบลเกียห์ น้องชายคนเล็กของพระราชาธิบดีสุลต่านฮัสซานัลนั่นเอง
แต่ปัจจุบัน ชีวิตการเป็นพ่อค้าแข้งของ โบลเกียห์ ไม่ค่อยจะราบรื่นเหมือนกับฐานะ เพราะเขาเพิ่งจะยกเลิกสัญญากับ มาริติโม ทีมจากลีกสูงสุดโปรตุเกสไปเมื่อวานนี้เอง (15 ธ.ค.) ซึ่งเขายังไม่มีโอกาสลงสนามไปสัมผัสกลิ่นหญ้าเลยสักครั้ง นับตั้งแต่ย้ายมาเมื่อกลางปี 2020 โดยสโมสรได้ออกแถลงการณ์ว่า
“เราได้บรรลุข้อตกลงกับผู้เล่น ฟาอิค โบลเกียห์ เพื่อยกเลิกสัญญาของเขาแล้ว เราขอขอบคุณเขาสำหรับความพยายามและความทุ่มเทที่เขาแสดงให้เห็นในการรับใช้สโมสรของเรา และขออวยพรให้เขามีความสุขกับอาชีพในอนาคตอย่างจริงใจ”
ตลอดเวลาที่ โบลเกียห์ อยู่กับ มาริติโม เขาไม่เคยได้รับโอกาสจากทีมชุดใหญ่เลยแม้แต่นัดเดียว จนต้องลดระดับไปเล่นกับทีมชุดสำรอง ซึ่งก็ได้เล่นเพียงแค่ 2 เกมอีกต่างหาก จนท้ายที่สุดต้องยกเลิกสัญญาเพราะไม่ได้ลงเล่นเลย
ทางฝั่งของ รูเบน แซมมุต เพื่อนเก่าของ โบลเกียห์ ที่เคยเคียงบ่าเคียงไหล่กันสมัยเป็นเด็กฝึกของ เชลซี ได้เผยกับสำนักข่าว เดอะ ซัน ถึงเขาว่า “เขาเป็นคนถ่อมตนในห้องแต่งตัว ผมไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าเพื่อนผมคนนี้จะเป็นรัชทายาทลำดับที่ 12 ของบรูไน (ในตอนนั้น)”
“ผมเคยเล่นกับเขาที่ เชลซี แต่ผมไม่รู้มาก่อนว่าเขาเป็นใคร และไม่มีใครในทีมรู้ถึงภูมิหลังของเขาเช่นกัน”
ประวัติก่อนหน้านี้ของ โบลเกียห์ ถือว่าไม่ธรรมดา เพราะว่าเคยเป็นถึงเด็กฝึกของทีมดังในพรีเมียร์ลีก อย่าง เซาธ์แฮมป์ตัน, อาร์เซนอล, เชลซี และ เลสเตอร์ ซิตี้ แต่ไม่สามารถเบียดขึ้นมาเล่นกับชุดใหญ่ได้จนต้องเก็บข้าวของมาเล่นกับ มาริติโม ในลีกโปรตุเกส แต่ก็ยังไม่ได้เล่นสักนัดอยู่ดี ส่วนในนามทีมชาติ เขาเล่นให้กับทีมชาติบรูไนไป 6 เกม ยิงได้ 1 ประตู