sportpooltoday

การกลับมาที่เดิมอีกครั้งของ “เรือดำน้ำสีเหลือง”


การกลับมาที่เดิมอีกครั้งของ "เรือดำน้ำสีเหลือง"

ภารกิจล้มยักษ์เกิดขึ้นอีกครั้งในวงการฟุตบอล และมันเกิดขึ้นกับ “เรือดำน้ำสีเหลือง” บียาร์เรอัล เมื่อพวกเขาผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก หลังสองเกมสกอร์รวม 2-1 ส่ง บาเยิร์น มิวนิค คอพับกลับออกจากสนาม ส่วนพวกเขาแหงนหน้าขึ้นฟ้า ความฝันยังคงมีอยู่ เส้นทางยังมีให้เดินต่อไป

เส้นทางที่พวกเขาเคยเดินมาแล้วเมื่อเมื่อเกือบสองทศวรรษที่แล้ว
c17 ปีที่แล้ว บียาร์เรอัล ก้าวมาเล่นแชมเปี้ยนส์ ลีก เป็นครั้งแรกในฤดูกาล 2005-2006 ภายใต้การคุมทีมของ มานูเอล เปเยกรินี่ พร้อมกับนักเตะชื่อเสียงเรืองนามอย่าง ฆวน โรมัน ริเกลเม่, กิเยร์โม ฟรังโก้, กอนซาโล่ โรดริเกวซ และกองหน้าอย่าง ดิเอโก้ ฟอร์ลัน โดยมีดาวรุ่งที่ชื่อว่า ซานติ กาซอร์ล่า อยู่ในทีมในเวลานั้น

ปีนั้นพวกเขาสิ้นแรงที่รอบรองชนะเลิศ และสำหรับแฟนบอลอาร์เซนอลคงจำได้แม่นยำแน่นอน เมื่อ เยนส์ เลห์มันน์ เซฟจุดโทษในนาทีสุดท้ายของเกมที่สอง ทำให้ อาร์เซนอล เข้าชิงชนะเลิศเป็นครั้งแรกและครั้งเดียวในประวัติศาสตร์สโมสร

บียาร์เรอัล ไม่เคยกลับมาอยู่ในจุดที่วันนี้ทำได้อีกเลย แถมยังเคยตกชั้นมาหนึ่งครั้งในฤดูกาล 2011-2012 มาวันนี้พวกเขากลับมาได้อีกครั้งอย่างภาคภูมิใจในฐานะของแชมป์ยูโรป้า ลีก เมื่อฤดูกาลที่แล้ว
z17 ปีต่อมา พวกเขากลับมาถึงจุดเดิมอีกครั้งภายใต้การคุมทีมของอูไน อเมรี่ (50 ปี) โค้ชชาวสเปนที่เก่งเรื่องการทำทีมในฟุตบอลถ้วยอย่างแท้จริง อูไน นับตั้งแต่ปี 2013 เป็นต้นมา ทุกสโมสรที่เขาคุมทีม เขาสามารถพาทีมเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศฟุตบอลถ้วยได้ทั้งหมด หลายสโมสรจบลงด้วยแชมป์ แต่กับ อาร์เซนอล ไม่ได้เกิดขึ้นในรอบชิงชนะเลิศยูโรป้า ลีก 2019

บียาร์เรอัล ถ้าพลาดแชมป์รายการนี้ พวกเขาอาจไม่ได้มาอีกในปีหน้า เพราะคะแนนในลาลีกา ห่างไกลจากความเป็นไปได้ทุกขณะจิต คืนนี้จะได้รู้กันแล้วว่า ลิเวอร์พูล หรือว่า เบนฟิก้า จะเป็นคู่แข่งรายต่อไปของพวกเขา
qสิ่งที่บังเอิญ หรือจะเรียกว่าโคตรบังเอิญคือรอบชิงชนะเลิศปีนี้จะแข่งขันที่ สต๊าด เดอ ฟรองซ์ ในกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส สังเวียนรอบชิงชนะเลิศที่พวกเขาได้แต่มองอาร์เซนอลเข้าถึงในวันนั้นเมื่อ 17 ปีที่แล้ว มาวันนี้ พวกเขาได้ฝันถึงมันอีกครั้ง

ขอให้ใชคดีอูไน และกองทัพเรือดำน้ำสีเหลือง