sportpooltoday

ก้าวแรกแห่งชัยชนะของ “โปเช็ตติโน” ในฐานะกุนซือคนใหม่ เชลซี – [OPINION]


ก้าวแรกแห่งชัยชนะของ "โปเช็ตติโน" ในฐานะกุนซือคนใหม่ เชลซี - [OPINION]

เชลซี สโมสรดังแห่งศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เริ่มต้นเข้าสู่ยุคใหม่อีกครั้ง หลังจากได้ เมาริซิโอ โปเช็ตติโน เข้ามาคุมทีม และนับเป็นกุนซือรายที่ 4 ในรอบ 1 ปีของพวกเขา ซึ่งหลังจากความวุ่นวานในถิ่นสแตมฟอร์ด บริดจ์ ตลอดห้วงที่ผ่านมา “สิงโตน้ำเงินคราม” จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องเดินหน้าต่อไป  

โชเซ มูรินโญ เทรนเนอร์ชาวโปรตุเกส เคยแถลงข่าวอย่างกล้าหาญในวันแรกที่มาคุม เชลซี เมื่อปี 2004 ด้วยการบอกว่า ตัวเองคือ “เดอะ สเปเชียล วัน” ขณะที่ เยอร์เกน คล็อปป์ ประกาศในวันแรกที่คุม ลิเวอร์พูล เมื่อปี 2015 ว่า จะคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกภายใน 4 ปี และก็ทำสำเร็จในปีที่ 5

โปเช็ตติโน ก็ทำในแบบเดียวกับ มูรินโญ และ คล็อปป์ ในการแถลงข่าวอย่างเป็นทางการในฐานะกุนซือ เชลซี โดยระบุว่า ปัญหาต่างๆในสโมสรต้องได้รับการจัดการให้ถูกต้อง และทำให้เห็นว่า งานใหม่ของเขาทำด้วยแรงจูงใจ
sสิ่งที่ โปเช็ตติโน พูดออกมาเป็นองค์ประกอบพื้นฐานในการคุมสโมสรระดับท็อป ซึ่งอดีตโค้ช เชลซี ทั้ง 3 รายก่อนหน้านี้อย่าง โธมัส ทูเคิล, เกรแฮม พ็อตเตอร์ และ แฟรงค์ แลมพาร์ด ไม่เคยแสดงความคิดเห็นในลักษณะนี้ออกมาเลย

ทูเคิล เคยพา เชลซี คว้าถ้วยยูฟา แชมเปียนส์ ลีก เมื่อปี 2021 แต่มีปัญหาเรื่องความสัมพันธ์กับ ท็อดด์ โบห์ลี เจ้าของสโมสร ขณะที่ พ็อตเตอร์ ไม่มีประสบการณ์ และขาดความมั่นใจที่จะผ่านวิกฤต ส่วน แลมพาร์ด ก็เป็นแค่การแก้ปัญหาเฉพาะหน้าเท่านั้น

อย่างไรก็ตาม โปเช็ตติโน มีคุณสมบัติพร้อมทุกอย่างในการเข้ามาทำงานกับ เชลซี โดยก่อนหน้านี้ โค้ชวัย 51 ปี เคยคุมทีมดังอย่าง ปารีส แซงต์-แชร์กแมง และต้องเจอกับปัญหามากมาย อาทิ ข้อเรียกร้องจากเจ้าของทีมชาวกาตาร์ และการบริหารนักเตะซูเปอร์สตาร์ อย่าง ลิโอเนล เมสซี, คีเลียน เอ็มบัปเป และ เนย์มาร์
bการปรากฏตัวต่อหน้ากล้องครั้งแรกของ โปเช็ตติโน บ่งบอกว่า ได้เรียนรู้จากประสบการณ์ที่ เปแอสเช มาแล้ว ซึ่งเขาแสดงถึงความต้องการอย่างชัดเจนก่อนเข้ามารับงานที่ เชลซี ว่า เจ้าของสโมสรต้องไม่มาวุ่นวายกับการทำงานในห้องแต่งตัว

พ็อตเตอร์ และ แลมพาร์ด ไม่เคยแสดงความรู้สึกว่าพวกเขาเป็นผู้รับผิดชอบผลงานของทีม โดยเคยมีเหตุการณ์ที่ โบห์ลี ขอเข้าไปในห้องแต่งตัวเพื่อพูดคุยกับนักเตะ และเป็นคนให้สัมภาษณ์ออกสื่อถึงฟอร์มการเล่นที่ย่ำแย่ของทีมด้วยตัวเอง

อดีตเทรนเนอร์ ท็อตแนม ฮ็อตสเปอร์ ต้องการคุมทีมแบบเบ็ดเสร็จเด็ดขาด ยกตัวอย่างในกรณีอนาคตของ โรเมลู ลูกากู กองหน้าชาวเบลเยียมที่หมดสัญญายืมตัวจาก อินเตอร์ มิลาน นั้น โบห์ลี มองว่า ควรจะเก็บไว้เพราะเป็นนักเตะค่าตัวแพง แต่ โปเช็ตติโน ยืนยันว่า เขาจะตัดสินอนาคตผู้เล่นเอง

ขณะเดียวกัน มีผู้เล่นหลายรายของ เชลซี ที่กำลังรอดูว่า อนาคตของพวกเขาจะได้อยู่ที่สแตมฟอร์ด บริดจ์ หรือสโมสรอื่นๆ ซึ่งความไม่แน่นอนในช่วงซัมเมอร์นี้ โปเช็ตติโน ต้องเป็นคนจัดการทั้งหมดว่า ใครจะอยู่ในแผนการทำทีมสำหรับฤดูกาลหน้าบ้าง
iนอกจากนี้ โปเช็ตติโน มีงานหนักรออยู่ในต้องเรียกฟอร์มนักเตะอย่าง มิไคโล มูดรีก ปีกชาวยูเครน กลับมาให้ได้ และต้องหาตำแหน่งที่เหมาะสมให้กับนักเตะใหม่อย่าง คริสโตเฟอร์ เอ็นคุนคู และ นิโคลัส แจ็คสัน

ในแผงกองกลาง โปเช็ตติโน ก็ต้องหาคนเข้ามาช่วยงาน เอ็นโซ เฟร์นันเดซ หลังจากบรรดามิดฟิลด์อย่าง เอ็นโกโล ก็องเต, มาเตโอ โควาชิช, ไค ฮาแวร์ตซ์ และ เมสัน เมาต์ โดนปล่อยออกจากทีมไปทั้งหมดแล้ว

ขณะที่อนาคตของ ลีวาย โคลวิลล์ กองหลังทีมชาติอังกฤษชุดอายุต่ำกว่า 21 ปี ก็ยังไม่ชัดเจน หลังจากผู้เล่นต้องการโอกาสลงสนามอย่างสม่ำเสมอ และ ลิเวอร์พูล ก็ให้ความสนใจอย่างมาก ซึ่ง โปเช็ตติโน ต้องเคลียร์ให้ชัดเจนว่า ผู้เล่นยังมีอนาคตต่อไปหรือไม่

อย่างไรก็ตาม แม้จะมีงานที่ต้องทำอีกมาก แต่ขั้นตอนแรกของการสร้าง เชลซี โฉมใหม่ของ โปเช็ตติโน นั้น เขาได้รับชัยชนะไปแล้วจากการแถลงข่าวเปิดตัวที่ยอดเยี่ยมในฐานะผู้จัดการทีมคนใหม่ที่มาพร้อมความกดดันมหาศาล