“หงส์แดง” ลิเวอร์พูล โชว์ฟอร์มโหดบุกไปรัวถล่ม เรนเจอร์ส ถึงถิ่น 7-1 เก็บเพิ่มสามแต้ม รั้งอันดับ 2 ของกลุ่มด้วยการมี 9 คะแนน โอกาสผ่านเข้ารอบต่อไปสดใส เราไปดูประเด็นสำคัญที่เกิดขึ้นในเกมนัดนี้กัน
เรนเจอร์ส ดุครึ่งแรก !
หากดูแค่สกอร์ในเกมนี้ที่ออกมาขาดลอยถึง 1-7 หลายคนอาจจะคิดว่าเกมนี้ หงส์แดง เป็นฝ่ายไล่บุกอัดอยู่ฝ่ายเดียวอย่างแน่นอน แต่นั่นไม่ใช่สิ่งที่เกิดขึ้นเลยในช่วง 45 นาทีแรกที่ เรนเจอร์ส สร้างเซอร์ไพรส์เปิดเกมบุกเข้าใส่แลกหมักได้อย่างคู่คี่สูสีแถมยังยิงนำก่อนได้อีกต่างหากจน ลิเวอร์พูล ตั้งเกมไม่ติด โดยเฉพาะการต่อบอลเข้าพื้นที่สุดท้ายที่พวกเขาทำได้ดีผิดหูผิดตา จนกระทั่ง ฟิร์มิโน มาโขกตีเสมอทำให้ทีมเยือนเริ่มได้ลืมตาอ้าปากบ้าง ก่อนที่ คล็อปป์ จะแก้เกมมาไล่ถลุง 6 ประตูรวดในครึ่งหลังชนิดที่อย่างกับหนังคนละม้วนเลยก็ว่าได้
Rangers FC v Liverpool FC: Group A – UEFA Champions LeagueRangers FC v Liverpool FC: Group A – UEFA Champions League / Matthew Ashton – AMA/GettyImages
ซาลาห์ ฟิร์มิโน กับความมั่นใจที่กลับมา
เกมนี้ บังโม เริ่มต้นจากการเป็นตัวสำรองก่อนจะถูกส่งลงมาวอร์มเครื่องในนาทีที่ 68 ซึ่งขณะนั้นทีมออกนำอยู่ 1-2 แต่หลังจากเจ้าตัวอยู่ในสนามไม่นานก็จัดการใช้เวลาไม่ถึง 6 นาทีในการยิง 3 ลูกรวดอย่างเฉียบขาดชนิดที่เราอาจจะไม่ได้เห็นผลงานดุดันแบบนี้มานาน คืนฟอร์มเก่งในฐานะตัวสำรองได้แบบหน้าตาเฉย ขณะที่ บ็อบบี้ ฟิร์มิโน ดูเหมือนจะกลายเป็นคนที่แฟน ๆ หวังพึ่งมากที่สุดในแดนหน้าไปเสียแล้วเพราะในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมาก็มีแต่เขาที่สามารถผลิตสกอร์สร้างสรรค์เกมให้ทีมได้ในช่วงเวลาอันยากลำบาก แถมยังดูมั่นใจขึ้นแบบชัดเจนทั้งจากการโชว์ลีลาต่าง ๆ รวมถึงสีหน้าท่าทางในยามที่ได้เล่นกับบอล
Mohamed SalahRangers FC v Liverpool FC: Group A – UEFA Champions League / Alex Livesey – Danehouse/GettyImages
สถานการณ์หลังผ่านเกมที่ 4
สำหรับใน กลุ่มเอ นี้เราเริ่มจะเห็นลาง ๆ แล้วว่าทีมใดจะจบที่ไหนอย่างไรหลังผ่านรอบแบ่งกลุ่ม แน่นอนว่า นาโปลี ที่คว้า 12 แต้มรวดจะผ่านเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายแน่นอนแล้วหลังจาก อาแจ็กซ์ ทีมอันดับสามที่มีเพียง 3 คะแนนกับ 2 เกมที่เหลือทำให้ไม่สามารถไล่ตามทันแน่นอน ขณะที่ เรนเจอร์ส ที่ยิงมี 0 คะแนนนั้นยังมีโอกาสจบที่ 3 เพื่อไปเล่นในศึก ยูโรปาลีก ต่อไป แต่นั้นหมายความว่าพวกเขาต้องเอาชนะในสองเกมที่เหลือให้ได้เท่านั้น ส่วน ลิเวอร์พูล ที่มี 9 คะแนนอยู่อันดับที่สองต้องการอีกเพียง 1 คะแนนจะการันตีตบเท้าเข้ารอบตาม นาโปลี ไป ซึ่งทางเดียวที่ อาแจ็กซ์ จะเบียด หงส์แดง เข้ารอบได้ก็คือพวกเขาต้องชนะทั้งสองเกมที่เหลือรวมถึงชนะ ลิเวอร์พูล ด้วยผลต่างประตูมากที่สุดและลุ้นให้ หงส์แดง แพ้ นาโปลี ในเกมนัดสุดท้าย
UEFA Champions League group AUEFA Champions League group A”SSC Napoli v Ajax Amsterdam” / ANP/GettyImages
งานหินรออยู่
โอกาสเข้ารอบของ ลิเวอร์พูล ค่อนข้างสดใสขึ้นจากเดิมทันตาหลังจากคว้าชัยในเกมนี้มาครองได้สำเร็จ แต่อย่างไรก็ตามพวกเขามีคิวเจอของแข็งในวันอาทิตย์ที่จะถึงนี้ด้วยการเปิดรัง แอนฟิลด์ ต้อนรับการมาเยือนของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่ร้อนแรงแทบจะที่สุดในยุโรปแล้ว ณ เวลานี้ นั่นทำให้ คล็อปป์ ยอมพักผู้เล่นตัวหลักราย ๆ ไว้บนม้านั่งก่อนที่จะทะยอยปล่อยลงสนามมาวอร์มอัพ แน่นอนว่าชั่วโมงนี้ยังไง เรือใบ ก็ดูเหนือกว่า แต่จะประมาท หงส์แดง ไม่ได้เด็ดขาด วันอาทิตย์ที่ 16 ตุลาคมนี้เวลา 22.30 น. ตามเวลาบ้านเรา ห้ามพลาด !
Jurgen KloppRangers FC v Liverpool FC: Group A – UEFA Champions League / Ian MacNicol/GettyImages
